1 ธ.ค.2564 - เมื่อโควิดกำลังผ่านพ้นไปธุรกิจอสังหาฯ คืออุตสาหกรรมที่ได้รับผลกระทบรุนแรงหนักหน่วงผู้เชี่ยวชาญหลายคนลงความเห็นว่าวิกฤติครั้งนี้รุนแรงกว่าทุกครั้งกระทบ ตั้งแต่กำลังซื้อของผู้บริโภคสะเทือน ถึงผู้ประกอบการและสถาบันการเงิน ทุกภาคส่วนล้วนต้องปรับตัว
ซึ่งหนึ่งในแนวทาง คือการใช้วิธีคิดและเครื่องมือแบบใหม่ เนื่องจากสถานการณ์เปลี่ยนไปรวมถึงการแข่งขันที่เพิ่มขึ้นบนกำลังซื้อที่มีอยู่จำกัด
ภายใน งานเสวนา RE Wonder Talk 2022 , Tech & Trend Revolution for Real Estate จัดขึ้นเมื่อวันที่ 30 พฤศจิกายน 2654 เปิดเผย 4 เทคโนโลยีสำคัญที่ช่วยเพิ่มยอดขาย ลดต้นทุนการตลาด เข้าถึงและเข้าใจลูกค้ามากยิ่งขึ้น โดยภายในงานได้เผยแพร่ข้อมูลรวมถึงกรณีศึกษามากมาย ดังนี้
นายเสถียร ทันต์เจริญกิจ กรรมการบริหาร บริษัท เว็กซิบ จำกัด (wExib) ผู้พัฒนาโปรแกรมการ ไลฟ์ สตรีมมิ่งแบบ Visual Reality Exhibition กล่าวว่าปัญหาในปัจจุบันการไลฟ์ สตรีมมิ่งบนโซเชี่ยลมีเดีย อาทิ เฟซบุ๊ก มีข้อจำกัดด้านการเก็บข้อมูลลูกค้าซึ่งข้อมูลจะไปอยู่ทางเฟซบุ๊กมากกว่าเจ้าของสินค้า รวมถึงข้อจำกัดการถ่ายทอดสดเมื่อต้องใช้มุมกล้องที่หลากหลาย
เช่นการถ่ายทำห้องตัวอย่างทำได้เพียงทีละครั้ง แต่การไลฟ์ สตรีมมิ่งยุคใหม่จะสามารถทำได้พร้อมกัน ช่วยให้ผู้ชมมีทางเลือกและอยู่ชมการไลฟ์ได้นานขึ้น มีงานวิจัยเพิ่มเติมเปรียบเทียบผู้บริโภคชาวไทยและเอเชียว่า การไลฟ์ที่มีประสิทธิภาพควรมีเนื้อหาการเล่าเรื่องสินค้าที่น่าสนใจ รวมถึงเวลาในการออกอากาศ เช่น การไลฟ์ในวันจันทร์ต้นเดือน ช่วงกลางคืนส่งผลต่อยอดขายสินค้า สร้างความสนใจได้ดีกว่าวันอื่น
“การไลฟ์ สตรีมมิ่ง เป็นเทคโนโลยีที่สำคัญในการเชื่อมอีเวนท์การขายสินค้า การทำรีวิวสินค้าบนโลกออฟไลน์ผ่านสถานที่และบรรยากาศจริง ให้มีความเชื่อมโยงส่งเสริมกันในการสร้างยอดขายมากกว่าพึ่งพาเครื่องมือใดเพียงอย่างเดียว”นายเสถียร กล่าว
สำหรับในธุรกิจอสังหาฯสามารถนำการ "ไลฟ์ สตรีมมิ่ง" ก็สามารถนำแพลตฟอร์มนี้มาใช้ได้ โดยเฉพาะลูกค้า หรือเอเจนท์จากต่างประเทศ ที่ไม่สะดวกในการเดินทาง ก็สามารถชมห้องตัวอย่างได้เลย
นางสาวณัฐติวรรณ ชนะมงคล ผู้อำนวยการฝ่ายการวางกลยุทธ์ บริษัท เดอะ ฟิฟธ์ เฮ้าส์ จำกัด (The Fifth Haus) กล่าวว่า หลังวิกฤติโควิด-19การสื่อสารไปยังลูกค้าจำเป็นต้องมีความพิถีพิถันมากกว่าเดิม ต้องเลือกฐานข้อมูลจากหลายแหล่งมาประกอบมากกว่าการหวังให้โซเชียลมีเดียจะช่วยหาลูกค้าได้ตลอด
นายธนัท กลิ่นเกษร ผู้อำนวยการฝ่ายพัฒนาธุรกิจ บริษัท เดอะ ฟิฟธ์ เฮ้าส์ จำกัด (The Fifth Haus) กล่าวว่า 68% ของลูกค้ายังค้นข้อมูลบนเฟซบุ๊ก กับกูเกิ้ล คำยอดฮิตสำหรับค้นหาคือ สุขุมวิท เอกมัย บีทีเอส สาทร ซึ่งราคาโฆษณาย่อมสูงไปด้วย
ทั้งสองท่านยังแนะนำว่า การเตรียมเนื้อหา ข้อความ รวมถึงแคมเปญโปรโมชั่นที่สื่อสารไปยังลูกค้าควรมีวิธีคิดด้วยการใช้หลัก CPR C- Creative เพื่อสร้างความน่าสนใจ การดึงดูดใจ P – Precise ความแม่นยำจากแหล่งฐานข้อมูลลูกค้าหลากหลาย R – Real time การตอบสนองที่รวดเร็วและหลากหลายวิธีการเพื่อสร้างความพึงพอใจให้กับลูกค้า
นายปกรณ์ ลี้สกุล ผู้ก่อตั้ง บริษัท ฟินีม่า จำกัด กล่าวว่า ในอนาคตการยืนยันตัวตนผ่านดิจิทัล จะเป็นเครื่องมือหลักและเติบโตอีกมากเนื่องจากการประมวลผลคอมพิวเตอร์ที่ดีขึ้น และการเก็บข้อมูลผ่านบล็อกเชนมีความปลอดภัยสูง อีกทั้งผู้บริโภคต้องการประสบการณ์ที่ดี สะดวกรวดเร็วกว่า
นายปิยพันธ์ วงศ์ยะรา ผู้ก่อตั้งแอปพลิเคชัน และเว็บไซต์ 2 read กล่าวว่า แพลต์ฟอร์ม Digital Content ได้ใช้เทคโนโลยี AI ประยุกต์เป็น BOT read ให้โปรแกรมทำการอ่านหนังสือแทนซึ่งเสียงที่ออกมาเกิดจาก AI ให้เรียนรู้การพูดพยัญชนะภาษาไทย การออกเสียงสระ การแสดงอารมณ์ผ่านตัวหนังสือซึ่งจะดีขึ้นเรื่อยๆ จนวันนี้จะแยกไม่ออกว่าเสียงของคนจริง หรือ AI ในอนาคตเราศึกษาว่ามีโอกาสอีกมากจากการใช้ BOT read เพื่อลดการใช้พนักงานหรือตอบคำถามเรื่องเดิมในปริมาณมาก อาทิ เอกสารสัญญาทางกฎหมาย คู่มือการอยู่อาศัย เอกสารทางราชการ คู่มือรับประกันหลังการขาย ข้อมูลการบริการภาครัฐ รวมถึงจะได้เห็นผู้สื่อข่าว หรือ influencer ถูกสร้างจาก AI จนได้รับความนิยมไม่ต่างจากบุคคลจริงเป็นต้น”
อีกหนึ่งธุรกิจอสังหาฯที่ได้รับผลกระทบชัดเจนมากอย่างธุรกิจรีเทล ห้างสรรพสินค้า จากรายงานของสำนักวิจัยกรุงศรี คาดว่าธุรกิจรีเทลมีปัจจัยลบกดดันอย่างต่อเนื่องโดยคาดว่าธุรกิจรีเทลจะกลับมาฟื้นตัวที่ 1.5% -2.5% ในปลายปี 2021 และขยับขึ้นตามสถานการณ์ที่ผ่อนคลายจนถึงปี 2023
นายกรณ์กวินท์ พีระเดชไพศาล ผู้ก่อตั้ง AI & Smart Retail กล่าวว่า หากมองภาพรวมของตลาดรีเทลทั่วโลกแนวโน้มเปลี่ยนเข้าสู่ยุคสมาร์ตรีเทลผ่านการขับเคลื่อนจากเทคโนโลยี AI และ Machine Learning เพื่อใช้การวิเคราะห์ นำเสนอสินค้าที่ตรงใจลูกค้า ในขณะเดียวกันทางฝากธุรกิจก็ได้ประโยชน์จากการลดต้นทุนของพนักงาน รวมทั้งสร้างประสบการณ์ใหม่ที่ดีให้กับลูกค้าในการช้อปปิ้งไม่ว่าจะเป็น smart counter หรือ smart cart ที่สะดวกรวดเร็วกว่าการซื้อสินค้าแบบดั้งเดิม ซึ่งแนวโน้มตรงนี้ชัดเจนและเกิดขึ้นแล้วโดยมีการคาดการณ์ว่า AI จะเข้ามาผลักดันตลาดรีเทลให้เติบโตได้อีกถึง 10 เท่าในปี 2026