7 ก.ค.2565- ถือเป็นความเคลื่อนไหวที่เห็นชัดเจน สำหรับการเร่งสร้างซินเนอร์จี 2 ธุรกิจใหญ่ ของกลุ่ม บริษัท พฤกษา โฮลดิ้ง จำกัด (มหาชน) หลังจากประกาศเพิ่มพอร์ตลงทุนหลากหลายธุรกิจ เพื่อมุ่งสู่การเติบโตอย่างยั่งยืน ระหว่างธุรกิจพัฒนาโครงการที่อยู่อาศัย และ ธุรกิจบริการสุขภาพ หลังจากโรงพยาบาลวิมุต เปิดให้บริการอย่างเต็มตัว
ล่าสุด พบว่า พฤกษา เข้าร่วมลงทุนในสตาร์ทอัพด้านเฮลท์เทค “นัลลูรี่” (Naluri) ผู้ให้บริการสุขภาพแบบดิจิทัล สัญชาติมาเลเซียที่ประสบความสำเร็จและกำลังเติบโตอย่างก้าวกระโดด ร่วมกับ Bertelsmann Investments จากเยอรมนี และ Striders Corporation จากญี่ปุ่น และยังได้รับการสนับสนุนจากนักลงทุนเดิมอีกหลายราย รวมถึง M Venture Partners (MVP) จากสิงคโปร์, Palm Drive Capital สหรัฐอเมริกา และ INP Capital จากแคนาดา ด้วยวงเงินลงทุนรวมทั้งหมด ประมาณ 248 ล้านบาท (7 ล้านเหรียญสหรัฐ)
ขณะที่ความน่าสนใจนั้น พบว่า “นัลลูรี่” มีแผนขยายการให้บริการในไทย อินโดนีเซีย และครอบคลุมเอเชียตะวันอกเฉียงใต้ รวมถึงออสเตรเลียด้วย จึงคาดว่า แผนการดังกล่าว น่าจะมาช่วยต่อยอดพัฒนานวัตกรรมและเทคโนโลยีด้านการดูแลสุขภาพ รวมถึงยกระดับบริการแก่ลูกบ้านพฤกษาและผู้รับบริการของโรงพยาบาลวิมุตในอนาคต
พฤกษา เข้าร่วมลงทุนสตาร์ทอัพ “นัลลูรี่”
นายอุเทน โลหชิตพิทักษ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท พฤกษา โฮลดิ้ง จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า “บริษัทฯ ได้เน้นการลงทุนร่วมในธุรกิจสตาร์ทอัพด้าน Health Tech และ Prop Tech โดยมีหลักในการพิจารณากลุ่มธุรกิจที่จะร่วมลงทุน คือต้องมีแผนพัฒนาโซลูชันที่มุ่งส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตทั้งด้านการอยู่อาศัยและการดูแลสุขภาพ ที่สำคัญต้องเป็นโมเดลธุรกิจ ที่ยึดหลักการดำเนินธุรกิจ โดยให้ความสำคัญต่อการพัฒนาคุณภาพชีวิตอย่างยั่งยืน (Sustainability) อันเป็นแนวทางการประกอบกิจการของกลุ่มพฤกษามาโดยตลอด
นายอุเทน กล่าวว่า เมื่อเร็ว ๆ นี้ พฤกษาได้ตัดสินใจลงทุนใน “นัลลูรี่” ผู้ให้บริการสุขภาพแบบดิจิทัล (Digital Health Service Provider) โดยให้บริการด้านนวัตกรรมเทคโนโลยีสุขภาพผ่านแอปพลิเคชั่น “Naluri” ซึ่งมอบโซลูชั่นการดูแลสุขภาพเชิงป้องกัน (Preventive Health Care) ที่ควบคุมค่าใช้จ่ายได้ ใช้เทคโนโลยีในการดูแลตัวบุคคลแบบครบถ้วน เพื่อเปลี่ยนแปลงชีวิตของคนที่มีความเสี่ยง หรือ ต้องการจัดการโรคเรื้อรัง ปัญหาสุขภาพจิต รวมถึงเบาหวานชนิดที่ 2 ความดันโลหิตสูง ภาวะอ้วนลงพุง และภาวะไขมันในเลือดสูง ซึ่งเป็นกลุ่มโรคที่เป็นปัญหาระดับภูมิภาคและเป็นปัจจัยที่ทำให้ศักยภาพในการทำงาน อายุขัย และผลิตภาพทางเศรษฐกิจลดลง
สำหรับ Naluri ที่มีนักลงทุนรายใหม่เข้ามาช่วยขับเคลื่อนธุรกิจครั้งนี้ นำทีมโดยพฤกษา จากประเทศไทย Bertelsmann Investments จากเยอรมนี และ Striders Corporation ประเทศญี่ปุ่น ซึ่งทาง Naluri เองยังมีแรงสนับสนุนจากนักลงทุนเดิมหลายราย อาทิ Sumitomo Corporation จากประทศญี่ปุ่น M Venture Partners จากสิงคโปร์ Palm Drive Capital สหรัฐอเมริกา และ INP Capital จากแคนาดา โดยการลงทุนครั้งนี้เพื่อการขยายธุรกิจเชิงกลยุทธ์ของ Naluri ในประเทศไทย และช่วยสนับสนุนการดำเนินงานของบริษัทฯ ในมาเลเซีย สิงคโปร์ และ อินโดนีเซีย รวมทั้งมีแผนขยายบริการในอนาคตให้ครอบคลุมทุกประเทศในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ รวมถึงออสเตรเลียด้วย