นายชูชาติ รักจิตร อธิบดีกรมชลประทาน เปิดเผยว่า ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา กรมชลประทานได้ทุ่มเททำงานเพื่อสานต่องานด้านชลประทานอย่างไม่หยุดนิ่ง จวบจน 122 ปี ในวันที่ 13 มิถุนายน 2567 นี้ กรมชลประทาน ยังคงมุ่งมั่นเดินหน้างาน ตามภารกิจหลักภายใต้ยุทธศาสตร์กรมชลประทาน 20 ปี (พ.ศ. 2561-2580) โดยมีเป้าหมายในการเพิ่มพื้นที่ชลประทานให้ได้กว่า 49.5 ล้านไร่ เพิ่มปริมาณน้ำต้นทุนได้ประมาณ 93,655 ล้านลูกบาศก์เมตร มุ่งเน้นเพิ่มรายได้ภาคการเกษตรเป็น 3 เท่า ใน 4 ปี สร้างความเข้มแข็งให้เกษตรกร ด้วยหลักการ “ตลาดนำนวัตกรรมเสริม เพิ่มรายได้” ตามนโยบายรัฐบาล ให้สอดคล้องกับสถานการณ์การเปลี่ยนแปลงของสภาพอากาศที่ส่งผลกระทบทั้งทางตรงและทางอ้อมต่อเกษตรกร โดยมุ่งเน้นนำเทคโนโลยีมาช่วยเพิ่มศักยภาพในการพัฒนาแหล่งน้ำและเพิ่มประสิทธิภาพการใช้น้ำ ซึ่งถือเป็นหัวใจสำคัญที่ต้องเร่งรัดดำเนินการ เพื่อตอบสนองความต้องการของประชาชน
ภายใต้แนวทางการบริหารงาน "RID TEAM PLUS" ซึ่งได้ต่อยอดจากแนวทาง RID TEAM ตาม 3 หลักคิด คือ เชื่อถือได้ หลากหลาย นวัตกรรม นำสู่การพัฒนา มุ่งปฏิบัติงานด้วยความรู้ ความเชี่ยวชาญ อย่างโปร่งใส มีประสิทธิภาพ ยกระดับการทำงานสู่ระดับสากล เน้นการมีส่วนร่วม ส่งเสริมการเรียนรู้ เพื่อยกระดับการทำงานกับเครือข่ายอย่างแน่นแฟ้น มุ่งให้เกิดผลการพัฒนาอย่างยั่งยืน โดยได้กำหนดเป้าหมายหลักในการดำเนินงานไว้ 3 ประเด็น 15 กลยุทธ์ ได้แก่
ประเด็นที่ 1 องค์กรอัจฉริยะ (RID Intelligent Organization) จัดการและบูรณาการระบบเทคโนโลยีฐานข้อมูล (Big Data) พัฒนากระบวนการทำงานสู่ระบบ Digital Platform พัฒนางานวิจัยและนวัตกรรม เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการบริหารจัดการน้ำ จัดการความรู้(KM) เพิ่มขีดความสามารถของบุคลากร พัฒนาระบบชลประทานด้วยเทคโนโลยี (IoT)
ประเด็นที่ 2 ความมั่นคงด้านน้ำ (Water Security) มุ่งพัฒนาแหล่งน้ำโครงการพระราชดำริและเขตพัฒนาพิเศษ เร่งเพิ่มพื้นที่ชลประทานและปริมาณน้ำต้นทุนอย่างต่อเนื่อง เพิ่มประสิทธิภาพโครงการชลประทาน บริหารจัดการน้ำให้เป็นไปตามวัตถุประสงค์ พัฒนารูปแบบและแนวทางการรับมือภัยพิบัติทางน้ำ ปรับปรุงกระบวนการจัดทำแผนงานและงบประมาณทั้งระบบ
ประเด็นที่ 3 เพิ่มคุณค่าการบริการ (Value to service) เสริมสร้างการมีส่วนร่วม สร้างเครือข่ายการบริหารจัดการน้ำให้ครอบคลุมพื้นที่ชลประทาน พัฒนาโครงการชลประทาน โครงการส่งน้ำและบำรุงรักษา ให้เป็นศูนย์กลางการเรียนรู้ ช่วยเสริมภาพลักษณ์ที่ดีต่อการพัฒนาและการบริหารจัดการน้ำ พัฒนาทรัพยากรบุคคล เสริมสร้างความผาสุกและคุณภาพชีวิตที่ดีในการทำงาน ให้ความสำคัญด้านสิ่งแวดล้อม สนับสนุนการขับเคลื่อน BCG Economy Model ตามนโยบายรัฐบาล
“แม้จะเป็นภารกิจอันใหญ่หลวง กรมชลประทาน จะยังคงมุ่งมั่นพัฒนาองค์กรไปสู่การเป็นองค์กรอัจฉริยะ เพื่อขับเคลื่อนงานชลประทานของประเทศให้เจริญก้าวหน้า สามารถสร้างประโยชน์สุขที่ยั่งยืนให้กับประชาชนต่อไป” อธิบดีกรมชลประทานกล่าวในที่สุด
ทั้งนี้ ภายในงานมีพิธีมอบโล่ประกาศเกียรติคุณแก่ข้าราชการพลเรือน และพนักงานราชการดีเด่น ประจำปี 2566 รางวัลการพัฒนาคุณภาพการบริหารจัดการโครงการส่งน้ำและบำรุงรักษา โครงการชลประทาน และฝ่ายส่งน้ำและบำรุงรักษา ประจำปี 2567 รางวัลเลิศรัฐ กรมชลประทาน ประจำปี2566 และรางวัลนวัตกรรมดีเด่น (KM) โดยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เพื่อเป็นขวัญกำลังใจในการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ ในการขับเคลื่อนงานตามภารกิจเพื่อประโยชน์ของประชาชนต่อไป นอกจากนี้ ยังมีกิจกรรมอื่นๆ ที่น่าสนใจ อาทิ กิจกรรมบริจาคโลหิต และกิจกรรม KM DAY จึงขอเชิญชวนผู้ที่สนใจรับชมพิธีเปิดงานครบรอบวันคล้ายวันสถาปนากรมชลประทาน 122 ปี และกิจกรรมต่างๆ ได้ผ่านทาง Facebook กรมชลประทาน และ YouTube กรมชลประทาน