Super-Aged Society หรือ สังคมสูงอายุระดับสุดยอด มีแนวโน้มจะเกิดขึ้นในประเทศไทย เร็วกว่าที่คิด นั่นคือ ปี 2572 หลังอัตราการเกิดต่ำ ประชากรลดลง ตลอดช่วง 3 ปีโควิดที่ผ่านมา (2563-2565) ทำให้ภาคธุรกิจ ยิ่งต้องเร่งปรับรูปแบบสินค้าและบริการ เพื่อให้ตอบโจทย์กลุ่มกำลังซื้อขนาดใหญ่ ของประเทศที่กำลังแซงหน้ากลุ่มมิลเลนเนียล
โดยหลายบทวิจัย ชี้ชัด "คนสูงวัย" ยุคนี้ ไม่เหมือนกับยุคก่อนอย่างสิ้นเชิง จนเกิดนิยาม ชาวซิลเวอร์ (Silver Age) มีศักยภาพ มีกำลังซื้อสูง อีกทั้ง ให้ความสำคัญกับ มิติของ คำว่า ไลฟ์สไตล์ และมองหา การดูแลสุขภาพ (Healthcare ) การท่องเที่ยว และการวางแผนอยู่อาศัย ในแวดล้อมดีๆ สังคมคุณภาพ หวังให้เกิดภาวะ "สุขกาย สบายใจ" เพื่อเก็บเกี่ยวความสุขกับลูกหลานไปอีกนานแสนนานร่วมด้วย
นำมาซึ่งตลาดโอกาสในภาคธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ กลุ่ม Senior Living ที่รายไหนรายนั้น มองว่า โอกาสไม่ได้มีแค่ "วัยเก๋า" ในประเทศ แต่ชาวต่างชาติก็อยากมาใช้ชีวิตหลังเกษียณในประเทศไทยด้วย ยิ่งโปรเจ็กต์ไหน มีจุดเด่นด้านการแพทย์ และการดูแลสุขภาพแบบองค์รวมให้บริการร่วมด้วย ยิ่งเป็นที่สนใจของคนกลุ่มวัยดังกล่าว
บิ๊กโปรเจ็กต์ " เดอะ ฟอเรสเทียร์ " เนื้อที่ครอบคลุม 398 ไร่ ย่านบางนา-ตราด เกย์เวย์สู่พื้นที่ยุทธศาสตร์อีอีซี และถูกชูเป็นโมเดลของการพัฒนาเมืองในอนาคต วันนี้ยังเป็นต้นแบบของการพัฒนา Senior Living ผ่านโครงการ ‘ดิ แอสเพน ทรี’ ที่มีความน่าสนใจในทุกด้านอย่างน่าจับตามอง โดยเฉพาะ การส่งเสริมสุขภาพที่ดีขึ้นในการอยู่อาศัย และ คุณภาพสิ่งแวดล้อม ที่เป็นปัจจัยแรกเริ่มที่ "วัยเก๋า"ต่างมองหา
ดิ แอสเพน ทรี ชู แนวคิดการดูแลตลอดชีวิต
" มีสุขภาพดี พึ่งพาตัวเองได้ " เป็นฝันของคนสูงวัยทุกคน และกลายเป็นแกนหลัก ที่ MQDC หรือ บริษัท แมกโนเลีย ควอลิตี้ ดีเวล็อปเม้นต์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด นำมาใช้ในการพัฒนาโครงการ ดิ แอสเพน ทรี โดย นางสาว เฮ จูน พาร์ค ประธานผู้อำนวยการโครงการ เชื่อว่า คนทุกวันนี้ คาดหวังที่จะมีชีวิตหลังเกษียณแบบสบายๆ มีชีวิตอยู่ต่อไปอีกไม่ต่ำกว่า 25 ปี และมีสุขภาพแข็งแรงแม้จะอายุเข้า 80-90 ปีแล้วก็ตาม โดยตัวแปรสำคัญ เพียงแต่ต้องมีบริการที่คอยดูแลอย่างใกล้ชิดและมีสิ่งอำนวยความสะดวกพร้อมเทคโนโลยีที่ทันสมัย รวมทั้งมีกิจกรรมที่จะมาเติมเต็มชีวิตให้สมบูรณ์ทั้งทางกายและทางใจให้กับกลุ่มคนดังกล่าว
ซึ่ง"โครงการ ดิ แอสเพน ทรี "คอนโดมิเนียมและสกายวิลล่าระดับเฟิร์สคลาส มีจุดเด่นพิเศษ ที่เน้นดีไซน์ปลอดภัย และเอื้อต่อการใช้ชีวิตของผู้อยู่อาศัยในวัยนี้อย่างแท้จริง อีกทั้งมีบริการด้านการดูแลรักษาสุขภาพของวัยที่ต้องดูแลเป็นพิเศษ หรือความต้องการอื่นๆ เช่น อำนวยความสะดวกการเดินไปที่ทาวน์เซ็นเตอร์ของเดอะ ฟอเรสเทียส์ หรือเดินเล่นในป่าเนื้อที่ 30 ไร่ ทั้งหมดนี้ ถูกเรียกว่า แนวคิดการดูแลตลอดชีวิต (Life-time Care)
นอกจากนี้ ดิ แอสเพน ทรี ยังมีศูนย์สุขภาพและสมอง (Health & Brain Center) ที่มีบริการทางการแพทย์พิเศษเฉพาะ เพื่อให้บริการหากผู้พักอาศัยของโครงการต้องการ โดยการจ่ายเบี้ยประกันสุขภาพอีกทั้งค่าใช้จ่ายในการรักษาพยาบาล จะถูกเหมารวมทั้งหมดไว้ในราคาที่ซื้อกับโครงการแล้ว ช่วยลดความเสี่ยงจากความไม่แน่นอนทางการเงิน
" ซื้อบ้านครั้งเดียว นอกจากจะได้ที่พักอาศัยแล้ว เจ้าของบ้านยังจะได้รับประกันสุขภาพ ซึ่งครอบคลุม รักษาพยาบาลไปจนถึงอายุ 99 ปี ดูแลการใช้ชีวิตแบบตลอด 24 ชั่วโมงทุกวัน บริการแม่บ้านทุกสัปดาห์ ร่วมกับการดูแลด้านโภชนาการเป็นพิเศษ รวมถึงกิจกรรมทางสังคม อย่างกลุ่มเรียนศิลปะ และงานฝีมือ เป็นต้น "
ตลาด ที่พัก "ผู้สูงวัย" แนวโน้มโตแรง
เจาะลึกในแนวคิด Life-time Care ของ MQDC ต่อโครงการ ดิ แอสเพน ทรี ที่เน้นการอยู่อาศัยของคนสูงวัยอายุ 50 ปีขึ้นไป ทั้งคนไทยและคนต่างชาตินั้น นาย วิทยา สินทราพรรณทร ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาดโครงการ ของ MQDC ให้รายละเอียดน่าสนใจเพิ่มเติมว่า สหประชาชาติ คาดการณ์ว่าประเทศไทยจะมีพลเมืองอาวุโสเพิ่มขึ้นจากในปัจจุบันประมาณสองเท่าตัวภายในปี2593 นั่นหมายความว่า 1 ใน 3 ของประชากรทั้งหมดของไทย จะเป็นคนสูงวัย แต่ความต่าง คือคนสูงวัยที่เพิ่มขึ้นนี้ มีสุขภาพดีกว่าเมื่อก่อน
เพราะฉะนั้น เราจะมีคนจำนวนมากขึ้น ที่แสวงหาการใช้ชีวิตแบบสบายๆ มีความสุขในช่วงวัย 60 ปีขึ้นไป โดยไม่ต้องการพึ่งพาใคร สามารถใช้ชีวิตอิสระ ได้ทำในสิ่งที่ชอบ ใช้ชีวิตในแบบที่เป็นตัวเอง ซึ่ง ดิ แอสเพน ทรี ถูกพัฒนาขึ้นมารองรับทุกความต้องการข้างต้น พร้อมเชื่อว่าตลาดที่พักอาศัยสำหรับคนวัยนี้จะเป็นเซ็กเมนต์ที่เติบโตอย่างรวดเร็ว
"มีคนจำนวนมากขึ้นเรื่อยๆ ที่มองหาที่อยู่อาศัยซึ่งมีบริการที่ช่วยให้ตนเองสามารถที่จะใช้ชีวิตอย่างอิสระไร้ความกังวัลได้ในช่วงวัยที่สวยงาม โดยไม่ต้องพึ่งพาให้ลูกหลานต้องกังวลคอยช่วยเหลือดูแลปรนนิบัติทุกอย่าง "
ผุดโมเดล "ทดลองอยู่"
ทั้งนี้ MQDC เชื่อมั่นว่า ด้วยสภาพแวดล้อมที่ปลอดภัยไร้กังวล รวมทั้งธรรมชาติของเดอะ ฟอเรสเทียส์ จะเป็นที่สนใจต่อกลุ่มเป้าหมาย โดยล่าสุดได้นำร่องเปิดแพ็คเกจ ให้กลุ่มเป้าหมาย ได้เข้ามาทดลองอยู่อาศัย ในโครงการ ดิ แอสเพน ทรี ผ่านการเลือกได้ ระยะเวลา
1 ปีและระยะเวลา 5 ปี สำหรับห้องพักขนาด 1 ห้องนอนหรือ 2 ห้องนอน โดยพื้นที่ใช้สอยมีขนาดตั้งแต่ 80 กว่าตารางเมตร ไปจนถึง 123 ตารางเมตร พร้อมสิ่งอำนวยความสะดวกเพื่อการใช้ชีวิตและการทำกิจกรรม โดยในแพ็คเกจระยะ 5 ปี จะมีประกันสุขภาพตลอดระยะเวลาที่พักอาศัยให้ร่วมด้วย เพื่อประกอบการตัดสินใจ ซึ่งเมื่อสิ้นสุดระยะเวลาทดลองอยู่ เงินที่จ่ายไปในช่วงเวลาห้าปีนั้น บริษัทจะนำมาหักออกจากราคาที่จะอยู่ตลอดชีวิต
สำหรับ ดิ แอสเพน ทรี ประกอบด้วยที่พักอาศัยจำนวน 290 ยูนิต ซึ่งตั้งอยู่ในโครงการเดอะ ฟอเรสเทียส์ มีขนาดพื้นที่ตั้งแต่ 83 ตารางเมตรไปจนถึง 253 ตารางเมตรทุกยูนิตสามารถมองเห็นผืนป่าเดอะ ฟอเรสเทียส์ขนาด 30 ไร่ ใกล้ชิดธรรมชาติ และโครงการอื่นๆในอาณาบริเวณใกล้กัน อีกหนึ่งโครงการที่ตอบสนองความต้องการของคนวัยนี้อย่างแท้จริง