"ซิกส์เซนส์ เรสซิเดนซ์ " เดอะ ฟอเรสเทียส์ บ้านหรู สเปกสูงที่สุดในไทย

08 มิ.ย. 2565 | 11:18 น.
อัปเดตล่าสุด :08 มิ.ย. 2565 | 18:25 น.

ถอดสูตรความสำเร็จ "ซิกส์เซนส์ เรสซิเดนซ์ " บ้านหรู สเปกสูงที่สุดในไทย ราคา 180 - 360 ล้านบาท ต่อยูนิต ล่าสุด "เดอะ ฟอเรสเทียส์ " อัพเดทยอดขายพีค 4.7 พันล้านบาท ก่อนแล้วเสร็จปี 2567

8 มิถุนายน 2565 - การเพิ่มจำนวนขึ้นมาก ของโครงการบ้านระดับ " Super Luxury Class" หรือ " Super Premium " ราคาเริ่มระดับ 100 ล้านบาทต่อยูนิตในประเทศไทย  เพื่อตอบรับนักธุรกิจประสบความสำเร็จ , ฐานลูกค้าผู้มีรายได้แข็งแกร่ง หรือ กลุ่มผู้มีความมั่งคั่งสูง (HNWI) ซึ่งทนทานต่อสภาวะเศรษฐกิจ และมีความต้องการที่เร่งตัวขึ้นมามากอย่างน่าสนใจ ภายใต้ สถานการณ์โควิด-19 นั้น  

 

ทำให้ปัจจุบัน ตลาดดังกล่าว มีดีกรีการแข่งขันที่ร้อนแรง เพื่อหวังช่วงชิงความน่าสนใจของดีมานด์ ที่ซื้อเพื่ออยู่อาศัยเอง และยังมีโอกาสครอบคลุม ไปถึงความเป็นไปได้ในอนาคต อย่างการปลดล็อกแก้กฎหมาย การเช่า-ซื้อ อสังหาฯไทย สำหรับคนต่างชาติศักยภาพสูงอีกด้วย โดยอัตราการขายเฉลี่ยที่ค่อนข้างสูงเหนือตลาดรวม ข้อมูลจาก คอลลิเออร์ส  ประเทศไทย บ่งชี้ ราว 60 -72% ของแต่ละพื้นที่ ต่างเป็นเครื่องสะท้อนว่า บ้านระดับนี้ จะคงมีโอกาสขยายตัวได้อย่างต่อเนื่อง 
 

'ซิกส์เซนส์ เรสซิเดนซ์' กวาดยอดขายทะลุ 4.7 พันล.

เช่นเดียวกับผลสำเร็จเกินความคาดหมาย ที่เกิดขึ้นกับ "โครงการ ซิกส์เซนส์ เรสซิเดนซ์ " หนึ่งใน แบรนด์ไฮไลท์ โครงการที่อยู่อาศัยตัวท็อปสุดของเมกะโปรเจ็กต์ "เดอะ ฟอเรสเทียส์" โครงการอสังหาฯ ที่มีมูลค่าสูงที่สุดหลักแสนล้านบาท และใหญ่ที่สุดของไทย 398 ไร่ บน ถนนบางนา-ตราด ซึ่งมาจนถึงวันนี้ ยังคงสร้างปรากฎการณ์เป็นทอล์กออฟเดอะทาวน์ในหลายๆด้านอย่างต่อเนื่อง 

 

โดยแบรนด์ซิกส์เซนส์ ที่เปิดตัวแรกสุดในราคาขาย ประมาณ 180 ล้านบาท ไปถึง มากกว่า 360 ล้านบาทต่อยูนิต พบว่า ปัจจุบันมียอดขายทะลุแล้ว 4.7 พันล้านบาท 

\"ซิกส์เซนส์ เรสซิเดนซ์ \" เดอะ ฟอเรสเทียส์ บ้านหรู สเปกสูงที่สุดในไทย
 

นายกิตติพันธุ์ อุยยามะพันธุ์ ผู้อำนวยการโครงการ เดอะ ฟอเรสเทียส์ โดย บริษัท แมกโนเลีย ควอลิตี้ ดีเวล็อปเม้นต์ คอร์ปอเรชั่น หรือ MQDC ตอกย้ำความสำเร็จและยืนยันความน่าสนใจของตลาดดังกล่าว ว่า โครงการซิกส์เซนส์ เรสซิเดนซ์ เดอะ ฟอเรสเทียส์ เป็นบ้านเดี่ยว จำนวน 27 หลัง ที่มาพร้อมพื้นที่สวนของตัวเอง และมีทะเลสาบล้อมรอบ โดยตัวบ้านมีให้เลือก 3 ขนาด ตั้งแต่ 3-5 ห้องนอน พื้นที่ตั้งแต่ประมาณ 790 ตารางเมตร ไปจนถึงเกือบ 1,500 ตารางเมตร ซึ่งมีราคาเริ่มต้นที่ 180 ล้านบาทนั้น สามารถทำยอดขายได้มากกว่า 4.7 พันล้านบาทแล้ว หรือ จำนวน 21 หลัง จากทั้งหมด 27 หลัง โดยยืนยันให้เห็นถึง ความต้องการของตลาดที่มีสูงมาก และความรวดเร็ว ในการตัดสินใจของผู้ซื้อ สำหรับบ้านระดับอัลตร้าลักชัวรี่ในไทย

\"ซิกส์เซนส์ เรสซิเดนซ์ \" เดอะ ฟอเรสเทียส์ บ้านหรู สเปกสูงที่สุดในไทย

" บ้านในโครงการซิกส์เซนส์ เรสซิเดนซ์ เดอะ ฟอเรสเทียส์ ทั้งหมด เป็นหนึ่งในที่อยู่อาศัยที่เรียกได้ว่าดีที่สุด  ในช่วง 30 วันแรกของการเปิดขาย สามารถขายบ้านได้ถึง 16 หลัง และจนถึงวันนี้ขายเพิ่มได้อีก 5 หลัง รวมมูลค่ากว่า 4.7 พันล้านบาท”

 

ถอดรหัสบ้านที่สเปกสูงสุดในไทย 

ทั้งนี้ เมื่อพิเคราะห์ สิ่งที่เป็นที่ดึงดูดใจของกลุ่มลูกค้าระดับบนสุดของตลาด นอกจาก 'ทำเลศักยภาพ' ซึ่งที่ตั้งของ ‘เดอะ ฟอเรสเทียส์’ ตอบโจทย์ครอบคลุม เนื่องจาก บางนา-ตราด เป็นเส้นทางสู่พื้นที่ระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก หรือ EEC ที่กำลังเติบโตและพัฒนาอย่างรวดเร็วแล้ว  พบความพิถีพิถันในการเลือกซื้อ ตั้งแต่แนวคิดการพัฒนาโครงการ , ดีไซน์ , ฟังก์ชั่น ,บริการที่แตกต่างและโดดเด่น เพื่อให้เป็นส่วนเสริม สร้างภาพลักษณ์การครอบครอง  สะท้อนตัวตน และคุ้มค่าต่อการลงทุนนั้น  ยังเป็นอีกตัวแปร ที่ผู้ซื้อของตลาดดังกล่าวให้ความสำคัญที่สุดเช่นกัน   

\"ซิกส์เซนส์ เรสซิเดนซ์ \" เดอะ ฟอเรสเทียส์ บ้านหรู สเปกสูงที่สุดในไทย

สอดคล้องกับสิ่งที่ นายกิตติพันธุ์ ระบุว่า การให้ความสำคัญกับ การอยู่อาศัย ที่ถูกออกแบบให้ใกล้ชิดกับธรรมชาติ รวมทั้งมีการก่อสร้างที่เป็นคุณภาพระดับสูงสุด เป็นเบื้องหลังความสำเร็จของ ที่อยู่อาศัยแบรนด์ซิกส์เซนส์ ซึ่งนอกจาก จะเป็นหนึ่งในที่อยู่อาศัยที่เรียกได้ว่าดีที่สุดแล้ว ยังเป็นโครงการที่สเปกสุดยอดที่สุดในประเทศไทยอีกด้วย ขณะบ้านทุกหลังจะได้รับประกันคุณภาพ 30 ปี โดย MQDC 

 

“เรารู้สึกดีใจที่เห็นว่าในตลาดมีความต้องการสูงมาก สำหรับบ้านระดับอัลตร้าลักชัวรี่ ที่ให้ความสำคัญกับการอยู่อาศัยใกล้ชิดกับธรรมชาติ รวมทั้งมีการออกแบบและก่อสร้างที่เป็นคุณภาพระดับสูงสุด เราคิดว่าปัจจัยเบื้องหลังความสำเร็จคือการผสมผสานกันระหว่าง สิ่งต่างๆ ทั้งหมดที่มากับแบรนด์เดอะซิกส์เซนส์ บวกเข้ากับสุดยอดคอนเซ็ปต์โครงการ และทำเลที่ตั้งในเดอะ ฟอเรสเทียส์”

\"ซิกส์เซนส์ เรสซิเดนซ์ \" เดอะ ฟอเรสเทียส์ บ้านหรู สเปกสูงที่สุดในไทย


ชูบริการโรงแรมเครือซิกส์เซนส์ 

การระบาดไม่สิ้นสุดของโควิด-19 นอกจากทำให้ผู้คนหันมาใส่ใจความสำคัญของธรรมชาติ และพื้นที่แล้ว ด้านสุขภาวะและความเป็นอยู่ที่ดี รวมถึงการใช้เวลาร่วมกับครอบครัวอย่างมีคุณภาพ ยังเป็นอีกคีย์เวิร์ดที่ผู้พัฒนาโครงการเดอะซิกส์เซนส์นำมาเป็นส่วนพิเศษ สร้างความแตกต่างเหนือระดับ และยั่งยืนในทุกมิติให้กับโครงการดังกล่าวอีกด้วย 

 

ทั้งนี้ นายกิตติพันธุ์ ระบุว่า นอกจากสถาปัตยกรรมการออกแบบของโครงการที่ไม่เหมือนใคร โดยมีบริษัท Foster + Partners และ DT designs เข้ามารับหน้าที่เป็นที่ปรึกษาดูแลด้านนี้แล้ว บ้านทุกหลังจะมาพร้อมกับบริการและสิทธิพิเศษที่เหนือระดับตามแบบฉบับของบ้านแบรนด์ซิกส์เซนส์ รวมถึงบริการอำนวยความสะดวกที่ใส่ใจผู้อยู่อาศัยอย่างที่สุด พร้อมด้วยคลับเฮ้าส์ และการบริหารจัดการดูแลในระดับพิเศษเพื่อรักษาและคงความเป็นสังคมที่มุ่งเน้นในเรื่องคุณภาพการใช้ชีวิต และความยั่งยืน 

\"ซิกส์เซนส์ เรสซิเดนซ์ \" เดอะ ฟอเรสเทียส์ บ้านหรู สเปกสูงที่สุดในไทย

หลังจาก 'เดอะ ฟอเรสเทียส์' ยังจะเป็นที่ตั้งของโรงแรมแห่งใหม่ในเครือซิกส์เซนส์ที่มีห้องพักประมาณ 85 ห้อง ซึ่งเจ้าของบ้านจะได้รับสิทธิพิเศษในการเข้าใช้สถานที่ต่างๆ ของโรงแรม รวมไปถึงบริการที่หลากหลาย ตั้งแต่การดูแลบ้าน การดูแลเด็ก (baby-sitting) ไปจนถึงบริการบัตเลอร์ พร้อมสิทธิพิเศษเพิ่มเติมในการใช้บริการต่างๆ ห้องพัก อาหารและเครื่องดื่ม รวมทั้ง สปาอีกด้วย

 

" บ้านหลังแรกๆ ในโครงการ ซิกส์เซนส์ เรสซิเดนซ์ เดอะ ฟอเรสเทียส์ คาดว่าจะพร้อมโอนได้ในไตรมาส 2 ปี 2567 ขณะโรงแรมในเครือ จะมีกำหนดเปิดให้บริการในช่วงเวลาพร้อมๆกัน "


ขณะภาพรวมการออกแบบ Six Senses Hotels Resorts Spas ยังจะทำหน้าที่ เป็นที่ปรึกษาด้านงานตกแต่งภายในด้วย ซึ่งช่วยทำให้ผู้ซื้ออาจมั่นใจ ได้ว่าบ้านทุกหลังในโครงการจะตั้งอยู่ท่ามกลางความร่มรื่นเขียวขจีของธรรมชาติ ผสานการใช้ชีวิตทั้งภายในและภายนอกตัวบ้านอย่างกลมกลืนไร้รอยต่อ มีบ่อออนเซนและสระว่ายน้ำ พร้อมวิวทะเลสาบและสายลมธรรมชาติที่พัดผ่านอีกด้วย

 

ทั้งนี้ โครงการ ‘เดอะ ฟอเรสเทียส์’ ซึ่งประกอบไปด้วยพื้นที่สวนสาธารณะ ,ธรรมชาติ ,พื้นที่กิจกรรมชุมชน และโครงการที่พักอาศัยหลากหลายแบรนด์ ตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์และช่วงวัย พบ ณ เดือนพฤษภาคม 2565 มียอดขายรวมดีเกินคาด โดยเฉพาะโครงการระดับลักชัวรี่ อย่าง แบรนด์ ‘มัลเบอร์รี โกรฟ’ บ้านสไตล์คลัสเตอร์โฮม วิลล่าหลังใหญ่ 3 ขนาด จำนวน 37 หลัง ซึ่งมีพื้นที่ใช้สอย 1,000 - 1,7000 ตร.ม. ก็สามารถทำยอดขายได้แล้วกว่า 3.7 พันล้านบาท ทั้งหมด สะท้อนความสำเร็จของการคัดสรรโปรดักส์ ส่วนผสมที่ถูกนำมาผสานอย่างลงตัวในทุกๆโครงการ ตามคอนเซ็ปต์ 'อภิมหาโปรเจ็กต์' ระดับเวิลด์คลาส นักล่ารางวัลของอสังหาฯไทย...