ประกันภัยรถยนต์ออนไลน์ ทำง่าย ราคาดีที่สุด
ประกันภัยรถยนต์ออนไลน์ ทำง่าย ราคาดีที่สุด
ฐานเศรษฐกิจ ขอแนะนำประกันรถยนต์ออนไลน์ ราคาดีที่สุดสำหรับผู้ขับขี่ปลอดภัย ทุนประกันสูง คุ้มครองทันที มีระบบเคลมผ่านแอปพลิเคชันแบบเรียลไทม์ พร้อมบริการช่วยเหลือ 24 ชม.
● ผ่อน 10 งวดไม่บล็อควงเงินบัตร
● ลดค่าเบี้ย 10% เมื่อติดตั้งกล้องติดรถยนต์
● แอปพลิเคชันแจ้งเคลมเห็นพิกัดเรียลไทม์
● บริการ 24 ชั่วโมงดูแลคุณตลอดเวลา
● การันตีถึงไว ภายใน 30 นาที
● รับประกันงานซ่อม 12 เดือน
● คืนเงิน 100% เมื่อเจอที่ถูกกว่า
● ช่วยเหลือฉุกเฉิน 24 ชัวโมง ทั่วไทย
มาดูกันว่าประกันภัยรถยนต์ชั้นไหน ที่เหมาะกับคุณ
ประกันภัยรถยนต์ชั้น 1
ประกันรถยนต์ชั้น 1พร้อมรับความคุ้มครองสูงสุด ตั้งแต่ความเสียหายของรถยนต์เมื่อเกิดอุบัติเหตุทั้งแบบมีและไม่มีคู่กรณี รวมถึงรถยนต์สูญหาย ถูกโจรกรรม ไฟไหม้ ภัยทางธรรมชาติ (รวมน้ำท่วม) และความเสียหายของกระจกรถ ประกันรถยนต์ชั้น 1 ยังคุ้มครองชีวิตและทรัพย์สินของบุคคลภายนอก และค่ารักษาพยาบาล การประกันอุบัติเหตุส่วนบุคคล และการประกันตัวของผู้ขับขี่อีกด้วย
ประกันภัยรถยนต์ชั้น 1 เหมาะกับใคร?
● รถใหม่ป้ายแดงและรถที่มีอายุไม่เกิน 5 ปี – เพราะรถใหม่จึงเป็นรถที่มีความเสี่ยงสูง เพราะมีโอกาสหายมากกว่ารถเก่า ด้วยความใหม่นี้จึงทำให้ผู้ขับขี่ยังไม่คุ้นเคยในการใช้งานหรือการบังคับควบคุมรถขณะขับขี่ จึงทำให้มีความเสี่ยงมากกว่า
● ผู้ขับขี่มือใหม่ไร้ประสบการณ์ – ไม่ว่าจะเป็นรถคันใดก็ตาม หากเป็นมือใหม่หัดขับแล้ว รถคันนั้นจะมีความเสี่ยงเพิ่มสูงขึ้น การทำประกันภัยรถยนต์ชั้น 1 จึงถือว่าเหมาะสมกับผู้ขับขี่มือใหม่มากที่สุด
● รถที่ใช้งานหนักหรือใช้งานเป็นประจำ – ความเสี่ยงของรถแต่ละคันไม่ได้ขึ้นอยู่กับตัวผู้ขับขี่หรือตัวรถเท่านั้น แต่ยังขึ้นอยู่กับลักษณะการใช้งานด้วย หากรถใช้งานหนัก วิ่งทางไกล หรือใช้เป็นประจำทุกวัน ย่อมส่งผลให้มีค่าความเสี่ยงเพิ่มขึ้น ดังนั้น รถที่ใช้งานหนักกว่าจึงต้องการความคุ้มครองที่มากขึ้นอย่างประกันรถยนต์ชั้น 1 เช่นเดียวกัน
ประกันภัยรถยนต์ชั้น 2+
ซื้อประกันรถยนต์ 2+ ในราคาที่ประหยัดกว่าประกันรถยนต์ชั้น 1 แต่ความคุ้มครองต่างกันเล็กน้อย ประกันรถยนต์ 2+ นั้นจะคุ้มครองความเสียหายต่อตัวรถคันเอาประกันจากการชนกับยานพาหนะทางบกที่ระบุตัวตนได้ คุ้มครองรถไฟไหม้ สูญหาย ถูกโจรกรรม น้ำท่วม รวมทั้งทรัพย์สินและการบาดเจ็บหรือเสียชีวิตของบุคคลภายนอก เมื่อผู้ขับขี่เป็นฝ่ายผิด และประกันรถยนต์ 2+ ยังคุ้มครองค่ารักษาพยาบาล การประกันอุบัติเหตุส่วนบุคคล และการประกันตัวของผู้ขับขี่เช่นเดียวกับประกันรถยนต์ชั้น 1 โดยประกันรถยนต์ 2+ นั้นจะไม่คุ้มครองความเสียหายของรถยนต์เมื่อเกิดอุบัติเหตุแบบไม่มีคู่กรณีและความเสียหายของกระจกรถ
ประกันภัยรถยนต์ชั้น 2+ เหมาะกับใคร?
● รถที่ใช้งานเป็นประจำ – แต่จอดในพื้นที่เสี่ยง หรือรถที่ไม่มีที่จอดในที่ที่มีรั้วรอบขอบชิด เช่น จอดไว้หน้าบ้าน หรือผู้ที่อาศัยอยู่บ้านตึกแถว ซึ่งจำเป็นต้องจอดรถริมถนน หรือมีความจำเป็นต้องจอดรถไว้ตามที่สาธารณะเป็นประจำ เช่น รถของผู้ที่มีอาชีพค้าขาย หากไม่อยากทำประกันรถยนต์ชั้น 1 เพราะเบี้ยประกันภัยแพงหรือรถของคุณเก่าเกินไป คุณสามารถทำประกันภัยรถยนต์ชั้น 2+ ไว้อุ่นใจกว่า ด้วยเบี้ยประกันภัยรถยนต์ที่ถูกกว่าสำหรับความคุ้มครองที่ใกล้เคียงประกันรถยนต์ชั้น 1 และหากเกิดอุบัติเหตุชนกับรถคู่กรณีก็ยังคงได้รับความคุ้มครองสำหรับความเสียหายในส่วนนี้อีกด้วย
ประกันภัยรถยนต์ชั้น 3+
ซื้อประกันภัยรถยนต์ 3+ ที่รู้ใจ คุ้มครองความเสียหายต่อตัวรถคันเอาประกันจากการชนกับยานพาหนะทางบกที่ระบุตัวตนได้ รวมทั้งทรัพย์สินและการบาดเจ็บหรือเสียชีวิตของบุคคลภายนอก เมื่อผู้ขับขี่เป็นฝ่ายผิด และประกันรถยนต์ 3+ นี้ ยังคุ้มครองค่ารักษาพยาบาล การประกันอุบัติเหตุส่วนบุคคล และการประกันตัวของผู้ขับขี่ โดยประกันรถยนต์ 3+ นั้นจะไม่คุ้มครองความเสียหายของรถยนต์เมื่อเกิดอุบัติเหตุแบบไม่มีคู่กรณี ความเสียหายของกระจก รถถูกโจรกรรม ไฟไหม้ หรือภัยทางธรรมชาติ (รวมน้ำท่วม)
ประกันภัยรถยนต์ชั้น 3+ เหมาะกับใคร?
● รถเก่าที่มีอายุเกิน 7 ปีขึ้นไป – ถึงรถจะเก่าเพียงใด แต่ก็จำเป็นต้องมีความคุ้มครองจากการทำประกันรถยนต์ แม้ว่าความคุ้มครองสำหรับตัวรถอาจไม่จำเป็นก็ตาม แต่การใช้งานโดยทั่วไปก็อาจสร้างความเสียหายให้กับคู่กรณีหรือบุคคลภายนอกได้หากเกิดอุบัติเหตุ ดังนั้นถึงรถจะเก่าเพียงใด แต่ก็แนะนำให้ทำประกันภัยรถยนต์ไว้สบายใจกว่า
● รถที่ใช้งานเป็นประจำ – แต่ไม่มีความเสี่ยงเรื่องสถานที่จอดรถ การนำรถไปใช้งานบนท้องถนนเป็นประจำนั้นย่อมมีความเสี่ยงไม่น้อยที่จะเกิดอุบัติเหตุขึ้น แม้ว่าผู้ขับขี่จะใช้ความระมัดระวังเพียงใดก็ตาม แต่ก็มีโอกาสที่ผู้ใช้รถใช้ถนนคนอื่นอาจขับขี่รถด้วยความประมาทจนทำให้เกิดความเสียหายแก่รถของเราได้ จะดีกว่าหรือไม่หากรถของเราถูกชน แต่มีประกันภัยรถยนต์คอยให้ความคุ้มครองโดยไม่ต้องไปติดตามเรียกร้องค่าเสียหายกับคู่กรณีด้วยตัวเอง
