“ดุสิต เซ็นทรัล พาร์ค” โครงการมิกซ์ยูสมูลค่ากว่า 46,000 ล้านบาท แลนด์มาร์คใหม่ระดับโลกใจกลางกรุงเทพฯ ภายใต้แนวคิด Here for Bangkok เผยโฉมสถาปัตยกรรมเพื่อการอยู่อาศัยระดับอัลตร้าลักชัวรี่ในรูปแบบ Branded Residences “ดุสิต เรสซิเดนเซส” และ “ดุสิต พาร์คไซด์” ในย่านซูเปอร์คอร์ซีบีดีหัวมุมถนนสีลมตัดพระราม 4 เป็น The Most Prestige Address ที่เชื่อมย่านสำคัญของกรุงเทพฯ ทั้งย่านธุรกิจและการค้า ย่านเก่าและย่านใหม่เข้าด้วยกัน
อีกทั้งยังเป็นโครงการเดียวที่มอบวิวของสวนลุมพินีแบบพาโนรามิค 100% พร้อมด้วยรูฟพาร์คกว่า 7 ไร่ที่เชื่อมต่อกับพื้นที่สีเขียวธรรมชาติ 360 ไร่อย่างลงตัว ยกระดับการใช้ชีวิตเมืองให้มีความใกล้ชิดธรรมชาติเทียบเมืองชั้นนำระดับโลก
นางศุภจี สุธรรมพันธุ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่ม บริษัท ดุสิตธานี จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า จากความร่วมมือในการพัฒนาโครงการระหว่างกลุ่มดุสิตธานีและเซ็นทรัลพัฒนา ภายใต้บริษัท วิมานสุริยา จำกัด พร้อมแล้วกับการเปิดโฉมอาคารสูงที่พักอาศัย ภายในโครงการมิกซ์ยูส ดุสิต เซ็นทรัล พาร์ค ประกอบด้วย โรงแรม ที่พักอาศัย อาคารสำนักงานและศูนย์การค้า ซึ่งมีกำหนดเปิดเฟสแรกในปี พ.ศ. 2566 เริ่มจากโรงแรมดุสิตธานี กรุงเทพ ต่อด้วยศูนย์การค้าเซ็นทรัลพาร์ค และอาคารสำนักงานเซ็นทรัล พาร์ค ออฟฟิศเซสในปี 2567 และอาคารที่พักอาศัย ดุสิต เรสซิเดนเซส และ ดุสิต พาร์คไซด์ กลางปี 2568
ด้วยศักยภาพยอดเยี่ยมของทำเลสีลม-พระราม 4 ทำเลติดอันดับราคาที่ดินสูงที่สุดในกรุงเทพฯ และที่ตั้งโครงการอยู่ตรงข้ามกับสวนลุมพินี สวนสาธารณะขนาดใหญ่ พื้นที่สร้างอากาศบริสุทธิ์ให้การใช้ชีวิตใจกลางเมืองมีความใกล้ชิดธรรมชาติ ทำเลนี้ยังเป็นจุดเชื่อมต่อการคมนาคมระบบรางทั้งรถไฟฟ้า BTS สถานีศาลาแดง และรถไฟใต้ดิน MRT สถานีสีลม อำนวยความสะดวกในการเดินทางได้อย่างรวดเร็ว ทุกรายละเอียดงานดีไซน์สร้างสรรค์ด้วยความประณีตพิถีพิถัน สะท้อนคุณค่าดั้งเดิมของดุสิตธานีที่ผสานเข้ากับดีไซน์ทันสมัยในมาตรฐานสากลเพื่อให้ผู้อยู่อาศัยได้สัมผัสความรู้สึกถึง “บ้าน” ที่มีความเป็นส่วนตัวสูงสุดภายใต้รูปแบบสถาปัตยกรรมอาคารที่มีเอกลักษณ์โดดเด่นของอาคารทันสมัยความสูง 69 ชั้น มีสองแบรนด์ที่พักอาศัยอยู่ในอาคารเดียวกัน เพื่อตอบสนองไลฟ์สไตล์ของกลุ่มเป้าหมายที่แตกต่าง
นางสาววัลยา จิราธิวัฒน์ รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เซ็นทรัลพัฒนา จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า เซ็นทรัลพัฒนา และดุสิตธานี มีวิสัยทัศน์ตรงกันที่ต้องการให้โครงการดุสิต เซ็นทรัล พาร์ค เป็นโครงการ One-of-a-kind Landmark ที่จะยกระดับพลิกโฉมให้กรุงเทพฯ เป็นมหานครระดับโลก บนทำเลศักยภาพซูเปอร์คอร์ซีบีดีที่เป็นยิ่งกว่าใจกลางเมืองและที่ดินมูลค่าสูงในอันดับต้น ๆ ของกรุงเทพฯ
เราจึงพัฒนาโครงการเป็น Fully- Integrated Mixed-Use Development ที่เชื่อมโยงทุกองค์ประกอบเข้าหากัน อีกทั้งเรายังเข้าใจถึงความต้องการของคนเมืองที่ยังคงโหยหาพื้นที่สีเขียวและการได้ใกล้ชิดกับธรรมชาติ ดังนั้น เราจึงออกแบบให้รูฟพาร์คขนาด 7 ไร่ของโครงการเป็นส่วนขยาย Total Seamless Integration กับสวนลุมพินีที่มีขนาดใหญ่ถึง 360 ไร่ ได้อย่างลงตัวที่สุด
พร้อมทั้งมอบวิวแบบพาโนรามิคของสวนลุมพินี ซึ่งนับเป็น Privilege ที่หาได้ยากในโลเคชั่นใจกลางเมืองขนาดนี้ โดยภายในรูฟพาร์คได้แบ่งเป็นพื้นที่สำหรับผู้พักอาศัยเพื่อมอบความเป็นส่วนตัว ควบคู่ไปกับพื้นที่สาธารณะ เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตของผู้คนในเมืองไปพร้อมกัน เทียบชั้นมหานครระดับโลกที่มีพื้นที่สีเขียวขนาดใหญ่ใจกลางเมืองอย่าง เซ็นทรัล พาร์ค (Central Park) ที่นิวยอร์ก และไฮด์พาร์ค (Hyde Park) ที่ลอนดอน
การได้พักอาศัยในโครงการมิกซ์ยูสระดับโลกแห่งนี้ คือ สิทธิพิเศษที่ไม่สามารถหาได้จากโครงการไหน ที่มอบทั้งความเป็นส่วนตัว (Privacy) และการบริการ (Service) ระดับโรงแรม 5 ดาว รวมถึงการบริการในส่วนอื่นๆ ของโครงการทั้งในส่วนของรีเทลและสำนักงาน อีกทั้งตัวโครงการอยู่ในระดับมาตรฐานระดับสากล (International Standard) และตั้งอยู่บนทำเล ซึ่งเป็นที่รู้จักในระดับโลก (International Address)
นางสาวละเอียด โควาวิสารัช ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท วิมานสุริยา จำกัด กล่าวว่า อาคารที่พักอาศัยในโครงการดุสิต เซ็นทรัล พาร์คนั้นได้แบ่งออกเป็น 2 แบรนด์ตามความชื่นชอบของแต่ละบุคคล คือดุสิต พาร์คไซด์ จำนวน 246 ยูนิต พื้นที่ใช้สอยตั้งแต่ 55 – 115 ตารางเมตรบริเวณ ตั้งแต่ชั้นที่ 9 – 29 ด้วยดีไซน์แบบร่วมสมัย ให้ความเป็นส่วนตัวสูง ตอบโจทย์ผู้ที่ชื่นชอบไลฟ์สไตล์คนเมือง เหมาะสำหรับกลุ่มหนุ่มสาวรุ่นใหม่ คนทำงานในเมือง และครอบครัวขนาดเล็ก
ดุสิต เรสซิเดนเซส จำนวน 160 ยูนิต ขนาดพื้นที่ 120 – 750 ตารางเมตร ตั้งแต่ชั้นที่ 30 – 69 ดีไซน์หรูประณีตมีความคลาสสิก พื้นที่ใช้สอยกว้างเสมือนอาศัยในบ้านหลังใหญ่ ตกแต่งด้วยเครื่องเรือนสไตล์เอเชียร่วมสมัย แฝงความเป็นไทยด้วยการเลือกใช้สีสันและความงามของวัสดุธรรมชาติ เสริมบรรยากาศโปร่งสบายด้วยดีไซน์เพดานเปิดโล่งความสูง 6.6 เมตร โถงลิฟท์ส่วนตัว (Private Lift Lobby) รับวิวธรรมชาติสวนลุมพินีตัดขอบฟ้ากรุงเทพฯ อย่างงดงาม เหมาะสำหรับผู้ที่ชื่นชอบการอยู่อาศัยสไตล์หรูคลาสสิก มีไลฟ์สไตล์แบบคนเมือง รวมถึงกลุ่มลูกค้าดั้งเดิมที่ชื่นชอบความเป็นดุสิตธานี ชอบพื้นที่กว้าง หรือมีครอบครัวที่ต้องการพื้นที่ส่วนตัวให้กับสมาชิกทุกคน
ด้วยความตั้งใจมอบบริการที่เป็นเลิศในด้านฮอสพิทาลิตีของโรงแรมมาตรฐานระดับโลกภายใต้ชื่อเสียงและเอกลักษณ์งานบริการที่รู้จักกันมายาวนานในนามดุสิตธานี ซึ่งมีทั้งการบริการที่ทางโครงการฯ ได้จัดเตรียมไว้ให้ (Standard Services) และการบริการที่ผู้พักอาศัยสามารถขอรับบริการเพิ่มเติม (A la Carte Services) พร้อมด้วยแนวคิดที่ให้ความสำคัญกับเรื่องสุขภาพกายและสุขภาพใจ ทางโครงการจึงจัดสรรพื้นที่ชั้น 8 ให้เป็นสิ่งอำนวยความสะดวกสำหรับทั้งสองแบรนด์ (Shared Facilities) โดยดีไซน์พื้นที่ส่วนกลางนี้ให้เป็นศูนย์สุขภาพ นอกจากนี้ยังมีห้องอเนกประสงค์ ห้องสปา ห้องทำผม ทำเล็บ
การออกแบบพื้นที่เพื่อเป็นเอกสิทธิ์เฉพาะสำหรับการพักผ่อนและสันทนาการแบบเป็นส่วนตัว ครบครันความสะดวกสบายในบรรยากาศหรูหราทันสมัย ยังรวมไปถึงสิ่งอำนวยความสะดวกเฉพาะแบรนด์ (Private Facilities) ของ “ดุสิต เรสซิเดนเซส” ที่ชั้น 46 และ“ดุสิต พาร์คไซด์” ที่ชั้น 29 ประกอบด้วย สระว่ายน้ำแบบอินฟินิตี้และเจ็ทพูล ห้องอาบน้ำและห้องเปลี่ยนเครื่องแต่งกาย ห้องอบไอน้ำ ห้องซาวน่า ห้องออกกำลังกาย (Fitness Centre) ห้องโยคะ สกายเลาจน์ พร้อมห้องรับประทานอาหารเป็นส่วนตัว รวมพื้นที่อำนวยความสะดวกทั้งหมดกว่า 6,500 ตารางเมตร
ด้านงานก่อสร้างของโครงการดุสิต เซ็นทรัล พาร์ค ทางโครงการ ฯ ได้เลือกเฟ้นบริษัทที่มีคุณภาพและศักยภาพในการทำงาน ทั้งด้านการออกแบบโครงสร้างภายนอก งานใต้ดิน งานก่อสร้าง มั่นใจว่าทุกอาคารในโครงการมีคุณภาพสูง แข็งแรง และผู้พักอาศัยทุกคนได้รับความสะดวกสบายสูงสุด
ปัจจุบัน งานเสาเข็มของโครงการได้เสร็จสมบูรณ์ทั้งหมดแล้ว ขณะนี้กำลังดำเนินงานก่อสร้างฐานรากของอาคารโรงแรม ในส่วนของที่พักอาศัย ดุสิต เรสซิเดนเซส อยู่ในขั้นตอนของการขุดดินชั้น 2 จากการขุดดินทั้งหมด 7 ชั้น ซึ่งเป็นไปตามแผนงานที่วางไว้
ขณะนี้โครงการฯ ได้รับการผ่อนปรนให้สามารถทำการก่อสร้างได้ต่อเนื่อง ตามคำสั่งอนุญาตจากสำนักการโยธา กรุงเทพมหานคร ลงวันที่ 6 กรกฎาคม 2564 เนื่องจากอยู่ระหว่างการก่อสร้างชั้นใต้ดินเพื่อลดความเสี่ยงที่อาจเกิดความเสียหายต่อตามแนวถนนพระราม 4 ได้แก่ ระบบสาธารณูปโภค อุโมงค์รถไฟฟ้าใต้ดิน และโบราณสถานบ้านอับดุลราฮิม