24 พ.ค.2565 - พลิกประวัติศาสตร์ 'โรงแรมนารายณ์' หลังปรากฎข่าวโด่งดังก่อนหน้านี้ ถึงการประกาศทุบทิ้งโรงแรม และเตรียมรีโนเวท ปรับปรุง เป็นมิกซ์ยูสโฉมใหม่ ใจกลางสีลม
ล่าสุด ในความคืบหน้านั้น จะมีการเคลื่อนย้าย 'รูปปั้นพระนารายณ์บรรทมสินธุ์' ซึ่งถือว่าเป็นประติมากรรม เก่าแก่คู่โรงแรมนารายณ์สีลมกว่า 50 ปี โดยถือเป็นพิธีขั้นตอนที่มีความสำคัญ และมีความหมายยิ่ง ซึ่งการเคลื่อนย้ายครั้งนี้ มีความน่าสนใจเป็นพิเศษ โดยต้องระดมทีมนักวิชาการ ผู้เชี่ยวชาญด้านวัตถุโบราณ มาร่วมตรวจสอบและประเมินโครงสร้างในครั้งนี้ด้วย
เปิดใจผู้บริหารโรงแรมนารายณ์ ย้าย“องค์พระนารายณ์”
นายนที นิธิวาสิน กรรมการบริหาร บริษัท นารายณ์ โฮเต็ล จำกัด ให้ข้อมูลถึงการเคลื่อนย้ายว่า “ด้วยความที่รูปปั้นพระนารายณ์บรรทมสินธุ์ อยู่คู่กับโรงแรมมาเป็นเวลากว่า 50 ปี ไม่เคยเคลื่อนย้ายเลย ย่อมต้องมีสึกกร่อนไปตามกาลเวลา ครั้งนี้ ถือเป็นการเคลื่อนย้ายครั้งแรก
ทีมผู้บริหารจึงต้องการอยากให้คงสภาพเดิมไว้ให้ได้มากที่สุด เราจึงตัดสินใจ เลือก บริษัท JWD Art Space จำกัด ที่มีประสบการณ์ด้านดูแล งานศิลปะครบวงจร ทั้งซ่อมแซมงานศิลปะ เคลื่อนย้าย เก็บรักษา และติดตั้งกลับ เป็น One Stop Service รวมทั้งมีรับประกันภัย ผลงานทุกชิ้น ในทุกขั้นตอน ซึ่งทำให้เราวางใจได้ว่างานศิลปะที่เรานำไปฝากไว้ ได้รับการเก็บรักษาเป็นอย่างดี”
แผนงานการเคลื่อนย้าย ก่อนทุบโรงแรมนารายณ์ รื้อสร้างใหม่
นายนที ยังได้อธิบายเพิ่มเติมเกี่ยวกับแผนงานในขั้นตอนต่อไปหลังจากนี้ว่า “ในส่วนที่เรากำลังดำเนินงานอยู่ในตอนนี้ ยังเป็นขั้นตอนการเคลียร์พื้นที่ภายในตัวอาคาร ไม่ว่าจะเป็นรูปปั้นพระนารายณ์บรรทมสินธุ์, เรือสุพรรณหงส์, จิตกรรมฝาผนัง, แชนเดอเรีย และอื่น ๆ คาดว่าจะแล้วเสร็จได้ ประมาณเดือนกรกฏาคมนี้ จากนั้น ก็จะเป็นขั้นตอนการทุบตึก ปรับปรุงพื้นที่ เพื่อรองรับการก่อสร้างที่จะเกิดขึ้นต่อไปในอนาคต
นักอนุรักษ์ฝรั่งเศส ชูองค์ทับหลังนารายณ์เป็นผลงานล้ำค่าของไทย
ด้าน โรแบร์ต บูแกรง ดูบูร์ก (Robert Bougrain-Dubourg) นักอนุรักษ์งานศิลปะชาวฝรั่งเศส ที่ทำงานร่วมกับทีมงาน JWD Art Space ได้ให้ความรู้ในเรื่องนี้ด้วยว่า “งานศิลปะชิ้นนี้เป็นผลงานล้ำค่า อีกผลงานหนึ่งของประเทศไทย เป็นผลงานที่มีขนาดใหญ่ ปั้นขึ้นด้วยปูนปลาสเตอร์ อายุกว่า 50-60 ปีแล้ว การเคลื่อนย้าย ต้องอาศัยความระมัดระวังมากเป็นพิเศษ ทุกขั้นตอนเสี่ยงต่อการแตกร่อนสูง
ขั้นตอนก่อนเคลื่อนย้าย จึงสำคัญมาก สิ่งที่ต้องทำเป็นอันดับแรก คือ ป้องกันชิ้นงานทั้งหมดเสียก่อน หน้าที่ของผมและทีมงาน เข้ามาดูแลตรงนี้ ด้วยเทคนิคเฉพาะ ที่นิยมใช้กันมากกับการอนุรักษ์งานศิลปะในประเทศแถบยุโรป โดยเฉพาะที่ประเทศฝรั่งเศส นี่ถือเป็นครั้งแรกในประเทศไทย ที่นำเทคนิคนี้มาใช้ และหลังจากทำความสะอาดรูปปั้นพระนารายณ์บรรทมสินธุ์แล้ว ต้องทากาวน้ำชนิดพิเศษที่ทำจากไขกระต่ายแล้วปิดทับด้วยกระดาษสา ทำแบบนี้สลับกันไป 5-6 ชั้น เพื่อป้องกันชิ้นงานให้เสียหายน้อยที่สุดหรือไม่มีส่วนใด เสียหายเลย
ขั้นตอนต่อไปใช้แผ่นสำลีหุ้มอีกครั้ง ก่อนนำมาบรรจุในกล่องไม้ เตรียมเคลื่อนย้ายด้วยระบบราง นำลงมาผ่านช่องหน้าต่างทางชั้น 2 โดยมีนั่งร้านและเคลนช่วยยก รองรับอีกทอดหนึ่งด้วย และนำไปเก็บรักษาไว้ในห้องเก็บงานศิลปะที่จัดเตรียมไว้ ซึ่งเราควบคุมอุณหภูมิ 25-27 องศา ตลอด 24 ชม. ควบคุมความชื้น ป้องกันเชื้อรา และใช้ผ้าคลุมเอาไว้ตลอดเวลา โดยจะเปิดออกมาตรวจเช็กสภาพทุก ๆ 1 เดือน ซึ่งงานในส่วนที่จะมีเจ้าหน้าที่ของทาง JWD Art Space คอยดูแลอย่างใกล้ชิด เพื่อให้ชิ้นงานอยู่ในสภาพเดิมให้ได้มากที่สุด
ประวัติ รูปปั้นพระนารายณ์บรรทมสินธุ์
ทั้งนี้ “รูปปั้นพระนารายณ์บรรทมสินธุ์” เป็นผลงานทรงคุณค่า โดย ไข่มุกด์ ชูโต ประติมากรหญิงคนแรกของประเทศไทย ปั้นไว้ตั้งแต่ปี 2506 จัดอยู่ในงานปั้นประเภทประติมากรรมนูนต่ำ มีขนาด 2x8 เมตร “รูปปั้นพระนารายณ์บรรทมสินธุ์” เป็นองค์พระนารายณ์บรรทมบนอนันตนาคราชเจ็ดเศียร ขนาบข้างด้วยพระนางลักษมี พระชายา จุดเด่นของประติมากรรมชิ้นนี้ อยู่ที่ลวดลายละเอียดอ่อน มีความพิถีพิถันในทุกขั้นตอน สัมผัสได้ถึงจิตวิญญาณและความเป็นธรรมชาติ นับเป็นหนึ่งในผลงานสร้างชื่อเสียงให้กับคุณไข่มุกด์
ยิ่งไปกว่านั้น เปรียบเหมือนสัญลักษณ์และเป็นที่ยึดเหนี่ยวจิตใจพนักงานทุกคน ซึ่งหากโครงการก่อสร้างอาคารเสร็จเรียบร้อย ทางทีมผู้บริหาร มีความเห็นว่า จะนำรูปปั้นพระนารายณ์บรรทมสินธุ์ กลับมาติดตั้งไว้ในที่ที่เหมาะสมอีกครั้ง เพื่อเป็นส่วนหนึ่งของโครงการใหม่อันงดงามต่อไปอีกด้วย
สำหรับโรงแรมนารายณ์สีลม ประกาศปิดตัวลงเมื่อวันที่ 18 กุมภาพันธ์ 2565 ที่ผ่านมา โดยในช่วงกลางปีนี้ นารายณ์ ฮอสพิทาลิตี้ กรุ๊ป จะทุบโรงแรมนารายณ์ และโรงแรมทริปเปิ้ล ทู ซึ่งอยู่ในพื้นที่ติดกัน เพื่อสร้างแลนด์มาร์กแห่งใหม่ใจกลางสีลม โดยจะใช้งบลงทุนราว 8,000 ล้านบาท -10,000 ล้านบาท ในการพัฒนาพื้นที่รวมกว่า 6 ไร่ เพื่อปรับโฉมใหม่สู่โครงการมิกซ์ยูสที่สำคัญใจกลาง กทม.