3 ทศวรรษ 'กานดา พร็อพเพอร์ตี้' กับ เป้าTop10อสังหาฯไทย

จากจุดเริ่มต้น ธุรกิจรับสร้างบ้าน  ปี 2523 จนถึงวันนี้ ผ่านร้อน ผ่านหนาวมาแล้ว 3 ทศวรรษ สำหรับ "กานดา พร็อพเพอร์ตี้ " อสังหาริมทรัพย์ระดับตำนาน แนวหน้าของไทย ภายใต้การบริหารของ "อิสระ บุญยัง" ผู้บุกเบิก ทาวน์เฮ้าส์ 4 ห้องนอน เจ้าถิ่นย่านพระราม 2 ผ่านโครงการ ที่ปักหมุด ยึดหลัก นับ 20 โครงการ ปัจจุบัน กำลังถูกส่งไม้ต่อ ถึงทายาทรุ่นที่ 2 "หัสกร บุญยัง" อย่างน่าจับตามอง เมื่อแบรนด์แข็ง ileaf (ไอลีฟ) จะถูกสร้างให้เด่นและชัดขึ้น 
 

ขณะเดียวกัน ภาพต่ออนาคต การหันไปมุ่งเน้นโครงการแนวสูง และ ธุรกิจเวสเนส ในเมืองท่องเที่ยว เพื่อคว้าโอกาสใหม่ๆ สู่เป้าหมาย Top10อุตสาหกรรม คงมีอะไรให้น่าติดตามไม่น้อย

เปิด Business Model

นายอิสระ ระบุว่า ปัจจุบัน บริษัท พัฒนาโครงการที่อยู่อาศัยไม่แล้วไม่ต่ำกว่า 100 โครงการ ผ่านวัฎจักรขึ้น-ลงของธุรกิจมาแล้วหลายครั้ง ตั้งแต่วิกฤติเศรษฐกิจต้มยำกุ้ง ปี 2540 ที่ขณะนั้นยังเป็นเพียงธุรกิจรับสร้างบ้าน ส่งผลให้บริษัทต้องใช้เวลาฟื้นฟูกิจการอยู่นานหลายปี และถือเป็นบทเรียนสำคัญ เน้นการสร้างความมั่นคงมากกว่าการเติบโต รวมถึง เน้นการพึ่งพาตัวเอง นำมาสู่ 'กานดา พร็อพเพอร์ตี้' ที่มีทำเล เพชรเกษม - เอกชัย และ พระราม 2 เป็นฐานที่มั่น ก่อนครอบคลุมพื้นที่ ปริมณฑล และ ภูเก็ต - พัทยา ขณะโครงการคุณภาพ ถูก ขับเคลื่อนด้วย 4 กุญแจสำเร็จ ซึ่งประกอบไปด้วย

• บ้าน 3 Genernation มีห้องนอนชั้นล่าง แม้แต่ในทาวน์เฮ้าส์
• Easy Maintenance ออกแบบแยกส่วน ง่ายต่อการซ่อมแซมบำรุง 
• Eco Smart เน้นความคุ้มค่า ลดพลังงาน สู่บ้านโซลาร์เซลล์
• Floop Protection เสริมระดับถมดิน แนวรั้วมิดชิด ติดตั้งระบบสูบน้ำ ป้องกันเหตุน้ำท่วม 

กานดายุคใหม่

อย่างไรก็ดี ข้างต้นเป็นเพียงองค์ประกอบหลักสำคัญ ซึ่งแม้ตนเองมีประสบการณ์ที่สะสมมายาวนานกว่า 30 ปี แต่ไม่กล้าทนทานกระแสความเปลี่ยนแปลงของกลุ่มลูกค้ายุคใหม่ รวมถึง บริบทใหม่ที่เข้ามาเปลี่ยนแปลงได้ จึงจะผันตัวเองเป็นที่ปรึกษาเบื้องหลังแทน ผ่านการดำเนินการ รับช่วงต่อโดย 'ทายาท'คนกลาง 

" ปัจจุบันทั้งเศรษฐกิจ สังคม เทคโนโลยีมีการเปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว  ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของเทคโนโลยีที่ต้องใช้ในการบริหารจัดการ เทคโนโลยีเรื่องของการก่อสร้าง เรื่องของ Digital Marketing ที่ไม่ได้หมายถึงแค่การโฆษณาประชาสัมพันธ์  ซึ่งเชื่อมั่นว่าคนรุ่นใหม่จะทำได้ดีกว่า จึงเป็นที่มาของ Kanda Change ทั้งในด้านของการส่งต่อการบริหารงานให้กับผู้บริหารรุ่นใหม่คือนายหัสกร บุญยัง " 

ผู้พัฒนากระทบ 2เด้งดอกเบี้ยขึ้น 
 
ทั้งนี้ หากถามถึง สิ่งที่มองว่าเป็นความท้าทายในการดำเนินธุรกิจขณะนี้ มี 3 เรื่องใหญ่ๆ โดยเงินเฟ้อ และ สงครามกำลัง ส่งผลต่อราคาวัสดุก่อสร้าง แต่ยังไม่น่าห่วงเท่าปัญหาขาดแคลนแรงงานในระบบ เนื่องจาก ปัญหาประการแรก ผู้พัฒนาฯ คงสามารถรับมือ และปรับกลยุทธ์ได้ อย่างมากสุด คือ ยอมปรับลดกำไรลง ปรับเซกเมนต์ และ แบบบ้าน ให้มีราคาเหมาะรับกับกำลังซื้อยุคปัจจุบัน เป็นที่มาของ การแข่งขันในตลาดทาวน์เฮ้าส์รุนแรง เพื่อพยุงลูกค้าไปอีกระยะ แต่เรื่องแรงงาน ยังคงรอให้รัฐบาลแก้ปัญหาให้ 

สำหรับแนวโน้มอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่แนวโน้ม จะถูกปรับขึ้น หลังจากอยู่จุดในจุดต่ำสุดเป็นประวัติการณ์นานถึง 2 ปีนั้น  นายอิสระ ประเมินภาพต่ออสังหาฯ ว่า ผลกระทบจะเกิดขึ้น 2 ด้าน ได้แก่ ฝั่งลูกค้า เพราะหลังขึ้นดอกเบี้ย จะทำให้ความสามารถในการซื้อของคนลดลงอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ อย่างไรก็ตาม สิ่งที่ต้องจับตามอง คือ ดอกเบี้ยแท้จริงที่จะถูกเคลื่อนไหวผ่านสถาบันการเงิน ธนาคารพาณิชย์เป็นหลัก ว่าหลังจากนี้ จะกำหนดวงเงินสินเชื่อ อัตราผ่อนชำระ และ ดอกเบี้ยรายเดือนอย่างไร กรณี ดอกบี้ยดังกล่าวปรับไม่มาก ลูกค้าเดิมที่อยู่ระหว่างการผ่อน อาจไม่กระทบมากนัก เพียงแต่ส่วนเงินต้นและดอกเบี้ยจะถูกตัดทอนเปลี่ยนไป ส่วนลูกค้าใหม่ คงมีผลต่อความสามารถและกำลังซื้อ เพราะนั่น หมายถึง ต้องผ่อนบ้านในอัตราที่แพงขึ้น 

ทั้งนี้ หากอัตราดอกเบี้ยแท้จริง มีการขยับแบบค่อยเป็นค่อยไป เป็นจังหวะสอดคล้องกับรายได้คนฟื้นตัว ภาพผลกระทบคงไม่น่ากังวล แต่ขณะนี้อาจ ภาพสวนทาง เศรษฐกิจยังไม่กลับมาเติบโตเท่าเดิม เป็นคำตอบที่ทิ้งไว้ ว่า ตลาดที่อยู่อาศัย อาจได้รับผลกระทบอยู่มาก ยิ่งภายใต้ข้อจำกัด ผู้ประกอบการ โดน 2 เด้ง ต้นทุนดอกเบี้ย สำหรับพัฒนาโครงการสูงขึ้น ขณะเดียวกัน ก็ยังไม่สามารถขยับราคาบ้านได้มากนัก 

เจนใหม่ตั้งเป้า Top10อสังหาฯไทย

เจาะมุมมองผู้บริหาร เจนใหม่ ถึงภาพวาด กานดา ในอนาคต 'หัสกร บุญยัง' ระบุว่า แนวคิดการพัฒนาโครงการ ยังจะถูกขับเคลื่อนด้วย 4 แกนหลักสำคัญ แต่บางประการ จะถูกปรับภาพให้ทันสมัยขึ้น และเพิ่ม ข้อ 5 Concept คือ Space Matter ซึ่งเป็นการให้ความสำคัญในการออกแบบทุกพื้นที่ใช้สอยในตัวบ้าน ล่าสุดบริษัทเพิ่งเปิดตัวทาวน์โฮม 4 ห้องนอนที่มีสวนส่วนตัว และมีห้องน้ำส่วนตัวทุกห้องขึ้นมาในโครงการไอลีฟ ไพร์ม ลำลูกกา คลอง 2 ที่สะท้อนความแปลกใหม่อย่างชัดเจน 

ทั้งนี้ สำหรับกลยุทธ์การเติบโตหลังจากนี้ จะเน้นการขยายทำเล เพื่อเพิ่มฐานลูกค้าโดยแผนตั้งแต่ปี 2560-2566 บริษัทตั้งเป้าที่จะขยายทำเลให้ได้อย่างน้อยปีละ 1-2 ทำเล สำหรับในปี 2565 บริษัทเตรียมเปิดโครงการบนทำเลใหม่ในช่วงปลายปี ได้แก่ โซน รามอินทรา-คู้บอน ส่วนในปี 2566 บริษัทมีทำเลใหม่ที่เตรียมไว้เปิดโครงการใหม่แล้วอย่างน้อย 1 ทำเล ขณะนี้อยู่ระหว่างการเจรจาซื้อที่ดิน นอกจากนี้ยังมีแผนที่จะแตกไลน์ธุรกิจทั้งการร่วมทุนและสนับสนุน Start Up

ผู้บริหารรุ่นใหม่ ยังระบุว่า เป้าหมายสูงสุด คือ การนำพาบริษัทไปสู่ Top10 อสังหาฯไทย ซึ่งยอมรับว่า คงไม่ง่าย โดยการนำบริษัทเข้าสู่การจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ ก็คงเป็นแรงผลักที่สำคัญ ซึ่งขณะนี้อยู่ในการขั้นเตรียมการหลังบ้านให้มีความพร้อมที่สุด ส่วนสิ่งที่จะแปลกใหม่ คือ การขยายโปรดักส์ไปสู่โครงการแนวสูง และเพิ่มพอร์ตรายได้ประจำ อย่างต่ำปีละ 10 % ซึ่งขณะนี้กำลังศึกษาทั้ง โรงแรม คอนโดมิเนียม เซอร์วิสอพาร์ทเม้นท์ และ ธุรกิจเวลเนส รอโอกาสทางเศรษฐกิจและการเปิดประเทศ - การท่องเที่ยวกลับมาเต็มที่ โดยขณะนี้มีที่ดินรองรับเบื้องต้นในภูเก็ต 2แปลงใหญ่ ขณะเดียวกัน ยังเล็งที่ดินในหัวเมืองใหญ่ ทั้ง เชียงใหม่ เชียงราย ระยอง และ ขอนแก่น 

" การขยายโซน ขยายโปรดักส์และจังหวัด คือ การขยายฐานลูกค้าใหม่ๆที่เราไม่เคยมี จากเดิมที่อาศัยผ่านจำนวนโครงการเท่านั้น โดยขณะนี้เตรียมทีม และความพร้อมไว้เบื้องต้น คาดจะเกิดขึ้นภายใน 10ปี นับจากนี้" 

ทั้งนี้ ปัจจุบัน  กานดา มีโครงการที่อยู่ระหว่างการขายรวม 17 โครงการ ใน 10 ทำเล ทั้งในกรุงเทพฯ ปริมณฑล และภูมิภาค โดยได้ตั้งเป้ายอดขายไว้ที่ 3,300 ล้านบาท และเป้ารายได้อยู่ที่ 2,500 ล้านบาท