การมีชีวิตที่ดี (Good Life) อย่างสมบูรณ์แบบ ของคนเมือง เป็นเรื่องไม่ง่ายเลย สำหรับในยุคปัจจุบัน ขณะนิยามของคำว่า "บ้าน" ถูกเติมใหม่จากปัจจัยหลายอย่างที่เปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง บ้าน จึงไม่แค่ที่พักพิงอยู่อาศัย และ ไม่ใช่บ้านหลังใหญ่ ที่ดูโอ่อ่าเท่านั้น แต่บ้าน อาจอยู่ในนาม "อสังหาริมทรัพย์" รูปแบบอื่นๆ ที่อยู่อาศัยได้อย่างมีความสุข ท่ามกลาง เส้นทางคมนาคมการเข้า - ออก เมืองสะดวกสบาย อีกทั้งมูลค่าของบ้านทวีขึ้นตามเวลา ภายใต้คุณภาพชีวิตที่ดี ครอบคลุมทั้ง ระยะสั้น ระยะยาว เพราะมีไลฟ์สไตล์ และ สิ่งแวดล้อมที่ตอบโจทย์แบบฟลูออฟชั่น
กระแสฮือฮาในแวดวงอสังหาริมทรัพย์ ภายใต้เมกะโปรเจ็กต์ดัง "เดอะ ฟอเรสเทียส์" หนึ่งในโครงการอสังหาริมทรัพย์ของภาคเอกชนที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย ยังคงเดินหน้าสร้างมิติใหม่ๆ ของพัฒนาโครงการที่อยู่อาศัยไม่หยุด ตั้งแต่งานระบบ ไปจนถึงการมอบประสบการณ์ของการอยู่อาศัยแบบไม่รู้จบ ตามแนวคิด : การใช้ชีวิตแบบสุขภาพดี และมีความสุข ที่คนปัจจุบันต่างกำลังเสาะแสวงหา
++ เดอะ ฟอเรสเทียส์ เปิดตัว "ซิกเนเจอร์ ซีรีส์"
ที่อยู่อาศัยโครงการใหม่ล่าสุด ได้แรงบันดาลใจจากธรรมชาติ เจาะกลุ่มผู้ซื้อ ที่ต้องการคอนโดมิเนียมพื้นที่ขนาดใหญ่ในเมือง ที่อยู่ใกล้ชิดธรรมชาติ คือ เป้าหมายของโครงการใหม่ "เดอะ ฟอเรสเทียส์ ซิกเนเจอร์ ซีรีส์" มูลค่า 5.9 พันล้านบาท ที่มีความสูง 44 ชั้น จำนวน 122 ยูนิต และทุกยูนิตมาพร้อมกับที่สุดของวิวป่า 30 ไร่ ที่ตั้งเดียวกับ พื้นที่ 398 ไร่ของโครงการ ‘เดอะ ฟอเรสเทียส์’ บนถนนบางนา-ตราด ก.ม.7
เจาะในแนวความคิด นายยุทธนา ตันติยานนท์ ประธานผู้อำนวยการ กลุ่มงานการจัดการธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ MQDC เปิดเผยว่า ที่พักอาศัยโครงการดังกล่าว ออกแบบมาเพื่อตอบโจทย์คนที่ชื่นชอบการอยู่อาศัยในคอนโดมิเนียมขนาดใหญ่กว่าทั่วๆ ไป กระทั่งแบบมีสระส่วนตัว แวดล้อมไปด้วยธรรมชาติ และง่ายที่จะเข้าถึงบริการและสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ สำหรับการใช้ชีวิตแบบใจกลางเมือง โดยทั้ง 122 ยูนิต จะมีพื้นที่กว้างขวาง และทุกยูนิตเปิดรับวิวป่าแบบพาโนรามา และทิวทัศน์ความมหัศจรรย์ของงานเฟสติวัลต่างๆ ที่จะจัดขึ้นเป็นประจำ ทั้งในผืนป่าและเหนือผืนป่า
++ ที่พักอาศัยพรีเมียม ชูความส่วนตัว
นอกจากจุดเด่น โครงการเชื่อมโดยตรงกับทางเดินยกระดับที่ทอดยาวเหนือผืนป่า ความยาว 1.6 กิโลเมตร ในแง่การออกแบบนั้น พบตัวอาคารของ เดอะ ฟอเรสเทียส์ ซิกเนเจอร์ ซึ่งมี Foster + Partners เป็นผู้ดำเนินการ ได้เน้นความสำคัญเรื่องความเป็นส่วนตัวสูงสุดให้แก่ผู้อยู่อาศัย แต่ง่ายในการดูแลรักษางานระบบอาคาร เช่น มีการสร้างโถงทางเดินและบันไดสำหรับงานบำรุงรักษาไว้ในจุดต่างๆ
ส่วนห้องพักอาศัยมีขนาดพื้นที่ใช้สอยตั้งแต่ 140 - 350 ตารางเมตร ส่วนเพนท์เฮาส์กว้างมากถึง 917 ตารางเมตร ตั้งอยู่บนชั้น 43 ภายใต้รูปแบบ ตั้งแต่ 2 ห้องนอนไปจนถึง 5 ห้องนอน โดยที่พักอาศัยแบบฟรีโฮลด์แห่งนี้ มีราคาเริ่มต้นตั้งแต่ 37 ล้านบาทสำหรับยูนิตขนาด 2 ห้องนอน และราคาเริ่มต้น 49 ล้านบาทสำหรับยูนิตขนาด 3 ห้องนอน
การออกแบบพื้นที่ภายในยังมีความเป็นสัดส่วน โดยแยกพื้นที่ที่ผู้ช่วยดูแลบ้านต้องใช้ เช่น พื้นที่ห้องครัวไทย และห้องพักของผู้ช่วยดูแลบ้าน ไม่รบกวนความเป็นส่วนตัวของผู้อยู่อาศัย พร้อมกันนี้ ทุกยูนิตยังมีล็อบบี้ลิฟต์ส่วนตัวอีกด้วย
“การออกแบบนี้จะช่วยให้ช่างสามารถเข้าบริการหรือดูแลรักษางานระบบอาคาร โดยเฉพาะงานท่อหลักได้โดยไม่ต้องเข้าไปในห้องพักอาศัย อีกทั้งยังสามารถบำรุงรักษาอาคารให้ได้มาตรฐานระดับพรีเมียมอยู่ตลอดเวลาโดยที่ไม่รบกวนพื้นที่ส่วนรวมที่ลูกบ้านใช้ประจำ”
++4 แบรนด์ดัง โกยยอดแล้ว 2.2หมื่นล้าน
สวนส่วนตัว สนามหญ้าอเนกประสงค์ ระเบียงชายป่า และบ้านต้นไม้ คือ อีกจุดขายของโครงการดังกล่าว ที่เชื่อมโยงไปถึง 4 แบรนด์หลัก ที่เดอะ ฟอเรสเทียส์ ได้ทยอยเปิดตัวไปแล้วก่อนหน้านี้ โดยคาดว่า นี่จะดึงดูดให้ผู้อยู่อาศัยยุคใหม่ อยากเข้ามาสัมผัสสภาพแวดล้อมที่ดี หาได้ยากยิ่งในปัจจุบัน
ทั้งนี้ เดอะ ฟอเรสเทียส์ ซิกเนเจอร์ ซีรีส์ มีกำหนดก่อสร้างแล้วเสร็จ ภายในสิ้นปี 2568 ขณะนี้กำลังอยู่ในระหว่างการก่อสร้างชั้นใต้ดิน และเตรียมเปิดให้เข้าชมห้องตัวอย่าง อย่างเป็นทางการ ตั้งแต่วันที่ 8 กรกฎาคม 2566 เป็นต้นไป
ขณะนายกิตติพันธุ์ อุยยามะพันธุ์ ประธานผู้อำนวยการ โครงการเดอะ ฟอเรสเทียส์ โดย MQDC อัพเดท ว่า ที่พักอาศัยอื่นๆ ได้แก่ โครงการซิกส์เซนส์ เรสซิเดนซ์ เดอะ ฟอเรสเทียส์, มัลเบอร์รี่ โกรฟ วิลล่า, มัลเบอร์รี่ โกรฟ คอนโดมิเนียม, คอนโดมิเนียมแบรนด์ วิสซ์ดอม, คอนโดมิเนียมแบรนด์ ดิ แอสเพน ทรี และสกายวิลล่า ก็มีความคืบหน้าในการก่อสร้าง และได้รับการตอบรับที่ดีมาก ผ่านยอดขายรวมกันกว่า 2.2หมื่นล้านบาท คาดมาจากจุดเด่น ที่การออกแบบ และ การมอบบริการและสิ่งอำนวยความสะดวกที่มุ่งเน้นเรื่องสุขภาพและความสุข
"ผมเชื่อว่า เหตุผลที่โครงการได้รับความสนใจเป็นอย่างมาก เนื่องจากทุกวันนี้ผู้คนจำนวนมากขึ้นอยากใช้ชีวิตอยู่ในสภาพแวดล้อมที่ดีต่อสุขภาพมากกว่าทั่วๆ ไป ท่ามกลางพื้นที่สีเขียวเยอะๆ และอยากอยู่ในโครงการที่ได้รับการออกแบบโดยบริษัทที่ได้รับการยอมรับนับถือในระดับโลก ที่มุ่งเน้นส่งเสริมให้ผู้อยู่อาศัยมีสุขภาพดียิ่งขึ้น และผมคิดว่าที่คนเชื่อมั่นว่าโครงการที่อยู่อาศัยต่างๆ ของเรามีศักยภาพสูงในด้านของการลงทุน เป็นเพราะการที่โครงการตั้งอยู่ในทำเลเชื่อมต่อพื้นที่เศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (EEC) ซึ่งเป็นปัจจัยหนึ่งในการขับเคลื่อนและส่งเสริมให้โครงการมีความน่าดึงดูดใจ" นายกิตติพันธุ์กล่าวสรุป
ทั้งนี้ ผู้สนใจ พบกับ เดอะ ฟอเรสเทียส์ ซิกเนเจอร์ ซีรีส์ ในรูปแบบ Virtual Reality ได้ในงาน The Forestias Story and Beyond ที่รอยัล พารากอน ฮอลล์ ชั้น 5 สยามพารากอน วันที่ 10-11 มิถุนายนนี้ หรือโทร. 1265