วันที่ 19 ตุลาคม 2563 นายเศรษฐา ทวีสิน กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) ได้ออกมาทวีตข้อความผ่านบัญชีทวิตเตอร์ @Thavisin โดยได้โพสต์จดหมายเปิดผนึกถึง องค์การยูนิเซฟ ประเทศไทย ระบุว่า
จากเหตุการณ์รัฐบาลใช้มาตราที่ค่อนข้างรุนแรงในการเข้าสลายและปราบปรามผู้ชุมนุม บริเวณพื้นที่สี่แยกปทุมวันเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา ซึ่งประกอบไปด้วยประชาชนจำนวนมาก รวมถึงเด็กและเยาวชนด้วย ทำให้ข้าพเจ้าในฐานะหนึ่งในพันธมิตรยูนิเซฟที่มีโอกาสทำงานด้านสวัสดิภาพของเด็กและเยาวชนร่วมกับยูนิเซฟเป็นระยะเวลากว่า 10 ปี รู้สึกมีความกังวลใจในเหตการณ์ดังกล่าวและมีความจำเป็นต้องเขียนจดหมายเปิดผนึกฉบับนี้ถึงยูนิเซฟ โดยข้าพเจ้ายืนยันว่าจดหมายฉบับนี้มิได้ต้องการแสดงความเห็นทางการเมืองหรือให้การสนับสนุนฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งแต่อย่างใด
ข้าพเจ้าเข้าใจดีว่ายูนิเซฟต้องระมัดระวังการออกมาแสดงความเห็นในสถานการณ์ขณะนี้ และอาจมีความกังวลจากการถูกติติงหรือโจมตีจากฝ่ายต่างๆ โดยเฉพาะพันธมิตรที่ให้การสนับสนุนเงินบริจาค แต่สิ่งที่สำคัญที่สุดในสถานการณ์ ณ ขณะนี้คือทุกฝ่ายต้องมองให้ตรงกันว่าเรื่องของสวัสดิภาพของเด็กและเยาวชน และเรื่องของทัศนคติความเห็นต่างทางการเมืองเป็นสองเรื่องที่ต้องถูกแยกออกจากกันให้ชัดเจน
ในฐานะของ Unicef’s Selected Partner เพียงองค์กรเดียวในประเทศไทย ข้าพเจ้าอยากเรียกร้องให้ทางยูนิเซฟ ประเทศไทย ออกแถลงการณ์อยากเป็นทางการ เน้นย้ำกับรัฐบาลมิให้มีการใช้กำลังเข้าปราบปรามผู้ชุมนุมอีกเหมือนเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา และหวังเป็นอย่างยิ่งว่าแถลงการณ์ของยูนิเซฟ ประเทศไทยที่ระบุชัดเจนถึงเรื่องนี้จะเป็นอีกหนึ่งเสียงสำคัญที่ทางรัฐบาลจะรับฟัง
หลังจากนั้นนายเศรษฐา ได้โพสต์ภาพพร้อมข้อความต่อมา โดยมีสมัชชา พรหมศิริ Chief of Staff ของแสนสิริได้ส่งจดหมายถึงมือ @UNICEF_Thailand เรียบร้อยครับ เข้าใจดีว่ายูนิเซฟต้องระวังในการแสดงความเห็นเพราะอาจถูกติติงจากผู้บริจาคและฝ่ายต่างๆ แต่อยากให้แยกแยะก่อนว่าสวัสดิภาพของเด็กและเยาวชน และความเห็นต่างทางการเมืองเป็นสองเรื่องที่ต้องแยกกัน
ทุกคนรอคอยความจริงใจจากให้ @UNICEF_Thailand ที่จะกล้าออกมาเรียกร้องไม่ให้รัฐใช้ความรุนแรงในการปราบปรามผู้ชุมนุมที่มีเด็กและเยาวชน ก้าวข้ามเรื่องการเมืองก่อนครับ แล้วโฟกัสที่ความปลอดภัยและสวัสดิภาพของเด็ก ท่านเป็นองค์กรระดับโลก ผมเชื่อว่าจะเป็นหนึ่งเสียงสำคัญที่ทางรัฐบาลจะรับฟัง