'ออริจิ้น' บุกทำเลรถไฟฟ้า 8 สาย ลุยตอกหมุด 'คอนโด'ใหม่ 19 แห่ง

24 มิ.ย. 2565 | 05:59 น.
อัปเดตล่าสุด :24 มิ.ย. 2565 | 13:06 น.

ตลาดคอนโดฯ แข่งดุ 'ออริจิ้น' เปิดแผน ขึ้นแท่นเจ้าตลาดคอนโดฯ ลุยพลิกหน้าดิน ทำเลรถไฟฟ้า 8 สาย ทั่ว กทม.- EEC ตอกหมุดโครงการใหม่ 19 โครงการ มูลค่า 28,600 ล้านบาท

24 มิถุนายน 2565 - นับถอยหลังเข้าสู่ครึ่งปีหลัง 2565 ซึ่งเป็นไทม์ไลน์สำคัญ ในการผลักดันธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ โดยเฉพาะ ตลาดคอนโดมิเนียม ที่ซบเซาไปในช่วง 2 ปีที่ผ่านมาจากสถานการณ์โควิด-19 โดยเกมแข่งขันลดราคา และการชะลอแผนลงทุนก่อนหน้า ทำให้ตลาดปรับสมดุล และเริ่มเห็นสัญญาณฟื้นตัวอีกครั้ง ทั้งนี้ แผนพัฒนาโครงการรถไฟฟ้าทั่วเมือง ยังเป็นตัวเร่งดีมานด์ที่น่าสนใจอีกด้วย 

\'ออริจิ้น\' บุกทำเลรถไฟฟ้า 8 สาย ลุยตอกหมุด \'คอนโด\'ใหม่ 19 แห่ง
สำหรับ บริษัท ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) หรือ ORI ภายใต้การนำของ พีระพงศ์ จรูญเอก ถือเป็นหนึ่งในผู้นำตลาดอสังหาริมทรัพย์ไทยที่มักจะสร้างปรากฎการณ์ใหม่ๆ มสั่นสะเทือนวงการอย่างต่อเนื่อง 

โดยธุรกิจพัฒนาคอนโดมิเนียม ซึ่งเป็น “ธุรกิจแจ้งเกิด” ของออริจิ้นนั้น กำลังเปิดเกมเร่งอย่างน่าสนใจ ซึ่งหากนับเฉพาะแผนเปิดตัวโครงการคอนโดใหม่ปีนี้ ก็มีมากถึง 19 โครงการ มูลค่าโครงการรวมกว่า 28,600 ล้านบาท  จนอาจเรียกได้ว่า ขึ้นแท่น  สู่ “เจ้าตลาด”จากจำนวนโครงการคอนโดใหม่ที่มากที่สุดในปีนี้ 

\'ออริจิ้น\' บุกทำเลรถไฟฟ้า 8 สาย ลุยตอกหมุด \'คอนโด\'ใหม่ 19 แห่ง

บุกทุกเซ็กเมนต์ราคาและไลฟ์สไตล์ 

การเดินเครื่องบุกธุรกิจคอนโดมิเนียมของเครือออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ ยังคงเดินหน้าผ่าน 3 บริษัทหลัก ประกอบด้วย บริษัท พาร์ค ลักชัวรี่ จำกัด ดูแลกลุ่มคอนโดมิเนียมระดับลักชัวรี่ บริษัท ออริจิ้น คอนโดมิเนียม จำกัด ดูแลกลุ่มธุรกิจสมาร์ทคอนโดมิเนียม และบริษัท ออริจิ้น อีอีซี จำกัด ดูแลคอนโดมิเนียมในแถบเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (EEC) 
 

โดย กลยุทธ์การบุกตลาดคอนโดมิเนียมของเครือออริจิ้นในปีนี้ นายพีระพงศ์  เล่าว่า เป็นการบุกด้วย 2 กลยุทธ์หลัก คือ

 

1.บุกทุกเซ็กเมนต์ราคาและไลฟ์สไตล์ หลังจากหลายปีก่อน ออริจิ้นแตกแบรนด์ใหม่ๆ จนครอบคลุมทุกระดับราคาตั้งแต่ระดับ Entry ไปจนถึงระดับ Luxury และในวันนี้ ออริจิ้นยังเดินหน้าปั้นแบรนด์ใหม่ๆ ปรับโปรดักส์ตามทำเลซอยย่อยเซ็กเมนต์ของผู้บริโภคตามไลฟ์สไตล์เพิ่มเติม เพราะตระหนักดีว่า ความต้องการของผู้บริโภคในยุคปัจจุบันไม่ได้ถูกแบ่งด้วยเพียงระดับของสินค้าหรือกำลังซื้อ 

 

“ปีที่แล้ว เป็นปีที่เราเริ่มลองบุกตลาดกลุ่มเป้าหมายใหม่ๆ พัฒนาคอนโดสำหรับกลุ่มสตาร์ทอัพ กลุ่ม Pet Lover กลุ่มนักศึกษาและคนทำงานมหาวิทยาลัย หรือ Campus Condo กลุ่มนักลงทุน ตลาดเหล่านี้ได้รับการตอบรับดีมาก ปีนี้เราจึงบุกตลาดเหล่านี้ต่อเนื่อง พร้อมกับมีแบรนด์ใหม่ที่มีบุคลิกของแบรนด์แตกต่างจากแบรนด์อื่นๆ เพิ่มเติม เช่น So Origin และ Origin Play มาช่วยกันบุกตลาดทุกไลฟ์สไตล์ ทุกเจเนอเรชั่น” 

\'ออริจิ้น\' บุกทำเลรถไฟฟ้า 8 สาย ลุยตอกหมุด \'คอนโด\'ใหม่ 19 แห่ง

บุกรถไฟฟ้า 8 สายทั่วกรุงเทพฯ และ EEC 

2.บุกทำเลรถไฟฟ้าทั้งปัจจุบันและอนาคต ในอดีต ออริจิ้นเติบโตมาจากการใช้กลยุทธ์เจาะตลาดBlue Ocean หรือตลาดศักยภาพที่ยังไม่ค่อยมีการแข่งขันมากนัก ในทำเลรถไฟฟ้าส่วนต่อขยายสายสีเขียวและแถบ EEC วันนี้ ออริจิ้นยังคงเกาะแนวทางเดิมสำหรับแบรนด์ระดับ Entry ไปจนถึง Mid-High End ส่งผลให้ 19 โครงการของออริจิ้นในปีนี้ กระจายตัวบุกไปยังทำเลรถไฟฟ้าที่สร้างเสร็จแล้ว รถไฟฟ้าสายที่อยู่ระหว่างก่อสร้างรวม 8 สายครอบคลุมทั่วพื้นที่กรุงเทพฯและปริมณฑล ได้แก่ สายสีเขียวอ่อน สายสีน้ำเงิน สายสีม่วง สายสีแดง สายสีชมพู สายสีเหลือง สายสีน้ำตาล และสายสีเทา ควบคู่กับการบุก EEC อย่างหนักหน่วงทั้งในชลบุรีและระยอง 

 

“ปีนี้น่าจะเป็นปีที่เราบุกครอบคลุมรถไฟฟ้าหลายสายที่สุดนับตั้งแต่ก่อตั้ง และเป็นครั้งแรกที่บุกไปสร้างคอนโดในฝั่งธน เรายังเชื่อมั่นว่า กลยุทธ์ Blue Ocean ยังคงใช้ได้สำหรับหลายๆ เซ็กเมนต์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในยุคที่คน   ไม่จำเป็นต้องเข้าออฟฟิศทุกวัน พิสูจน์ได้จากยอดขายของออริจิ้น ปลั๊ก แอนด์ เพลย์ สิรินธร สเตชั่น ที่วันนี้มียอดขายสะสมแล้วถึงราว 70%”  

 

ทั้งนี้ นายพีระพงศ์ ยังกล่าวว่า ออริจิ้น ไม่ได้เฉพาะเจาะจงว่าจะบุกเฉพาะทำเล Blue Ocean เหมือนในอดีตเท่านั้น แต่ให้ความสำคัญกับทำเลศักยภาพที่มีดีมานด์เพียงพอด้วย เช่น ทำเลอินเตอร์เชนจ์ หรือจุดเชื่อมต่อระหว่างสถานีรถไฟฟ้าหลายสาย ทำเล CBD ใจกลางเมือง ขึ้นกับความเหมาะสมของดีมานด์ในพื้นที่ 

  \'ออริจิ้น\' บุกทำเลรถไฟฟ้า 8 สาย ลุยตอกหมุด \'คอนโด\'ใหม่ 19 แห่ง
แบรนด์คอนโดฯออริจิ้น

ภาพรวมแบรนด์หลักที่ใช้บุกตลาดคอนโดมิเนียมของเครือออริจิ้นปีนี้ ประกอบด้วย 

  • โซ ออริจิ้น (So Origin) 
  • ออริจิ้น ปลั๊ก แอนด์ เพลย์ (Origin Plug & Play) 
  • แฮมป์ตัน (Hampton) 
  • ออริจิ้น เพลส (Origin Place)  
  • ออริจิ้น เพลย์​ (Origin Play) 
  • บริกซ์ตัน (Brixton)

 

“เรากล้าบุกหนัก เพราะทีมงานของเราทำการบ้านกันหนักมากมาตลอด เพื่อให้เข้าใจ Insight ของผู้บริโภค เราพยายามมองทุก Journey ของผู้บริโภค ตั้งแต่ตอนก่อนซื้อ ตอนเข้าอยู่แล้ว ว่าแต่ละจังหวะผู้บริโภคอยู่ตรงไหน ทำอะไร และต้องการอะไรบ้าง ฟังก์ชันที่เราให้ผู้บริโภค จึงอาจไม่ได้เป็นฟังก์ชันที่เยอะที่สุด แต่เป็นฟังก์ชันที่ตรงใจ และตอบโจทย์กับการใช้ชีวิตจริงๆ ของเขาและโลกยุคใหม่ที่สุด ทั้งหมดถือเป็น Key Success ที่ทำให้เครือออริจิ้นได้รับความไว้วางใจ จนมียอดขาย All Time High ในปี 2564 ได้”