ผลประกอบการ ณ ครึ่งปีแรก ปี 2565 ผ่านตัวเลขรายได้จากการขาย 6,606 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 17% จากปีก่อน และยังสามารถทำกำไรได้เพิ่มขึ้น 4% ที่ 378 ล้านบาท แม้เจาะลึกลงไป กำไรช่วงไตรมาส 2 ของ บริษัท เอสซีจี เซรามิกส์ จำกัด (มหาชน) จะหดตัวลงไปราว 6% แต่คงเป็นเครื่องสะท้อนได้อย่างชัดเจน ถึงความสำเร็จต่อการรับมือความผันผวนที่เกิดขึ้นอย่างหนักกับเศรษฐกิจโลก หลังราคาพลังงาน กลายเป็นตัวแปรใหญ่ที่ทำให้ภาคธุรกิจต่างๆตกอยู่ในความเสี่ยงตลอด 6 เดือนที่ผ่านมา
ต้นทุนกระทบกำไร
เจาะมุมมอง นายนำพล มลิชัย กรรมการผู้จัดการ COTTO เผยว่า ผลประกอบการเป็นไปตามที่คาดการณ์ไว้ หลังจากต้องควบคุมค่าใช้จ่าย ด้านการบริหารและการปรับปรุงประสิทธิภาพการผลิตอย่างต่อเนื่อง รวมถึงการปรับราคาขายเฉลี่ยเพื่อให้สอดคล้องกับต้นทุนพลังงานที่เพิ่มขึ้น เพื่อลดผลกระทบจากต้นทุนการผลิตที่สูงขึ้นด้วย
อย่างไรก็ตาม ยอมรับว่า การส่งออกที่แม้จะยังมีการขยายตัวได้ดี โดยเฉพาะในกลุ่มประเทศ เมียนมาร์ กัมพูชาและลาว แต่ราคาต้นทุนพลังงาน และราคาวัตถุดิบที่ปรับตัวสูงขึ้นมาโดยตลอดตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมา ทำให้กำไรงวด มี.ค.-มิ.ย. ลดลง 6 % แม้จะมีรายได้จากการขายเพิ่มขึ้น 19% ที่ 3,376 ล้านบาทก็ตาม
'บ้านนอกเมือง' อุ้มก่อสร้าง
สำหรับ อุตสาหกรรมก่อสร้างและวัสดุก่อสร้างปี 2565 นั้น นายนำพล คาดการณ์ว่า จะยังคงขยายตัว แม้ว่าจะมีต้นทุนที่สูงขึ้น แต่ตัวช่วยสำคัญ คือ ตลาดที่อยู่อาศัยในช่วงครึ่งปีหลัง ที่จะฟื้นตัวแบบค่อยเป็นค่อยไป โดยกลุ่มผู้บริโภคระดับกลาง-บน ยังมีความต้องการซื้อที่อยู่อาศัยและมีพฤติกรรมการเลือกซื้อเปลี่ยนไป พบความต้องการบ้านแนวราบนอกเมืองมีบริเวณมากขึ้น
นอกจากนี้ กลุ่มลูกค้าประเภทงานโครงการทั้งขนาดกลางและขนาดใหญ่ที่เป็นฐานลูกค้าสำคัญของบริษัทฯ ยังคงมีการขยายตัวอย่างต่อเนื่อง อย่างไรก็ตาม ยังไม่วางใจปัจจัยเสี่ยงที่จะกระทบต่อการดำเนินธุรกิจ ณ ช่วงครึ่งปีหลัง
เงินเฟ้อตัวแปรธุรกิจ
สำหรับ ปัจจัยสำคัญที่ส่งผลกระทบต่อการทำธุรกิจ นอกเหนือจากราคาพลังงาน รวมถึงราคาวัตถุดิบต่าง ๆ ที่ปรับตัวสูงขึ้นแล้ว ยังมีประเด็นท้าทายที่ธุรกิจต้องเผชิญในระยะอันใกล้ คือ เรื่องอัตราเงินเฟ้อที่สูงขึ้นอย่างมีนัยสำคัญทำให้ค่าครองชีพสูงขึ้นซึ่งเป็นแรงกดดันฉุดให้ผู้บริโภคตัดสินใจชะลอแผนซื้อที่อยู่อาศัยแม้ว่าจะยังมีความต้องการซื้อประกอบกับความผันผวนของค่าเงินและค่าขนส่งที่เพิ่มขึ้นตามราคาพลังงาน
ทั้งนี้ บริษัทฯ ได้ติดตามสถานการณ์มาโดยตลอด เพื่อวางแผนการผลิตและบริหารพอร์ตสินค้าได้อย่างเหมาะสม เนื่องจากเป็นทั้งผู้นำเข้าสินค้ากระเบื้องเซรามิคและเป็นผู้ผลิตส่งออกลำดับต้นของประเทศ
คาดครึ่งปีหลัง ศก.ฟื้นตัว
เมื่อมองไประยะท้าทายช่วงครึ่งปีหลัง ผู้บริหาร COTTO คาดการณ์ว่า แม้ธุรกิจยังเสี่ยงที่จะได้รับผลกระทบจากปัจจัยภายนอกที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว แต่ยังมีปัจจัยที่ส่งผลดีต่อตลาดวัสดุก่อสร้าง ได้แก่ มาตรการเปิดประเทศซึ่งเป็นส่วนสำคัญที่จะช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจและภาคการท่องเที่ยวให้ทยอยฟื้นตัวได้ จึงทำให้บริษัท ฯ เชื่อมั่นว่าในครึ่งปีหลังนี้จะยังสามารถเติบโตได้เมื่อเทียบกับปีก่อน
"บริษัท ติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด และมีการบริหารจัดการธุรกิจเชิงรุก เพื่อจัดการต้นทุนและลดความเสี่ยงด้วยการวางแผนการผลิตควบคู่ไปกับการบริหารพอร์ตสินค้าให้สอดคล้องกับความต้องการของตลาดและกลุ่มลูกค้าหลัก"
นอกจากนี้ บริษัทใช้วิธีปรับราคาสินค้าเพื่อให้เป็นไปตามกลไกของตลาด หลีกเลี่ยงการแข่งขันทางด้านราคาแต่จะมุ่งสร้างความแตกต่างด้วยการพัฒนาคุณภาพสินค้าและบริการให้ตอบโจทย์ลูกค้ามากที่สุด
รุกนวัตกรรมเพื่อสุขภาพ
ทั้งนี้ เมื่อคาดการณ์ถึงการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจในช่วงครึ่งปีหลัง ประกอบกับกระแสความตื่นตัว ทั้งในเรื่องของ สุขภาพ ความเป็นอยู่ที่ดีรวมถึงการให้ความสำคัญกับพลังงานทางเลือกมากขึ้น นับว่าเป็นโอกาสดีที่บริษัท ฯ จะเร่งผลักดันและนำเสนอนวัตกรรมสินค้าและบริการที่มีมูลค่าเพิ่ม เพื่อรุกตลาดไลฟ์สไตล์ยุคใหม่ที่ใส่ใจในเรื่องสุขภาพและความเป็นอยู่ที่ดี พร้อมกับมุ่งนำเสนอนวัตกรรมรักษ์โลก ที่สร้างการมีส่วนร่วมในการดูแลสิ่งแวดล้อมของแบรนด์ SUSUNN ซึ่งเป็นธุรกิจให้คำปรึกษา ออกแบบ จัดจำหน่าย และติดตั้งระบบผลิตกระแสไฟฟ้าจากพลังงานทดแทนและพลังงานสะอาดหลากหลายประเภท เป็นต้น ขณะเทคโนโลยีที่เกี่ยวข้องกับพลังงานหมุนเวียนและพลังงานทดแทน เพื่อการประหยัดและลดการใช้พลังงาน กลายเป็น 'โอกาสทอง' ที่น่าจับตามองของ COTTO เช่นเดียวกัน