พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร โพสต์เฟซบุ๊กส่วนตัว เมื่อวันที่16มกราคม 2564ว่า หลายคนคงรอคำตอบเกี่ยบกับอัตราค่าโดยสารรถไฟฟ้าสายสีเขียวว่าจะมากน้อยเท่าไหร่ เพื่อเป็นตัวตัดสินใจเรื่องค่าใช้จ่ายและวางแผนการเดินทาง ซึ่งผมขอเรียนชี้แจงครับว่า ตลอดเวลาที่ผ่านมา กทม. ได้ตระหนักถึงผลกระทบที่จะเกิดขึ้นกับประชาชนจากการปรับอัตราค่าโดยสารของโครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียว และได้พยายามหาทางแก้ไข รวมถึงศึกษาแนวทางการดำเนินการต่างๆ โดยขณะนี้ กทม.อยู่ระหว่างการนำเสนอแนวทางแก้ไขสัญญาสัมปทานโครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียวต่อคณะรัฐมนตรีเพื่อพิจารณาให้ความเห็นชอบปรับลดค่าโดยสารให้เหลือ 65 บาทตลอดสาย เพื่อให้ประชาชนเลือกใช้บริการขนส่งสาธารณะเป็นหลัก ช่วยลดผลกระทบด้านการจราจร มลพิษ และค่าใช้จ่ายในชีวิตประจำวัน
อย่างไรก็ตาม ปัจจุบัน กทม.ได้เปิดให้บริการเดินรถไฟฟ้าสายสีเขียวทุกเส้นทางแล้ว พร้อมทั้งได้ออกประกาศกำหนดค่าโดยสารโครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียวให้ประชาชนได้รับทราบ ซึ่งจะมีผลตั้งแต่วันที่ 16 ก.พ.64 เป็นต้นไป โดยการเก็บค่าโดยสารจะเก็บเพียงครั้งเดียวต่อรอบ ไม่มีการเรียกเก็บค่าแรกเข้าซ้ำซ้อน โดยคิดจากเส้นทางต้นทางที่เริ่มเดินทาง ดังนี้ครับ
1. ค่าโดยสารรถไฟฟ้าสายสีเขียว ช่วงเส้นทางสัมปทานในปัจจุบัน (หมอชิต-อ่อนนุช และสนามกีฬาแห่งชาติ-วงเวียนใหญ่) เป็นไปตามตารางที่บริษัท ระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือ บีทีเอส เป็นผู้กำหนด ซึ่งยังคงจัดเก็บในอัตราเดิม คือ 16-44 บาท
2. ส่วนต่อขยายช่วงหมอชิต - สะพานใหม่ – คูคต จากสถานีห้าแยกลาดพร้าว ถึงสถานีคูคต ค่าโดยสาร 15 - 45 บาท (ปรับเพิ่มขึ้น 3 บาทต่อสถานี)
3. ส่วนต่อขยายสายสุขุมวิท จากสถานีบางจาก ถึงเคหะสมุทรปราการ ค่าโดยสาร 15-45 บาท (ปรับเพิ่มขึ้น 3 บาทต่อสถานี)
4. ส่วนต่อขยายสายสีลมช่วงที่ 2 จากสถานีโพธิ์นิมิตร ถึงสถานีบางหว้า ค่าโดยสาร 15-24 บาท (ปรับเพิ่มขึ้น 3 บาทต่อสถานี)
พร้อมกันนี้ เพื่อบรรเทาผลกระทบที่เกิดขึ้นกับประชาชนภายใต้สถานการณ์การระบาดของโรค COVID-19 กทม. จะปรับอัตราค่าโดยสารสูงสุด จากเดิมที่ต้องจ่ายจริงตลอดสายอยู่ที่ 158 บาท เป็น 104 บาท แม้กทม.จะต้องแบกรับภาระการขาดทุนตั้งแต่ปี 2564 - 2572 ถึงประมาณ 30,000-40,000 ล้านบาท ก็ตาม ซึ่งขอยืนยันว่ากทม. จะพยายามแก้ไขปัญหาโครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียวอย่างดีที่สุดครับ
ข่าวที่เกี่ยวข้อง