เมื่อวันที่3 ธันวาคม2564พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เป็นประธานในพิธี มอบสิทธิบ้านเช่าโครงการบ้านเคหะสุขประชาร่มเกล้าให้กับผู้แทนผู้มีรายได้น้อยและกลุ่มเปราะบาง โดยมี นายจุติ ไกรฤกษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ และคณะให้การต้อนรับบริเวณ โครงการบ้านเคหะสุขประชาร่มเกล้า ถนนร่มเกล้า แขวงคลองสองต้นนุ่น เขตลาดกระบัง กรุงเทพฯมหานคร
นายทวีพงษ์ วิชัยดิษฐ ผู้ว่าการการเคหะแห่งชาติ กล่าวว่า “โครงการบ้านเคหะสุขประชา”เป็นการพลิกโฉมประเทศไทยจากวิกฤตสู่โอกาสให้ผู้มีรายได้น้อยและกลุ่มเปราะบางได้มีที่อยู่อาศัยที่ได้มาตรฐานท่ามกลางสิ่งแวดล้อมที่น่าอยู่อาศัย มีอาชีพใหม่ และมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น
ตามเจตนารมณ์ของ พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และนายจุติ ไกรฤกษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ที่ต้องการให้ประชาชนผู้มีรายได้น้อยได้เช่าบ้านพร้อมอาชีพ ยกระดับรายได้ 40,000 บาทต่อครอบครัว เพื่อลดความเหลื่อมล้ำด้านที่อยู่อาศัย ทำให้ประชาชนมีความหวัง มีอาชีพ และมีรายได้ที่มั่นคง
โดยคณะรัฐมนตรีรับทราบ เมื่อวันที่ 30 มิถุนายน 2563 ให้การเคหะแห่งชาติจัดทำโครงการบ้านเคหะสุขประชาตามที่กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ นำเสนอ มีเป้าหมายจัดสร้าง 100,000 หน่วย ภายในระยะเวลา 5 ปี เริ่มตั้งแต่ปี พ.ศ.2564 - 2568 จัดสร้างปีละ 20,000 หน่วย รวมทั้งนำหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงมาพัฒนาอาชีพและ
สร้างรายได้ให้กับผู้อยู่อาศัย ซึ่งขึ้นอยู่กับความเหมาะสมในการพัฒนาโครงการของแต่ละพื้นที่ มี 6 อาชีพ ได้แก่ เกษตรอินทรีย์ ปศุสัตว์ อาชีพบริการชุมชนและชุมชนข้างเคียง ตลาด อุตสาหกรรมขนาดเล็ก และศูนย์การค้าปลีก - ส่ง เพื่อพัฒนาเศรษฐกิจ
ฐานรากของชุมชนให้สามารถพึ่งพาตนเองได้อย่างยั่งยืน รวมถึงสนับสนุนเศรษฐกิจชุมชนตามภูมิสังคมของพื้นที่นั้น ๆ เริ่มตั้งแต่การผลิตไปจนถึงช่องทางการจัดจำหน่าย
“การเคหะแห่งชาติได้เริ่มจัดสร้างโครงการนำร่องบ้านเคหะสุขประชาฉลองกรุง จำนวน 302 หน่วย และได้รับเกียรติจาก พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีเป็นประธานในพิธีเปิดโครงการบ้านเคหะสุขประชาฉลองกรุงแล้ว เมื่อวันที่ 5 เมษายน 2564 ที่ผ่านมา และในวันนี้ (3 ธ.ค.64) เราได้บ้านเคหะสุขประชาร่มเกล้าเพิ่มมาอีก 270 หน่วย ซึ่งท่านนายกรัฐมนตรีจะมามอบให้กับผู้มีรายได้น้อยและกลุ่มเปราะบางได้เช่าอยู่อาศัย โดยการเคหะแห่งชาติได้จับสลากผู้ได้สิทธิเช่าครบทั้งสองโครงการแล้ว”
นายทวีพงษ์ กล่าวเพิ่มเติมว่า โครงการบ้านเคหะสุขประชาร่มเกล้า ตั้งอยู่บริเวณถนนร่มเกล้า แขวงคลองสองต้นนุ่น เขตลาดกระบัง กรุงเทพฯ ขนาดพื้นที่โครงการ 20.26 ไร่ จัดสร้างบ้านจำนวน 270 หน่วย ประกอบด้วย บ้านแฝดชั้นเดียว จำนวน 86 หน่วย และบ้านสองชั้น จำนวน 184 หน่วย โดยแบ่งพื้นที่ใช้สอยตามความเหมาะสมของกลุ่มเป้าหมาย ดังนี้
นอกจากนี้ การเคหะแห่งชาติได้รับอนุมัติจากคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 9 พฤศจิกายน 2564 ให้จัดตั้ง บริษัท เคหะสุขประชา จำกัด (มหาชน) เพื่อมาช่วยให้การดำเนินโครงการบ้านเคหะสุขประชาคล่องตัวและประสบความสำเร็จได้เร็วขึ้น
โดยการเคหะแห่งชาติถือหุ้น 49 % และผนึกกำลังกับพันธมิตรที่เข้มแข็งและมีความเป็นมืออาชีพถือหุ้น 51 % อาทิ บริษัท บีซีพีจี จำกัด (มหาชน) ให้การสนับสนุนเทคโนโลยีด้านพลังงานทดแทน เพื่อดูแลรักษาสิ่งแวดล้อม และการจัดการขยะในชุมชน บริษัท วินโดว์เอเชีย จำกัด เข้ามาสนับสนุนวัสดุก่อสร้าง ช่วยลดต้นทุนการก่อสร้างโครงการ บ้านเคหะสุขประชา และบริษัท
ทิพยประกันภัยจำกัด (มหาชน) จะเข้ามาดูแลเรื่องการประกันรายได้ของผู้อยู่อาศัยในโครงการฯ“ขอขอบคุณ พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และนายจุติ ไกรฤกษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ที่พยายามผลักดันทุกวิถีทางให้เกิดโครงการนี้ รวมถึงหน่วยงานที่ช่วยผลักดันบริษัท เคหะ
สุขประชา จำกัด (มหาชน) ได้แก่ สภาพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ สำนักงานคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ กระทรวงการคลัง สำนักงบประมาณ สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สำนักงานเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ที่ช่วยขับเคลื่อน
ให้การดำเนินโครงการเคหะสุขประชาเดินหน้าได้อย่างเต็มรูปแบบ”
ผู้ว่าการการเคหะแห่งชาติ กล่าวเสริมว่า การเคหะแห่งชาติขอขอบคุณพี่น้องประชาชนที่สนใจในโครงการบ้านเคหะสุขประชาจำนวนมาก ในปี พ.ศ. 2565 การเคหะแห่งชาติมีแผนจะก่อสร้างโครงการบ้านเคหะสุขประชาอีก 13 โครงการ จำนวน 3,948 หน่วย ในจังหวัดปทุมธานี จังหวัดนครปฐม จังหวัดสมุทรปราการ จังหวัดฉะเชิงเทรา จังหวัดพระนครศรีอยุธยา จังหวัดชลบุรี จังหวัดเชียงใหม่ จังหวัดระยอง และจังหวัดสระบุรี
ขณะนี้อยู่ระหว่างหารือกับสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ก่อนนำเสนอคณะรัฐมนตรีพิจารณาให้ความเห็นชอบจัดทำโครงการ และในอนาคตการเคหะแห่งชาติมีแผนจะดำเนินโครงการบ้านเคหะสุขประชาต่อเนื่องอีกกว่า 30,000 หน่วย ในลักษณะร่วมลงทุนกับภาคเอกชน
โดยจะร่วมทุนกับบริษัทเคหะสุขประชา จำกัด (มหาชน) เพื่อให้ประชาชนสามารถเข้าถึงที่อยู่อาศัยที่มีมาตรฐานในราคาที่เหมาะสม สามารถรับภาระได้ รวมไปถึงการพัฒนาอาชีพเพื่อก่อให้เกิดรายได้ที่มั่นคงยั่งยืนต่อไป