บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) และบริษัทในกลุ่ม ให้ความสำคัญกับการพัฒนาคุณภาพชีวิตของชุมชนและสังคม เพื่อส่งเสริมความเป็นอยู่ รายได้และเศรษฐกิจโดยรวมทั้งการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ ภายใต้แนวคิดความเป็นอยู่อย่างพอเพียง (Self-sufficiency) และยั่งยืน (Self-sustainability) เพื่อมอบคุณค่าในระยะยาวให้กับสังคม
ตลอดปี 2565 ที่ผ่านมา ช่วงสถานการณ์วิกฤตโควิด-19 โดยมีผู้ติดเชื้อและผู้เสียชีวิตเป็นจำนวนมาก บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) และบริษัทในกลุ่ม จึงเล็งเห็นช่วงเวลาที่สำคัญ ที่ต้องร่วมช่วยเพิ่มศักยภาพให้ระบบสาธารณสุข เพื่อให้มีขีดความสามารถในการดูแลรักษาผู้ป่วยได้อย่างเพียงพอและทั่วถึงมากขึ้น และ ยังเล็งเห็นความสำคัญด้านการศึกษา ที่มีเด็กและเยาวชนเสี่ยงออกจากระบบการศึกษาในปีการศึกษา 2565 จากผลกระทบทางเศรษฐกิจในช่วงสถานการณ์วิกฤตโควิด-19 จึงทำให้เกิดเป็นโครงการสำคัญ 2 โครงการหลักๆ ด้วยกัน นั่นก็คือ โครงการลมหายใจเดียวกัน และ โครงการลมหายใจเพื่อน้อง
โครงการลมหายใจเดียวกัน
“หน่วยคัดกรอง รพ.สนามครบวงจร (End-to-End)”
บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) และบริษัทในกลุ่ม มีเจตนารมณ์ในการช่วยเหลือประชาชน และพร้อมแบ่งเบาภาระของภาครัฐ มีการดำเนินการที่มุ่งเน้น “ตรวจเร็ว แยกเร็ว รักษาเร็ว” สร้างความอุ่นใจให้แก่ประชาชน
จึงได้ร่วมกับกระทรวงสาธารณสุข สถาบันป้องกันควบคุมโรคเขตเมือง (สปคม.) สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) และพันธมิตรทางการแพทย์ ได้แก่ มูลนิธิโรงพยาบาลในเครือบางปะกอกฯ และโรงพยาบาล ปิยะเวท จัดตั้ง “หน่วยคัดกรอง และโรงพยาบาลสนามครบวงจร (End-to-End)” ภายใต้ “โครงการลมหายใจเดียวกัน” ขึ้น ถือเป็นครั้งแรกที่ภาคเอกชนร่วมมือกับภาครัฐในการดูแลรักษาผู้ป่วยโควิด-19 แบบครบวงจร ช่วยลดการเสียชีวิต บรรเทาความเดือดร้อนของประชาชน และหยุดยั้งการแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 โดยเร็วที่สุด
นอกจากนี้ บริษัทในกลุ่ม ปตท. ยังได้คิดค้นนวัตกรรม ผลิตอุปกรณ์ และครุภัณฑ์ทางการแพทย์ มาสนับสนุนอย่างเต็มกำลัง อาทิ
นอกจากนั้นยัง
กลุ่ม ปตท. ได้สนับสนุนความช่วยเหลือบุคลากรทางการแพทย์ ร่วมบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชน รวมเป็นงบประมาณกว่า 1,700 ล้านบาท
และได้ต่อยอดสู่โครงการ “ลมหายใจเพื่อน้อง”
PTT VIRTUAL RUN ภายใต้โครงการ “ลมหายใจเพื่อน้อง”
โครงการจากความตั้งใจของ ปตท. ที่ต้องการช่วยเหลือนักเรียนและเยาวชนจากครัวเรือนที่มีรายได้น้อยที่ได้รับผลกระทบทางเศรษฐกิจจากโควิด-19 ทำให้มีความเสี่ยงออกจากระบบการศึกษาในปีการศึกษา 2565
จากการเดิน-วิ่งสะสมระยะทาง เพื่อแปลงเป็นทุนการศึกษา
ด้วยระยะทาง 600,000 กิโลเมตร ในเวลาเพียง 6 วัน แปลงเป็นจำนวนเงิน 151 ล้านบาท
ซึ่งสามารถช่วยเด็กและเยาวชนให้มีโอกาสได้กลับเข้าสู่ระบบการศึกษาได้กว่า 60,000 คน
โดยโครงการ มีผู้เข้าร่วมทั้งสิ้น รวม 93,061 คน เป็นระยะทางเดิน-วิ่งสะสม 7,425,061 กิโลเมตร
ตลอดระยะเวลา 45 วัน
ถือว่า ประสบความสำเร็จอย่างดียิ่ง โดยได้รับความสนใจจากประชาชนทุกภาคส่วนทั่วประเทศ
นอกจากนี้ยังได้ร่วมกันจัดตั้ง “กองทุนแรกเริ่มช่วยเหลือเด็กและเยาวชนในวิกฤตการศึกษา” ผ่านกองทุนเพื่อความเสมอภาคทางการศึกษา อีก 20 ล้านบาทด้วย
รวมงบประมาณสนับสนุนทั้งสิ้น 171 ล้านบาท
ปตท. ได้ให้ความสำคัญกับการสนับสนุนด้านการศึกษามาอย่างต่อเนื่องด้วยเชื่อว่า การศึกษาคือหนึ่งในรากฐานสำคัญที่จะนำพาประเทศไปสู่การพัฒนาอย่างยั่งยืน จึงได้จัดตั้งสถาบันวิทยสิริเมธี และ โรงเรียนกำเนิดวิทย์ เพื่อส่งเสริมเยาวชนด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี รวมถึงมีโรงเรียนภายใต้ PTT Group School Model ที่สนับสนุนโดยกลุ่ม ปตท. อีกกว่า 200 แห่ง