อาณาจักรเมืองทองธานี กว่า4,000 ไร่ คึกคัก ขึ้นอีกครั้งเมื่อ การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย(รฟม.)ลงนามในสัญญากับ บริษัท นอร์ทเทิร์น บางกอกโมโนเรล จำกัด (NBM) หรือ บริษัทระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพ จำกัด(มหาชน) หรือบีทีเอสซีและ บริษัท ซิโน-ไทย เอ็นจีเนียริ่ง แอนด์ คอนสตรัคชั่น จำกัด (มหาชน) ในฐานะพันธมิตร ก่อสร้างรถไฟฟ้าส่วนต่อขยายสายสีชมพู ช่วงสถานีศรีรัช – เมืองทองธานี ระยะทาง 2.8กิโลเมตร มูลค่ากว่า4,000 ล้านบาท มีเงื่อนไขว่า ผู้รับสัมปทานเป็นผู้รับผิดชอบ ค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นทั้งหมด ทั้งนี้การก่อสร้าง ใช้เวลา 37 เดือน แล้วเสร็จพร้อมเปิดให้บริการได้ในปี 2567 มีปริมาณผู้โดยสารตามคาดการณ์ 13,785 คนต่อเที่ยวต่อวัน
อย่างไรก็ตามนอกจากความสะดวกสบายของการเดินทางแล้ว สิ่งที่ขยับตามมาโดยไม่มีเงื่อนไขนั่นคือ ราคาที่ดิน ประเมินว่า ปรับขึ้น 20% ขึ้นไปจนถึง1เท่าตัว จากอิทธิพลรถไฟฟ้า ขณะราคา ต่อตารางวา ช่วง 1-2ปีก่อน เกือบ 1แสนบาทต่อตารางวา เนื่องจาก พื้นที่ค่อนข้างใหญ่ ห่างถนนสายหลักอย่างแจ้งวัฒนะ มีเพียงถนนภายในโครงการและทางขึ้น-ลงทางพิเศษ(ทางด่วน) ส่วนที่ดินติดถนน แจ้งวัฒนะราคา 3-4แสนบาทต่อตารางวา อย่างไรก็ตาม ช่วงมีแผน ก่อสร้างดึงเส้นทางรถไฟฟ้าสายสีชมพูเข้าพื้นที่ เมืองทองธานี ราว2ปีก่อน บริษัท บางกอกแลนด์ จำกัด (มหาชน) หรือ บีแลนด์ วางแผนนำที่ดินผืนใหญ่ 600ไร่ พัฒนารูปแบบ มิกซ์ยูสหรูทั้งโรงแรม ตลอดจนที่อยู่อาศัยมูลค่า 6,000 ล้านบาทบริเวณทะเลสาบ
สำหรับรถไฟฟ้าส่วนต่อขยายสายสีชมพู แนวเส้นทางส่วนต่อขยายมีจุดเริ่มต้นบนถนนแจ้งวัฒนะ เชื่อมต่อกับโครงการรถไฟฟ้าสายสีชมพู สายหลัก ที่สถานีศรีรัช ก่อนเลี้ยวขวาวิ่งเข้าสู่พื้นที่เมืองทองธานี ไปตามถนนแจ้งวัฒนะ – ปากเกร็ด 39 ขนานกับทางพิเศษอุดรรัถยา ผ่านวงเวียนเมืองทองธานี (สถานี MT–01) และวิ่งต่อเนื่องไปยังจุดสิ้นสุดโครงการบริเวณทะเลสาบเมืองทองธานี (สถานี MT–02) รวมระยะทาง 2.8 กิโลเมตร มีรูปแบบเป็นทางยกระดับทั้งหมด
ข่าวที่เกี่ยวข้อง:
.ครม.เห็นชอบ "รถไฟฟ้าสายสีชมพู" ส่วนต่อขยายเลี้ยวเข้าเมืองทองธานี
.ด่วน ชงครม.เคาะส่วนต่อขยายรถไฟฟ้าสายสีชมพู พรุ่งนี้