ไวรัสโควิด-19 ระบาดหนักในธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ เพราะนอกจากค่ายยักษ์ใหญ่ต่างพับแผนขึ้นโครงการ เลหลังสต๊อกเก่าในมือแล้ว แทบทุกค่ายต่างถอนพิษร้าย แห่ตัดทรัพย์สิน โครงการแลนด์แบงก์ เผือกร้อนในมือสร้างสภาพคล่อง และถือเงินสดไว้ในมือให้มากที่สุด อีกทั้งเก็บไว้ชำระหุ้นกู้ที่ทยอยครบกำหนด
โดยเฉพาะที่ดินใจกลางเมืองที่แน่นไปด้วยซัพพลาย หากดันทุรังก่อสร้าง ท่ามกลางกำลังซื้อหดหายเศรษฐกิจโลกทรุดตัว เกรงว่าจะเจ็บตัวมากกว่า
“ฐานเศรษฐกิจ” สำรวจที่ดินใจกลางเมืองพบ มีที่ดินหลายแปลง ติดประกาศขายทั้งที่มีการล้อมตัวติดป้ายโครงการแล้วก็ตาม อย่าง ทำเลสุขุมวิท 18 ย่านอโศก ของบริษัท พฤกษา เรียลเอสเตท จำกัด (มหาชน) ขายที่ดินจำนวน 4 ไร่ 1 งาน 9.2 ตารางวา เป็นที่ตั้ง โครงการไอวี่สุขุมวิท 18 ห่างจากสถานีบีทีเอสอโศกประมาณ 600 เมตร ทั้งนี้แผนเดิมจะสร้างเป็นคอนโดมิเนียมสูง 2 อาคาร แบ่งการก่อสร้างออกเป็น 2 เฟส ล่าสุดยังไม่ยื่นขออนุญาตก่อสร้างอาคาร เนื่องจากยังไม่ได้รับการอนุมัติการทำรายงานการวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อม หรืออีไอเอ
จากการสอบถาม บมจ.พฤกษาได้รับการยืนยันว่า บริษัท ประกาศขายที่ดิน กลางเมืองแนวเส้นทางรถไฟฟ้า จำนวน5แปลงกว่า15ไร่ มูลค่ามากกว่า1หมื่นล้านบาท ประกอบด้วย
1.ที่ดิน1ไร่ ย่านพญาไท ห่างบีทีเอส พญาไท 200เมตร เดิมวางแผนจะพัฒนาในปี2561ทีี่ผ่าน เป็นโครงการคอนโดมิเนียมแบรนด์ เดอะรีเซิร์ฟ พญาไท สูง 27ชั้นจำนวน 1อาคาร 88หน่วย ราคาตั้งขาย 2.5แสนบาทต่อตารางเมตร มูลค่า 1,151ล้านบาท
2.ที่ดิน4ไร่(1,651ตร.ว.)ทำเลเยื้องเดอะมอลล์ท่าพระ ด้านหลังติดถนนเทิดไท33 ห่างบีทีเอสตลาดพลู300เมตร เดิมจะพัฒนาโครงการเดอะทรี
3.ที่ดินกว่า3ไร่( 1,417ตารางวา) ทำเลถนนประดิพัฒน์ ห่างจากบีทีเอสสะพานควาย 700เมตร เดิมมีแผนพัฒนาเป็นคอนโดแบรนด์เดอะทรี
4.ที่ดินกว่า4ไร่ (1,709.2ตารางวา) สุขุมวิท 18 ห่างบีทีเอสอโศกจำนวน2อาคาร เดิมจะพัฒนาเป็นคอนโดไอวี 800หน่วยราคา2แสนบาทต่อตารางเมตร
5.ที่ดินเนื้อที่3ไร่ ติดถนนสีลม (1,212.2ตารางวา) ทำเลตรงข้ามร.พ.เลิดสิน ราคาที่ซื้อมามูลค่า 1,800-2,000ล้านบาท เดิมมีแผนพัฒนาเป็นมิกซ์ยูส แบรนด์CHAPTER SILOM bypruksa premium อาคารสูง44ชั้น615หน่วยแบ่งเป็นโรงแรม 317 ห้อง ห้องชุด 294หน่วยมูลค่า 5,000 ล้านบาท
นายปิยะ ประยงค์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มธุรกิจพฤกษา เรียลเอสเตท แวลู บมจ.พฤกษาฯ เปิดเผย “ฐานเศรษฐกิจ” ว่า ยอมรับว่า ได้ขายที่ดินแปลงสุขุมวิท 18 ซึ่งเป็นที่ตั้งโครงการไอวี่ สุขุมวิท 18 ออกไป เนื่องจากประเมินว่าทำเลสุขุมวิทใจกลางเมือง มีซัพพลายสะสมค่อนข้างมากและผู้ประกอบการด้วยกันต่างขายระบายสต๊อก หากฝืนขึ้นโครงการต่อท่ามกลางสถานการณ์ กำลังซื้อไม่มี เศรษฐกิจในประเทศและเศรษฐกิจโลกวิกฤติ จะเป็นการซ้ำเติมตลาด ขณะบริษัทยังคงมีสภาพคล่องที่ดี แต่หากโครงการไหนยังไม่จำเป็น ต้องตัดออกไปเพื่อเก็บเงินสดไว้ในมือ นำเงินมาพัฒนาโครงการในอนาคตที่มีขนาดเล็กกว่า อย่างไรก็ตามหากขายไม่ได้ บริษัทจะเก็บที่ดินไว้ และชะลอการพัฒนาออกไป 3 ปีจนกว่ากำลังซื้อจะกลับมา
สำหรับที่ดินแปลงโครงการไอวี่ สุขุมวิท 18 ราคาต่อตารางวาอยู่ที่ 1 ล้านกลางๆ หรือประมาณ 1.5 ล้านบาทต่อตารางวา เดิมบริษัทเตรียมเปิดขายในราคาหน่วยละ 7-10 ล้านบาท เจาะพนักงานบริษัทซึ่งเป็นระดับผู้บริหาร แต่กำลังซื้อส่วนนี้หายไปอีกทั้งลูกค้าต่างชาติก็หายไป นอกจากที่ดินแปลงนี้ บริษัทยังเน้นขายที่ดินแปลงใหญ่ เหมาะพัฒนาโครงการรูปแบบอื่นเช่น ทำเลสะพานควาย พญาไท ทำเลฝั่งธนฯ แนวรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงิน
ส่วนที่ดินแปลง ย่านลาดพร้าวบางกะปิ (ตลาดแฮปปี้แลนด์)12 ไร่ บริษัทไม่ขาย เดิมมีแผนพัฒนาเป็นคอนโดมิเนียม จำนวน 2,000หน่วยและอีกแปลง6ไร่ ถนนลาดพร้าว ใกล้โรงพยาบาล ลาดพร้าว แต่ได้ชะลอขึ้นโครงการออกไป เนื่องจากซัพพลายย่านลาดพร้าวมีค่อนข้างมาก
หน้า 11 ฐานเศรษฐกิจ ฉบับที่ 3,574 วันที่ 14 - 16 พฤษภาคม พ.ศ. 2563