8 มิถุนายน 2565 - การเพิ่มจำนวนขึ้นมาก ของโครงการบ้านระดับ " Super Luxury Class" หรือ " Super Premium " ราคาเริ่มระดับ 100 ล้านบาทต่อยูนิตในประเทศไทย เพื่อตอบรับนักธุรกิจประสบความสำเร็จ , ฐานลูกค้าผู้มีรายได้แข็งแกร่ง หรือ กลุ่มผู้มีความมั่งคั่งสูง (HNWI) ซึ่งทนทานต่อสภาวะเศรษฐกิจ และมีความต้องการที่เร่งตัวขึ้นมามากอย่างน่าสนใจ ภายใต้ สถานการณ์โควิด-19 นั้น
ทำให้ปัจจุบัน ตลาดดังกล่าว มีดีกรีการแข่งขันที่ร้อนแรง เพื่อหวังช่วงชิงความน่าสนใจของดีมานด์ ที่ซื้อเพื่ออยู่อาศัยเอง และยังมีโอกาสครอบคลุม ไปถึงความเป็นไปได้ในอนาคต อย่างการปลดล็อกแก้กฎหมาย การเช่า-ซื้อ อสังหาฯไทย สำหรับคนต่างชาติศักยภาพสูงอีกด้วย โดยอัตราการขายเฉลี่ยที่ค่อนข้างสูงเหนือตลาดรวม ข้อมูลจาก คอลลิเออร์ส ประเทศไทย บ่งชี้ ราว 60 -72% ของแต่ละพื้นที่ ต่างเป็นเครื่องสะท้อนว่า บ้านระดับนี้ จะคงมีโอกาสขยายตัวได้อย่างต่อเนื่อง
'ซิกส์เซนส์ เรสซิเดนซ์' กวาดยอดขายทะลุ 4.7 พันล.
เช่นเดียวกับผลสำเร็จเกินความคาดหมาย ที่เกิดขึ้นกับ "โครงการ ซิกส์เซนส์ เรสซิเดนซ์ " หนึ่งใน แบรนด์ไฮไลท์ โครงการที่อยู่อาศัยตัวท็อปสุดของเมกะโปรเจ็กต์ "เดอะ ฟอเรสเทียส์" โครงการอสังหาฯ ที่มีมูลค่าสูงที่สุดหลักแสนล้านบาท และใหญ่ที่สุดของไทย 398 ไร่ บน ถนนบางนา-ตราด ซึ่งมาจนถึงวันนี้ ยังคงสร้างปรากฎการณ์เป็นทอล์กออฟเดอะทาวน์ในหลายๆด้านอย่างต่อเนื่อง
โดยแบรนด์ซิกส์เซนส์ ที่เปิดตัวแรกสุดในราคาขาย ประมาณ 180 ล้านบาท ไปถึง มากกว่า 360 ล้านบาทต่อยูนิต พบว่า ปัจจุบันมียอดขายทะลุแล้ว 4.7 พันล้านบาท
นายกิตติพันธุ์ อุยยามะพันธุ์ ผู้อำนวยการโครงการ เดอะ ฟอเรสเทียส์ โดย บริษัท แมกโนเลีย ควอลิตี้ ดีเวล็อปเม้นต์ คอร์ปอเรชั่น หรือ MQDC ตอกย้ำความสำเร็จและยืนยันความน่าสนใจของตลาดดังกล่าว ว่า โครงการซิกส์เซนส์ เรสซิเดนซ์ เดอะ ฟอเรสเทียส์ เป็นบ้านเดี่ยว จำนวน 27 หลัง ที่มาพร้อมพื้นที่สวนของตัวเอง และมีทะเลสาบล้อมรอบ โดยตัวบ้านมีให้เลือก 3 ขนาด ตั้งแต่ 3-5 ห้องนอน พื้นที่ตั้งแต่ประมาณ 790 ตารางเมตร ไปจนถึงเกือบ 1,500 ตารางเมตร ซึ่งมีราคาเริ่มต้นที่ 180 ล้านบาทนั้น สามารถทำยอดขายได้มากกว่า 4.7 พันล้านบาทแล้ว หรือ จำนวน 21 หลัง จากทั้งหมด 27 หลัง โดยยืนยันให้เห็นถึง ความต้องการของตลาดที่มีสูงมาก และความรวดเร็ว ในการตัดสินใจของผู้ซื้อ สำหรับบ้านระดับอัลตร้าลักชัวรี่ในไทย
" บ้านในโครงการซิกส์เซนส์ เรสซิเดนซ์ เดอะ ฟอเรสเทียส์ ทั้งหมด เป็นหนึ่งในที่อยู่อาศัยที่เรียกได้ว่าดีที่สุด ในช่วง 30 วันแรกของการเปิดขาย สามารถขายบ้านได้ถึง 16 หลัง และจนถึงวันนี้ขายเพิ่มได้อีก 5 หลัง รวมมูลค่ากว่า 4.7 พันล้านบาท”
ถอดรหัสบ้านที่สเปกสูงสุดในไทย
ทั้งนี้ เมื่อพิเคราะห์ สิ่งที่เป็นที่ดึงดูดใจของกลุ่มลูกค้าระดับบนสุดของตลาด นอกจาก 'ทำเลศักยภาพ' ซึ่งที่ตั้งของ ‘เดอะ ฟอเรสเทียส์’ ตอบโจทย์ครอบคลุม เนื่องจาก บางนา-ตราด เป็นเส้นทางสู่พื้นที่ระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก หรือ EEC ที่กำลังเติบโตและพัฒนาอย่างรวดเร็วแล้ว พบความพิถีพิถันในการเลือกซื้อ ตั้งแต่แนวคิดการพัฒนาโครงการ , ดีไซน์ , ฟังก์ชั่น ,บริการที่แตกต่างและโดดเด่น เพื่อให้เป็นส่วนเสริม สร้างภาพลักษณ์การครอบครอง สะท้อนตัวตน และคุ้มค่าต่อการลงทุนนั้น ยังเป็นอีกตัวแปร ที่ผู้ซื้อของตลาดดังกล่าวให้ความสำคัญที่สุดเช่นกัน
สอดคล้องกับสิ่งที่ นายกิตติพันธุ์ ระบุว่า การให้ความสำคัญกับ การอยู่อาศัย ที่ถูกออกแบบให้ใกล้ชิดกับธรรมชาติ รวมทั้งมีการก่อสร้างที่เป็นคุณภาพระดับสูงสุด เป็นเบื้องหลังความสำเร็จของ ที่อยู่อาศัยแบรนด์ซิกส์เซนส์ ซึ่งนอกจาก จะเป็นหนึ่งในที่อยู่อาศัยที่เรียกได้ว่าดีที่สุดแล้ว ยังเป็นโครงการที่สเปกสุดยอดที่สุดในประเทศไทยอีกด้วย ขณะบ้านทุกหลังจะได้รับประกันคุณภาพ 30 ปี โดย MQDC
“เรารู้สึกดีใจที่เห็นว่าในตลาดมีความต้องการสูงมาก สำหรับบ้านระดับอัลตร้าลักชัวรี่ ที่ให้ความสำคัญกับการอยู่อาศัยใกล้ชิดกับธรรมชาติ รวมทั้งมีการออกแบบและก่อสร้างที่เป็นคุณภาพระดับสูงสุด เราคิดว่าปัจจัยเบื้องหลังความสำเร็จคือการผสมผสานกันระหว่าง สิ่งต่างๆ ทั้งหมดที่มากับแบรนด์เดอะซิกส์เซนส์ บวกเข้ากับสุดยอดคอนเซ็ปต์โครงการ และทำเลที่ตั้งในเดอะ ฟอเรสเทียส์”
ชูบริการโรงแรมเครือซิกส์เซนส์
การระบาดไม่สิ้นสุดของโควิด-19 นอกจากทำให้ผู้คนหันมาใส่ใจความสำคัญของธรรมชาติ และพื้นที่แล้ว ด้านสุขภาวะและความเป็นอยู่ที่ดี รวมถึงการใช้เวลาร่วมกับครอบครัวอย่างมีคุณภาพ ยังเป็นอีกคีย์เวิร์ดที่ผู้พัฒนาโครงการเดอะซิกส์เซนส์นำมาเป็นส่วนพิเศษ สร้างความแตกต่างเหนือระดับ และยั่งยืนในทุกมิติให้กับโครงการดังกล่าวอีกด้วย
ทั้งนี้ นายกิตติพันธุ์ ระบุว่า นอกจากสถาปัตยกรรมการออกแบบของโครงการที่ไม่เหมือนใคร โดยมีบริษัท Foster + Partners และ DT designs เข้ามารับหน้าที่เป็นที่ปรึกษาดูแลด้านนี้แล้ว บ้านทุกหลังจะมาพร้อมกับบริการและสิทธิพิเศษที่เหนือระดับตามแบบฉบับของบ้านแบรนด์ซิกส์เซนส์ รวมถึงบริการอำนวยความสะดวกที่ใส่ใจผู้อยู่อาศัยอย่างที่สุด พร้อมด้วยคลับเฮ้าส์ และการบริหารจัดการดูแลในระดับพิเศษเพื่อรักษาและคงความเป็นสังคมที่มุ่งเน้นในเรื่องคุณภาพการใช้ชีวิต และความยั่งยืน
หลังจาก 'เดอะ ฟอเรสเทียส์' ยังจะเป็นที่ตั้งของโรงแรมแห่งใหม่ในเครือซิกส์เซนส์ที่มีห้องพักประมาณ 85 ห้อง ซึ่งเจ้าของบ้านจะได้รับสิทธิพิเศษในการเข้าใช้สถานที่ต่างๆ ของโรงแรม รวมไปถึงบริการที่หลากหลาย ตั้งแต่การดูแลบ้าน การดูแลเด็ก (baby-sitting) ไปจนถึงบริการบัตเลอร์ พร้อมสิทธิพิเศษเพิ่มเติมในการใช้บริการต่างๆ ห้องพัก อาหารและเครื่องดื่ม รวมทั้ง สปาอีกด้วย
" บ้านหลังแรกๆ ในโครงการ ซิกส์เซนส์ เรสซิเดนซ์ เดอะ ฟอเรสเทียส์ คาดว่าจะพร้อมโอนได้ในไตรมาส 2 ปี 2567 ขณะโรงแรมในเครือ จะมีกำหนดเปิดให้บริการในช่วงเวลาพร้อมๆกัน "
ขณะภาพรวมการออกแบบ Six Senses Hotels Resorts Spas ยังจะทำหน้าที่ เป็นที่ปรึกษาด้านงานตกแต่งภายในด้วย ซึ่งช่วยทำให้ผู้ซื้ออาจมั่นใจ ได้ว่าบ้านทุกหลังในโครงการจะตั้งอยู่ท่ามกลางความร่มรื่นเขียวขจีของธรรมชาติ ผสานการใช้ชีวิตทั้งภายในและภายนอกตัวบ้านอย่างกลมกลืนไร้รอยต่อ มีบ่อออนเซนและสระว่ายน้ำ พร้อมวิวทะเลสาบและสายลมธรรมชาติที่พัดผ่านอีกด้วย
ทั้งนี้ โครงการ ‘เดอะ ฟอเรสเทียส์’ ซึ่งประกอบไปด้วยพื้นที่สวนสาธารณะ ,ธรรมชาติ ,พื้นที่กิจกรรมชุมชน และโครงการที่พักอาศัยหลากหลายแบรนด์ ตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์และช่วงวัย พบ ณ เดือนพฤษภาคม 2565 มียอดขายรวมดีเกินคาด โดยเฉพาะโครงการระดับลักชัวรี่ อย่าง แบรนด์ ‘มัลเบอร์รี โกรฟ’ บ้านสไตล์คลัสเตอร์โฮม วิลล่าหลังใหญ่ 3 ขนาด จำนวน 37 หลัง ซึ่งมีพื้นที่ใช้สอย 1,000 - 1,7000 ตร.ม. ก็สามารถทำยอดขายได้แล้วกว่า 3.7 พันล้านบาท ทั้งหมด สะท้อนความสำเร็จของการคัดสรรโปรดักส์ ส่วนผสมที่ถูกนำมาผสานอย่างลงตัวในทุกๆโครงการ ตามคอนเซ็ปต์ 'อภิมหาโปรเจ็กต์' ระดับเวิลด์คลาส นักล่ารางวัลของอสังหาฯไทย...