ทั้งนี้คีย์แมนคนสำคัญขององค์กร นายศิริพงษ์ สมบูรณ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ดี-แลนด์ กรุ๊ป จำกัด ผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ระดับชั้นนำในเขตกรุงเทพฯ ตอนใต้ พระราม 2-สมุทรสาคร รวมถึงโซนภาคตะวันออก และโซนกรุงเทพฯ ฝั่งตะวันตก อีกทั้ง ยังเป็นผู้พัฒนาคอมมูนิตี้มอลล์ “พอร์โต้ ชิโน่” และจุดแวะพัก ครบวงจร “พอร์โต้ โก” ให้สัมภาษณ์ว่า เพื่อให้การทำงานเกิดประสิทธิภาพสูงสุด พนักงาน บริษัทต้องมั่นใจและอุ่นใจว่าทุกครั้งในการมาปฏิบัติหน้าที่ต้องปลอดภัย ปลอดเชื้อ ทุกอย่างเราดำเนินการอย่างรวดเร็วทันเวลา มีการปรับผังองค์กรให้เกิดความคล่องตัว ทำงานผ่านช่องทางออนไลน์ ช่วยกันซัพพอร์ตงาน โดยในส่วนของฝ่ายออกแบบ พิถีพิถันใส่ใจในรายละเอียดลูกค้า ตอบโจทย์เรื่องฟังก์ชันการใช้งานให้เข้ากับชีวิตวิถีใหม่ หรือ New Normal ที่ทุกคนใช้เวลาอยู่บ้านมากขึ้น บ้านจึงต้องเป็นมากกว่าที่พักอาศัยแต่ยังเป็นที่ทำงาน เพราะหลาย คนต้องWFHจึงได้ออกแบบทุกมุมของบ้านให้สามารถใช้ประโยชน์ได้จริงเป็นพื้นที่พักผ่อน สร้างแรงบันดาลใจให้ชีวิต ซึ่งนอกจากฝ่ายออกแบบแล้ว เรายังมีทีมการตลาด ทีมขายที่ปรับแผนงานให้เข้ากับสถานการณ์ปัจจุบันมากที่สุด
“เมื่อลูกค้ากังวลเรื่องเชื้อไวรัส เราก็มีมาตรการที่รัดกุม เข้มงวด ลูกค้าเข้ามาต้องมั่นใจว่าปลอดภัย ถ้าไม่กล้าเข้ามาเยี่ยมชมโครงการ ลูกค้าสามารถชมโครงการผ่านช่องทางออนไลน์ หรือสอบถามพนักงานขายโดยตรงผ่านช่องทางไลน์”
สำหรับการให้บริการลูกค้า ทั้งในเรื่องของกิจกรรมต่างๆ และบริการหลังการขาย ทางทีมบริหารสัมพันธ์ลูกค้าได้ปรับเปลี่ยนเป็นรูปแบบออนไลน์ ซึ่งลูกค้าสามารถติดตามร่วมสนุกผ่าน Facebook DLand/ Line@ Dfamily ในส่วนงานบริการหลังการขาย เช่น งานซ่อมแซม ทางทีมช่างที่เข้าดูหน้างานต้องปฏิบัติตามมาตรการอย่างเคร่งครัด เพื่อความอุ่นใจของลูกค้า ซึ่งแต่ละฝ่ายดำเนินการได้อย่างรวดเร็ว เนื่องจากการระบาดรอบแรกได้มีการเตรียมการไว้แล้ว ทำให้ดี-แลนด์ กรุ๊ป สามารถรับมือกับการระบาดรอบใหม่ได้รัดกุมมากยิ่งขึ้น
นายศิริพงษ์ กล่าวว่า ปี 2563 ที่ผ่านมา ดี-แลนด์ กรุ๊ป ได้ Rebranding องค์กร โดยกำหนดวิสัยทัศน์ใหม่นำคุณภาพการอยู่อาศัยที่ยอดเยี่ยม เพื่อตอบสนองการใช้ชีวิตที่สมบูรณ์ของลูกค้าอย่างพิถีพิถัน ในมิติของชีวิตส่วนตัว ครอบครัวและงาน พร้อมสร้างความสัมพันธ์ที่อบอุ่นแก่ลูกค้า ภายใต้การเป็นองค์กรที่มีจริยธรรม ใส่ใจ สิ่งแวดล้อมและความสุขของชุมชน รวมทั้งส่งเสริมการพัฒนาคุณภาพของบุคลากรทุกระดับ และมุ่งเดินหน้าพัฒนาด้วยพันธกิจ ดังนี้ 1.Quality of Life พัฒนาที่อยู่อาศัยในทำเลที่มีศักยภาพและเหมาะสมในการใช้ชีวิต โดยออกแบบ และก่อสร้างด้วยฝีมือและวัสดุที่มีคุณภาพ บนความเข้าใจในความต้องการของลูกค้า 2.Customer Coziness สร้างความสัมพันธ์และการบริการที่อบอุ่นแก่ลูกค้าภายในและภายนอก
โดยยึดหลักการเข้าถึงง่าย รับฟังอย่างจริงใจ สื่อสารด้วยไมตรี และบริการที่มีคุณภาพและรวดเร็ว 3.Good Governance ดำเนินธุรกิจด้วยความโปร่งใส ตรวจสอบได้ เป็นธรรมต่อผู้มีส่วนได้เสีย 4.Develop Business Sustainability สร้างความสัมพันธ์ที่ดีกับชุมชน และรักษาสภาพสิ่งแวดล้อมที่ดีอย่างยั่งยืน ในทุกที่ที่เราไปดำเนินธุรกิจเพื่อการเติบโตที่ยั่งยืน
5. Develop People Capabilities พัฒนาความรู้ ความสามารถและคุณภาพชีวิตที่ดีให้กับพนักงาน และพันธมิตรทางธุรกิจควบคู่กันไปในส่วน Culture ขององค์กร เพื่อให้สอดคล้องกับสถานการณ์ปัจจุบันเราได้ปรับเปลี่ยนเป็น BRAVE ซึ่งหมายถึง พนักงานของเราต้องมีความกล้าหาญ เข้มแข็งในการทำงานและในขณะเดียวกันก็อ่อนโยนต่อลูกค้า
นอกจากนี้ ดี-แลนด์ กรุ๊ป ได้ปรับเปลี่ยนโลโก้ภายใต้แนวคิด Define your Life : ศิลปะแห่งการออกแบบชีวิตรวมถึงการปรับเปลี่ยนแนวคิดการออกแบบ ที่เน้นในเรื่องของ “Life-Work- Family” ดีไซน์
ด้วยความเข้าใจ ใส่ใจและพิถีพิถันในทุกรายละเอียดของการใช้ชีวิต เพื่อตอบรับวิถีชีวิต Modern Life
เป็นแนวคิดในการออกแบบบ้านทุกหลัง รองรับทั้งการทำงาน ชีวิตส่วนตัว และคนในครอบครัวได้อย่างสมดุล เพื่อตอบโจทย์การใช้ชีวิตได้อย่างลงตัว เช่น โครงการวิลลาเรส พระราม 2-เอกชัย ที่เปิดตัวโครงการในปี 2563 ได้มีการออกแบบพื้นที่ให้สอดรับกับยุค New Normal ด้วย Mudroom Design ซึ่งเป็นพื้นที่ที่อยู่ติดกับประตูทางเข้าบ้าน เป็นบริเวณที่เอาไว้สำหรับสวม-ถอดรองเท้า ตลอดจนจัดเก็บของใช้ที่เราจะพกติดตัวออกไปนอกบ้าน โซนนี้จะมีอ่างล้างมือ ซึ่งสามารถล้างมือทำความสะอาดก่อนเข้าบ้านได้และถอดเก็บอุปกรณ์ต่างๆโดยไม่ต้องนำเข้าไปในบ้านเป็นการป้องกันเชื้อโรคและมีตู้ฆ่าเชื้อรับพัสดุบริเวณหน้าบ้านด้วย
“การ Rebranding ปรับเปลี่ยนองค์กรในครั้งนี้ เพื่อให้ดี-แลนด์ กรุ๊ป มีความพร้อมในทุกสถานการณ์ ไม่ว่าจะเป็นวิกฤติโควิด-19 หรือเหตุการณ์อื่นๆ ที่อาจจะเกิดขึ้นในอนาคต เราให้ความสำคัญกับพนักงาน ลูกค้า และชุมชน เพราะเรามีขนาดที่ไม่ใหญ่จึงมีความคล่องตัวสูง สามารถเข้าถึงและสร้างความสัมพันธ์ที่อบอุ่น น่าเชื่อถือ ให้เกิดขึ้นกับทั้งลูกค้าและทุกคนในองค์กร รวมถึงการสร้างประโยชน์ร่วมกันให้กับชุมชนและสังคมควบคู่ไปกับการดำเนินธุรกิจอย่างต่อเนื่องเป็นรูปธรรม” นายศิริพงษ์ กล่าว
ที่มา : หน้า 19-20 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 40 ฉบับที่ 3,654