29 ต.ค. 2564 - เจาะสถานการณ์ตลาดที่อยู่อาศัยใน EEC ไตรมาส 2 ปี 2564 และครึ่งแรกปี 2564 โดยศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ (REIC) เผยว่า จังหวัดชลบุรี ระยอง และฉะเชิงเทรา ซึ่งเป็นพื้นที่จังหวัด EEC และกลุ่มจังหวัดพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด (สีแดงเข้ม) โดยมีการควบคุมกิจกรรมทางเศรษฐกิจเพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของ COVID -19 ได้ส่งผลต่อกำลังซื้อและความมั่นใจในการซื้อที่อยู่อาศัยของจังหวัดในกลุ่มพื้นที่ EEC เป็นอย่างมาก
ไตรมาส 2 ล็อกดาวน์ โอนกรรมสิทธิ์ลดลงกว่า10%
โดยพบว่าในไตรมาส 2 ปี 2564 มีการชะลอตัวของทางด้านอุปทาน การออกใบอนุญาตก่อสร้างที่อยู่อาศัยที่ลดลงร้อยละ -1.3 แต่ด้านการออกใบอนุญาตจัดสรรที่ดินมีการปรับตัวเพิ่มขึ้นร้อยละ 38.3 เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน แต่เป็นการเพิ่มขึ้นจากฐานที่ต่ำมากในไตรมาส 2 ปี 2563
ซึ่งเป็นระยะแรกของการเกิดวิกฤตการณ์แพร่ระบาดของ COVID-19 (ในช่วงไตรมาส 2 ปี 2563 มีการออกใบอนุญาตจัดสรรต่ำกว่าค่าเฉลี่ย 5 ปีก่อนเกิดวิกฤตการณ์แพร่ระบาดของ COVID-19 ถึงร้อยละ -52.8 หรือที่เคยอยู่ที่เฉลี่ยประมาณ 5,700 หน่วยต่อไตรมาส) ส่วนด้านอุปสงค์การโอนกรรมสิทธิ์ที่อยู่อาศัยที่สะท้อนกำลังซื้อที่อยู่อาศัยก็ได้รับผลกระทบเช่นกัน โดยจำนวนหน่วยลดลงร้อยละ -10.4 และมูลค่าลดลงร้อยละ -8.0
ครึ่งปี EEC ตัวเลขขอจัดสรรที่ดินลด 22.8%
ด้านภาพรวมสถานการณ์ในช่วงครึ่งแรกปี 2564 เป็นไปในทิศทางเดียวกันคือ เศรษฐกิจไทยได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของ COVID-19 ถึงสองระลอก ส่งผลให้ทั้งอุปทานและอุปสงค์ของตลาดที่อยู่อาศัยหดตัวลง โดยอุปทานการออกใบอนุญาตจัดสรรที่ดินลดลงทั้งจำนวนโครงการและจำนวนหน่วย ร้อยละ -22.8 และร้อยละ -15.7 ตามลำดับ แต่ด้านการออกใบอนุญาตก่อสร้างที่อยู่อาศัยปรับตัวเพิ่มขึ้นร้อยละ 7.1 ซึ่งเป็นการปรับตัวเพิ่มขึ้นจากฐานที่ต่ำมากในช่วงที่ไม่ปกติ ส่วนด้านอุปสงค์การโอนกรรมสิทธิ์ที่อยู่อาศัยลดลงทั้งจำนวนหน่วยและมูลค่า โดยจำนวนหน่วยลดลงร้อยละ -21.9 และมูลค่าลดลงร้อยละ -18.1 ตามลำดับ
ทั้งนี้ ในช่วงครึ่งแรกปี 2564 มีโครงการที่อยู่อาศัยที่ได้รับอนุญาตจัดสรรที่ดินจากกรมที่ดินจำนวน 71 โครงการ 7,090 หน่วย ลดลงทั้งจำนวนโครงการและจำนวนหน่วย โดยลดลงร้อยละ -22.8 และ ร้อยละ -15.7 ตามลำดับ เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปี 2563 ซึ่งมี 92 โครงการ 8,409 หน่วย ในจำนวน 7,090 หน่วย โดยส่วนใหญ่ใบอนุญาตจัดสรรที่ดินเป็นทาวน์เฮ้าส์มากที่สุด จำนวน 3,682 หน่วย คิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 51.9 ของจำนวนการออกใบอนุญาตจัดสรรที่ดินทั้งหมด รองลงมาเป็นบ้านแฝดจำนวน 1,676 หน่วย คิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 23.6 และบ้านเดี่ยวจำนวน 1,667 หน่วย คิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 23.5 ส่วนที่เหลือเป็น อาคารพาณิชย์ และที่ดินจัดสรร ตามลำดับ
ชลบุรียังฮอต ขอจัดสรรสูงสุด
เมื่อพิจารณารายจังหวัดในพื้นที่ EEC ในครึ่งแรกปี 2564 จังหวัดที่มีการออกใบอนุญาตจัดสรรมากที่สุด เรียงลำดับได้ดังนี้
ใบอนุญาตก่อสร้างคอนโดฯเพิ่ม 78.9%
ด้านการออกใบอนุญาตก่อสร้าง พบว่าครึ่งแรกปี 2564 มีการออกใบอนุญาตก่อสร้างที่อยู่อาศัยใน 3 จังหวัด EEC ทั้งที่เป็นบ้านที่ประชาชนสร้างเอง บ้านในโครงการจัดสรร และอาคารชุด มีจำนวนประมาณ 17,049 หน่วย เพิ่มขึ้นร้อยละ 7.1 เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปี 2563 แบ่งออกเป็นการออกใบอนุญาตก่อสร้างที่อยู่อาศัยแนวราบจำนวนประมาณ 13,895 หน่วย และอาคารชุด จำนวนประมาณ 3,154 หน่วย ซึ่งที่อยู่อาศัยแนวราบมีการออกใบอนุญาตลดลงร้อยละ -1.8 แต่อาคารชุดมีการออกใบอนุญาตก่อสร้างเพิ่มขึ้นมากถึงร้อยละ 78.9 เมื่อเมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปี 2563
เมื่อพิจารณารายจังหวัดในพื้นที่ EEC ในครึ่งแรกปี 2564 จังหวัดที่มีการออกใบอนุญาตก่อสร้างที่อยู่อาศัยมากที่สุด เรียงลำดับได้ดังนี้
ครึ่งปีโอนกรรมสิทธิ์ มูลค่า 3.7 หมื่นล้าน
ด้านการโอนกรรมสิทธิ์ที่อยู่อาศัย ในช่วงครึ่งแรกปี 2564 มีการโอนกรรมสิทธิ์ที่อยู่อาศัยใน 3 จังหวัด EEC จำนวน 16,045 หน่วย มีมูลค่า 37,855 ล้านบาท จำนวนหน่วยและมูลค่าลดลง ร้อยละ -21.9 และร้อยละ -18.1 ตามลำดับ เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปี 2563 มีจำนวน 20,550 หน่วย และมูลค่า 46,209 ล้านบาท
เมื่อพิจารณารายจังหวัดที่มีการโอนกรรมสิทธิ์ที่อยู่อาศัยมากที่สุด โดยเรียงตามมูลค่าการโอนกรรมสิทธิ์เรียงลำดับได้ดังนี้
" ศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ ประเมินสถานการณ์ภาพรวมปี 2564 โดยประมาณการในด้านอุปทานการขอใบอนุญาตจัดสรรที่ดินในปี 2564 จะมีอัตราขยายตัวอยู่ในช่วงร้อยละ -17.5 ถึง 0.8 การขอใบอนุญาตก่อสร้างที่อยู่อาศัยจะมีอัตราขยายตัวอยู่ในช่วงร้อยละ -9.2 ถึง 11.0 ส่วนด้านอุปสงค์ในปี 2564 คาดการณ์ว่า หน่วยการโอนกรรมสิทธิ์ที่อยู่อาศัยจะมีอัตราขยายตัวอยู่ในช่วงร้อยละ -37.8 ถึง -24.0 แต่จำนวนมูลค่าการโอนกรรมสิทธิ์ที่อยู่อาศัยคาดว่าจะมีอัตราขยายตัวอยู่ในช่วงร้อยละ 9.5 ถึง 33.8 เนื่องจากราคาที่อยู่อาศัยต่อหน่วยปรับตัวสูงขึ้น เมื่อเทียบกับปี 2563 "