Play
เรื่องเบาๆของ Big Data กับงานสถาปัตยกรรมยุคปัจจุบัน
คอลัมน์ แต่ง-เติม-เสริม-สุข
ดร.กุลเดช สินธวณรงค์
ประธานกรรมการบริหาร กลุ่มบริษัท จาร์เค็น จำกัด
ในปัจจุบันแวดวงงานออกแบบสถาปัตยกรรมเริ่มนำเอา AI และ Machine Learning หรือ การป้อนข้อมูลให้ระบบปฏิบัติการเพื่อดำเนินการวิเคราะห์และหาข้อสรุปของข้อมูลจำนวนมหาศาลเหล่านี้มาใช้ ซึ่งผลลัพธ์จะช่วยให้ผู้ออกแบบสามารถคาดการณ์ต่อไปได้ว่าผู้ที่เข้ามาใช้อาคารหรืองานที่ตัวเองกำลังออกแบบมีลักษณะอย่างไร และมีแนวโน้มที่จะเป็นอย่างไรในอนาคต ก่อนการเริ่มต้นการออกแบบครับ
การนำเอา Big Data ที่เป็นแหล่งรวบรวมข้อมูลจำนวนมหาศาลที่สามารถเปลี่ยน แปลงวิถีการใช้ชีวิตประจำวันของเราได้ในทางการออกแบบมาใช้มีหลายรูปแบบแล้ว ปัจจุบันไม่ว่าจะเป็นการ กดไลก์ การแชร์ การคอมเมนต์ การทำงานโดยใช้ซอฟต์แวร์ หรือแอพฟรีต่างๆ หรือการใช้สื่อออนไลน์เพื่อการทำงานหรือการค้นหาใดๆ ทุกอย่างเป็นการเก็บรวมรวมข้อมูลทั้งนั้น
การออกแบบโรงแรม ร้านอาหารหรืออาคารลักษณะ hospitality ผู้ออกแบบสามารถเรียนรู้ลักษณะของแพตเทิร์นพฤติกรรม การใช้งาน ความชอบ การดื่มกิน ของผู้คนได้จากข้อมูลมหาศาลเหล่านี้ ทั้งนี้ก็เพื่อสร้างประสบการณ์ที่ดีให้กับลูกค้าหรือเจ้าของโครงการครับ ลองคิดเล่นๆดู ถ้าเราทราบก่อนว่าลูกค้าที่กำลังจะเดินมาในโรงแรมกำลังแชตเรื่องความคาดหวังในการรับประทานอาหารอะไร แล้วพนักงานโรงแรมสามารถเดินเข้าไปแนะนำสิ่งที่ลูกค้าต้องการได้ทันที หรือลูกค้าอยากถ่ายภาพมุมไหนของโรงแรมลักษณะไหนที่สุดช่วงเวลาไหนของวันที่สุด สถาปนิกก็สามารถทราบล่วงหน้าก่อนการออกแบบได้ ทำได้ขนาดนี้จะดีแค่ไหน
บริษัทออกแบบหลายบริษัทกำลังเดินไปสู่ การรวมเอาข้อมูล พฤติกรรมเหล่านี้มาเป็นส่วนหนึ่งในการออกแบบ การทำ User Centric Design (UCD) สมัยนี้มานั่งเดาจากประสบ การณ์คงไม่พอ แต่ถ้าเราสามารถใช้ข้อมูลมหาศาล จากคนเป็นล้านที่เปลี่ยน แปลงตลอดเวลา ผู้พักอาศัยอยู่บ้านหลากพฤติกรรม เช่น การที่เขาบ่นๆ อะไรไม่ชอบตรงไหนของห้องตัวอย่างที่เขาไปดู ระยะเวลาในการขับรถมีผลอย่างไรในการออกแบบโรงรถบ้าน กิจกรรมที่คุณผู้หญิงชอบทำครัวไทยครัวญี่ปุ่นขาดตกบกพร่องเรื่องพื้นที่ตรงไหน หรือปลาคาร์พที่เขาชอบเลี้ยงเขามีกี่ตัว อยู่ตรงไหนของบ้านที่ซินแสแนะนำจากเพจที่เขาไปคุยด้วยหรือศึกษาข้อมูล ต้องไปซื้ออาหารมากน้อยหรือบ่อยขนาดไหน หรือไลฟ์สไตล์ของเขากดไลก์เพจตกแต่งบ้านรูปอะไรบ้าง ทั้งหมดนี้ก็สามารถทำให้งานออกแบบของบริษัทสตาร์ตอัพเหล่านี้ตอบโจทย์ผู้บริโภคได้โดยไม่รู้ตัว เรียกว่าถูกใจตั้งแต่ยังไม่ออกแบบครับ ลดทั้งระยะเวลา เพิ่มความพึงพอใจในการออกแบบและก่อสร้าง
แล้วข้อมูลเหล่านี้สถาปนิกหรือผู้ออกแบบจะไปหามาจากไหน ไม่ยากเลย คราวหน้าจะมาเฉลยครับ
หน้า 25-26 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 39 ฉบับที่ 3,447 วันที่ 24-27 กุมภาพันธ์ 2562
ดร.กุลเดช สินธวณรงค์
ประธานกรรมการบริหาร กลุ่มบริษัท จาร์เค็น จำกัด
ในปัจจุบันแวดวงงานออกแบบสถาปัตยกรรมเริ่มนำเอา AI และ Machine Learning หรือ การป้อนข้อมูลให้ระบบปฏิบัติการเพื่อดำเนินการวิเคราะห์และหาข้อสรุปของข้อมูลจำนวนมหาศาลเหล่านี้มาใช้ ซึ่งผลลัพธ์จะช่วยให้ผู้ออกแบบสามารถคาดการณ์ต่อไปได้ว่าผู้ที่เข้ามาใช้อาคารหรืองานที่ตัวเองกำลังออกแบบมีลักษณะอย่างไร และมีแนวโน้มที่จะเป็นอย่างไรในอนาคต ก่อนการเริ่มต้นการออกแบบครับ
การนำเอา Big Data ที่เป็นแหล่งรวบรวมข้อมูลจำนวนมหาศาลที่สามารถเปลี่ยน แปลงวิถีการใช้ชีวิตประจำวันของเราได้ในทางการออกแบบมาใช้มีหลายรูปแบบแล้ว ปัจจุบันไม่ว่าจะเป็นการ กดไลก์ การแชร์ การคอมเมนต์ การทำงานโดยใช้ซอฟต์แวร์ หรือแอพฟรีต่างๆ หรือการใช้สื่อออนไลน์เพื่อการทำงานหรือการค้นหาใดๆ ทุกอย่างเป็นการเก็บรวมรวมข้อมูลทั้งนั้น
การออกแบบโรงแรม ร้านอาหารหรืออาคารลักษณะ hospitality ผู้ออกแบบสามารถเรียนรู้ลักษณะของแพตเทิร์นพฤติกรรม การใช้งาน ความชอบ การดื่มกิน ของผู้คนได้จากข้อมูลมหาศาลเหล่านี้ ทั้งนี้ก็เพื่อสร้างประสบการณ์ที่ดีให้กับลูกค้าหรือเจ้าของโครงการครับ ลองคิดเล่นๆดู ถ้าเราทราบก่อนว่าลูกค้าที่กำลังจะเดินมาในโรงแรมกำลังแชตเรื่องความคาดหวังในการรับประทานอาหารอะไร แล้วพนักงานโรงแรมสามารถเดินเข้าไปแนะนำสิ่งที่ลูกค้าต้องการได้ทันที หรือลูกค้าอยากถ่ายภาพมุมไหนของโรงแรมลักษณะไหนที่สุดช่วงเวลาไหนของวันที่สุด สถาปนิกก็สามารถทราบล่วงหน้าก่อนการออกแบบได้ ทำได้ขนาดนี้จะดีแค่ไหน
บริษัทออกแบบหลายบริษัทกำลังเดินไปสู่ การรวมเอาข้อมูล พฤติกรรมเหล่านี้มาเป็นส่วนหนึ่งในการออกแบบ การทำ User Centric Design (UCD) สมัยนี้มานั่งเดาจากประสบ การณ์คงไม่พอ แต่ถ้าเราสามารถใช้ข้อมูลมหาศาล จากคนเป็นล้านที่เปลี่ยน แปลงตลอดเวลา ผู้พักอาศัยอยู่บ้านหลากพฤติกรรม เช่น การที่เขาบ่นๆ อะไรไม่ชอบตรงไหนของห้องตัวอย่างที่เขาไปดู ระยะเวลาในการขับรถมีผลอย่างไรในการออกแบบโรงรถบ้าน กิจกรรมที่คุณผู้หญิงชอบทำครัวไทยครัวญี่ปุ่นขาดตกบกพร่องเรื่องพื้นที่ตรงไหน หรือปลาคาร์พที่เขาชอบเลี้ยงเขามีกี่ตัว อยู่ตรงไหนของบ้านที่ซินแสแนะนำจากเพจที่เขาไปคุยด้วยหรือศึกษาข้อมูล ต้องไปซื้ออาหารมากน้อยหรือบ่อยขนาดไหน หรือไลฟ์สไตล์ของเขากดไลก์เพจตกแต่งบ้านรูปอะไรบ้าง ทั้งหมดนี้ก็สามารถทำให้งานออกแบบของบริษัทสตาร์ตอัพเหล่านี้ตอบโจทย์ผู้บริโภคได้โดยไม่รู้ตัว เรียกว่าถูกใจตั้งแต่ยังไม่ออกแบบครับ ลดทั้งระยะเวลา เพิ่มความพึงพอใจในการออกแบบและก่อสร้าง
แล้วข้อมูลเหล่านี้สถาปนิกหรือผู้ออกแบบจะไปหามาจากไหน ไม่ยากเลย คราวหน้าจะมาเฉลยครับ
หน้า 25-26 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 39 ฉบับที่ 3,447 วันที่ 24-27 กุมภาพันธ์ 2562
