ศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ ธนาคารอาคารสงเคราะห์ เปิดเผยผลสำรวจภาพรวมตลาดที่อยู่อาศัยพื้นที่ EEC จากผลการสำรวจภาคสนาม ซึ่งประกอบด้วยพื้นที่ชลบุรี ระยอง และฉะเชิงเทรา โดย ดร.วิชัย วิรัตกพันธ์ รักษาการผู้อำนวยการศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ (REIC) กล่าวว่า การแพร่ระบาดของ COVID-19 ระลอก 3 และ 4 ได้พบความเปลี่ยนแปลงที่ชัดเจนของอุปทานที่อยู่อาศัยหน่วยเปิดขายใหม่ที่เข้าสู่ตลาดในพื้นที่ EEC
โดยในช่วงครึ่งแรกของปี 2564 มีโครงการที่อยู่อาศัยใหม่เข้าสู่ตลาดน้อยมากโดยมีเพียง 5,752 หน่วย หรือ ลดลงร้อยละ -17.1 และมีมูลค่ารวม 14,227 ล้านบาท หรือ ลดลงร้อยละ -35.0 เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน ส่งผลให้อุปทานที่อยู่อาศัยทั้งหมดที่มีการขายในพื้นที่ EEC มีจำนวนรวม 72,120 หน่วย หรือ ลดลงร้อยละ -7.5 และมีมูลค่ารวม 240,722 ล้านบาท หรือ ลดลงร้อยละ -7.9
โดยมีหน่วยขายได้ใหม่ลดลงทั้งจำนวนหน่วยและมูลค่า โดยมีหน่วยขายได้ใหม่ประมาณ 8,841 หน่วย หรือ ลดลงร้อยละ -25.9 และมีมูลค่า 26,198 ล้านบาท หรือ ลดลงร้อยละ -31.0 ส่งผลให้มีหน่วยเหลือขายอยู่ในตลาดประมาณ 63,279 หน่วย และมีมูลค่ารวมประมาณ 214,525 ล้านบาท ลดลงทั้งจำนวนหน่วยและมูลค่า ร้อยละ -4.1 และ -4.0 ตามลำดับ
" ศูนย์ข้อมูลฯ ประมาณการปี 2564 จะมีโครงการเปิดขายใหม่จำนวนประมาณ 14,479 หน่วย มูลค่ารวม 38,704 ล้านบาท จะมีจำนวนหน่วยขายได้ใหม่ 19,328 หน่วย มูลค่ารวม 57,650 ล้านบาท มีหน่วยเหลือขายรวมทั้งสิ้น 65,790 หน่วย มูลค่า 215,682 ล้านบาท และคาดการณ์ว่าสถานการณ์จะเริ่มดีขึ้นในปี 2565 ทั้งในส่วนของการเปิดขายโครงการใหม่ และยอดขายใหม่ จะส่งผลให้ที่อยู่อาศัยเหลือขายในพื้นที่ EEC ลดลงมาอยู่ที่ประมาณ 61,942 หน่วยในครึ่งหลังปี 2565 "
สถานการณ์ตลาดที่อยู่อาศัยจังหวัดชลบุรี
" ศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ ได้ประมาณการที่อยู่อาศัยเปิดขายใหม่จะเข้าสู่ตลาดในปี 2564 จำนวนประมาณ 7,419 หน่วย มูลค่ารวมประมาณ 20,728 ล้านบาท ประกอบด้วยโครงการบ้านจัดสรรประมาณ หน่วย มูลค่ารวมประมาณ 11,264 ล้านบาท โครงการอาคารชุดประมาณ 3,439 หน่วย มูลค่ารวมประมาณ 9,463 ล้านบาท โดยในช่วงครึ่งหลังปี 2564 อัตราการขยายตัวของหน่วยโครงการที่อยู่อาศัยเปิดขายใหม่จะมีอัตราติดลบเพิ่มขึ้นจากช่วงครึ่งปีแรก โดยคาดว่าจะลดลงประมาณร้อยละ -30.7 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ขณะที่มูลค่าลดลงประมาณร้อยละ -42.8 แต่เชื่อมั่นว่าสถานการณ์ของหน่วยเปิดขายใหม่ของพื้นที่ชลบุรีจะปรับตัวดีขึ้นในปี 2565 "
" คาดการณ์ว่าในปี 2565 จะมีหน่วยขายได้ใหม่จำนวนประมาณ 13,773 หน่วยมูลค่ารวม 45,919 ล้านบาท ประกอบด้วยโครงการบ้านจัดสรรประมาณ 8,017 หน่วย มูลค่ารวมประมาณ 21,954 ล้านบาท และโครงการอาคารชุดประมาณ 5,756 หน่วย มูลค่ารวมประมาณ 23,965 ล้านบาท โดยคาดว่าในช่วงครึ่งแรกปี 2565 ตลาดที่อยู่อาศัยในชลบุรีจะมียอดขายที่ดีขึ้นตั้งแต่ช่วงครึ่งแรกปี 2565 โดยคาดว่าจำนวนหน่วยจะเพิ่มขึ้นร้อยละ 24.0 และมูลค่าเพิ่มจะเพิ่มขึ้นร้อยละ 29.0 "
สถานการณ์ตลาดที่อยู่อาศัยจังหวัดระยอง - ฉะเชิงเทรา
ด้านผลสำรวจตลาดที่อยู่อาศัยในพื้น ที่จังหวัดระยอง และฉะเชิงเทรา พบว่าในช่วงครึ่งแรกปี 2564 ไม่มีการเปิดขายโครงการใหม่ประเภทโครงการอาคารชุด มีเพียงการเปิดขายโครงการบ้านจัดสรรเท่านั้น
พื้นที่จังหวัดระยอง
" ศูนย์ข้อมูล ฯ คาดการณ์ปี 2564 จะมีโครงการใหม่เข้าสู่ตลาดจำนวนประมาณ 5,408 หน่วย มูลค่ารวมประมาณ 13,921 ล้านบาท มีหน่วยเหลือขายประมาณ 17,674 หน่วย มูลค่ารวมประมาณ 43,753 ล้านบาท "
" ปี 2565 จะมีโครงการที่อยู่อาศัยเปิดขายใหม่จำนวน 5,890 หน่วย มูลค่ารวม 13,865 ล้านบาท โดยมีจำนวนหน่วยเหลือขายจำนวน 15,618 หน่วย ลดลงร้อยละ-11.6 มูลค่ารวม 38,124 ล้านบาท ลดลงร้อยละ -12.9 "
พื้นที่จังหวัดฉะเชิงเทรา
" ศูนย์ข้อมูลฯ คาดการณ์ปี 2564 จะมีโครงการใหม่เข้าสู่ตลาดจำนวนประมาณ 1,652 หน่วย มูลค่ารวมประมาณ 4,170 ล้านบาท มีหน่วยเหลือขายประมาณ 5,714 หน่วย มูลค่ารวมประมาณ 16,738 ล้านบาท นอกจากนี้ศูนย์ข้อมูลฯ ยังคาดการณ์ว่าในปี 2565 จะมีโครงการที่อยู่อาศัยเปิดขายใหม่จำนวน 1,640 หน่วย มูลค่ารวม 4,177 ล้านบาท โดยมีจำนวนหน่วยเหลือขายจำนวน 5,554 หน่วย ลดลงร้อยละ -2.8 มูลค่ารวม 15,699 ล้านบาท ลดลงร้อยละ-6.2 "