ฮาร์ลีย์-เดวิดสัน เดินหน้ารุกตลาดบิ๊กไบค์พรีเมียมไตรมาส 3 ด้วยการเปิดตัวรถรุ่นใหม่ Sportster S ที่ได้รับการออกแบบขึ้นใหม่ทั้งหมด และถือเป็นก้าวแรกของยุคใหม่แห่งรถมอเตอร์ไซค์ตระกูลสปอร์ตสเตอร์ ด้วยเครื่องยนต์ V-Twin สองลูกสูบ Revolution® Max 1250T กำลัง 121 แรงม้า โดยรถในรุ่นใหม่นี้มีสีให้เลือกได้แก่ Vivid Black, Stone Washed White Pearl, Midnight Crimson และจะส่งถึงตัวแทนจำหน่ายอย่างเป็นทางการในเดือนสิงหาคม ในราคา 709,000 บาท
สำหรับจุดเด่นและไฮไลท์ของฮาร์ลีย์-เดวิดสัน Sportster S โดยรถมอเตอร์ไซค์รุ่นนี้ถือเป็นรุ่นล่าสุดที่พัฒนาขึ้นใหม่หมด สร้างขึ้นบนพื้นฐานของเครื่องยนต์ Revolution Max และยังมีสไตล์ดุดันและทรงพลัง ถังน้ำมันและส่วนท้ายรถถูกประกบเข้ากับเครื่องยนต์ ยางหน้าขนาดใหญ่แบบไร้บังโคลนให้ความรู้สึกเหมือนกับรถมอเตอร์ไซค์สไตล์บ็อบเบอร์สุดคลาสสิก
ส่วนท้ายของรถ ท่อไอเสียที่มีการยกสูง และที่นั่งเดี่ยวแบบบาง ได้แรงบันดาลใจมาจากรถมอเตอร์ไซค์แข่งรุ่น XR750 ของฮาร์ลีย์-เดวิดสัน ระบบส่งกำลังมาพร้อมพื้นผิวแบบ Chocolate Satin บนฝาครอบเครื่องยนต์แมกนีเซียมน้ำหนักเบา
เครื่องยนต์ Revolution Max 1250T ขนาด 1,250 ซีซี โดยเครื่องยนต์ V-Twin พร้อมระบบระบายความร้อนด้วยน้ำรุ่นใหม่ล่าสุดของฮาร์ลีย์-เดวิดสันนี้ ได้รับการปรับแต่งให้มีแรงบิดมหาศาลที่ความเร็วรอบต่ำ ทำให้เครื่องยนต์ตอบสนองต่อการเร่งได้ดี และการที่เครื่องยนต์อยู่ในตำแหน่งกลางโครงรถเพื่อลดน้ำหนักโดยรวมของรถมอเตอร์ไซค์ลงให้เหลือน้อยที่สุด โดยการใช้วัสดุน้ำหนักเบา เพื่อช่วยให้เกิดอัตราส่วนน้ำหนักต่อแรงม้าที่สูง
Sportster S ยังมาพร้อมกับถังน้ำมันขนาด 11.8 ลิตร เมื่อเติมน้ำมันเต็มถังแล้ว รถจะมีน้ำหนักเพียงแค่ 228 กิโลกรัม ส่วนท่อไอเสียแบบสองหนึ่งสอง (2-into-1-into-2) ที่ถูกติดตั้งไว้ในตำแหน่งสูงนี้ ได้รับการออกแบบเพื่อให้เกิดเสียงสุดเข้มความถี่ต่ำโดนใจ
รถมอเตอร์ไซค์รุ่น Sportster S ยังมาพร้อมเทคโนโลยีแห่งอนาคต ไม่ว่าจะเป็นโหมดการขับขี่สามรูปแบบ ได้แก่ Sport Road และ Rain ที่เลือกใช้ได้ตามใจชอบ โดยโหมดเหล่านี้ถูกควบคุมด้วยระบบอิเล็กทรอนิกส์ เพื่อควบคุมลักษณะการวิ่งของรถและเทคโนโลยีควบคุมรถต่างๆหรือจะตั้งโหมดการขับขี่เองก็ได้
ฟีเจอร์ Cornering Rider Safety Enhancements เพิ่มความมั่นใจให้แก่ผู้ขับขี่แม้ในสถานการณ์คับขัน หรือในสภาพถนนที่อันตราย ระบบความปลอดภัยนี้ ได้รับการออกแบบเพื่อปรับสมรรถนะของรถมอเตอร์ไซค์ให้ล้อสามารถเกาะถนนได้ดีในขณะเร่งเครื่อง เบาเครื่อง ไปจนถึงหยุดรถ ไม่ว่าจะบนทางตรง หรือทางโค้ง
จอภาพกลมแบบ TFT ขนาด 4.0 นิ้ว สำหรับแสดงการทำงานทุก ๆ ส่วนของรถ และรองรับการใช้งานอินโฟเทนเมนต์จากโทรศัพท์มือถือและชุดอุปกรณ์ในหมวกนิรภัยผ่านระบบบลูทูธของผู้ขับขี่ รองรับการเล่นเพลง และการรับสายเข้า-โทรออก
นอกจากนี้ ระบบไฟของ Sportster S นั้นเป็นหลอด LED ทั้งหมด ซึ่งรวมถึงไฟหน้า Daymaker Signature ที่ออกแบบมาให้ส่องแสงด้วยความสว่างเท่า ๆ กันในทุกบริเวณ เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดจุดแสงจ้าซึ่งอาจทำให้ผู้ขับขี่เสียสมาธิ
รถมอเตอร์ไซค์ Sportster S ใช้โช้คหน้าและหลังคุณภาพสูง พร้อมให้ปรับแต่งได้อย่างอย่างเต็มที่ ระบบกันสะเทือนด้านหน้าใช้โช้คตะเกียบหัวกลับขนาด 43 มม.จาก SHOWA ส่วนระบบกันสะเทือนหลังใช้โช้คไฮดรอลิก SHOWA Piggyback ซึ่งสามารถปรับตั้งได้สะดวก ด้วยการหมุนลูกบิดที่อยู่ด้านซ้ายของรถ ล้ออะลูมิเนียมหล่อน้ำหนักเบาแบบห้าซี่ต่างขนาด ใส่ยาง Dunlop หรือ Harley-Davidson Series GT503
พร้อมระบบเบรค Brembo โดยเบรกหน้าแบบเดี่ยวใหม่จาก Brembo นี้ มีรูปทรงโค้งแบบขึ้นรูปชิ้นเดียวและมีสี่ลูกสูบ ในขณะที่จานเบรกมีขนาดเส้นผ่านศูนย์กลาง 320 มม. ส่วนเบรคหลังใช้ปั๊มเบรกแบบสองลูกสูบจาก Brembo และมีจานเบรกขนาดเส้นผ่านศูนย์กลาง 260 มม.
ก้านเบรกและคลัทช์สามารถปรับตั้งได้เพื่อให้เหมาะกับขนาดมือและความชอบของผู้ขับขี่ รถมอเตอร์ไซค์รุ่น Sportster® S มีสายไฟสำหรับต่อมือจับที่ทำความร้อนได้เพื่อความอบอุ่นขณะขับขี่ในสภาพอากาศเย็น และมีจุดจ่ายไฟพิเศษสำหรับชุดอุปกรณ์เสริมที่ทำความร้อนได้ (อันได้แก่มือจับทำความร้อนและเครื่องแต่งกายทำความร้อนซึ่งมีจำหน่ายแยกต่างหาก)
ทั้งยังมีช่องเสียบ USB-C เพื่อชาร์จโทรศัพท์มือถือและอุปกรณ์อื่น ๆ ตัววัดอุณหภูมิภายนอกและระบบแจ้งเตือนเมื่ออุณหภูมิต่ำบนจอภาพ เพื่อเตือนให้ผู้ขับขี่รับรู้ถึงสภาพแวดล้อมที่เปลี่ยนไปขณะขับขี่ Sportster® S ยังมาพร้อมกับระบบควบคุมความเร็วและระบบความปลอดภัยรอบรถ ซึ่งถูกติดตั้งมาเป็นอุปกรณ์มาตรฐาน รวมถึงถังน้ำมันทำจากเหล็กกล้าความจุ 11.8 ลิตร
รถรุ่นใหม่ยังมีอุปกรณ์เสริมให้เลือกซื้อเพิ่ม ผ่าน Harley-Davidson Genuine Motor Accessories โดยมีอุปกรณ์เสริมที่น่าสนใจดังนี้