ทำเลทองฝั่งเพชร EEC หรือ โซนเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก ครอบคลุม จังหวัด ชลบุรี ,ระยอง และ ฉะเชิงเทรา กลับมามีความเคลื่อนไหวอย่างน่าจับตามองอีกครั้ง ในแง่การลงทุนภาคอสังหาริมทรัพย์ หลังจาก ตัวเลข 6 เดือนแรก ปี 2565 สะท้อนความเชื่อมั่นของชาวต่างชาติที่เข้ามาในอีอีซี มูลค่า มากถึง 29,461 ล้านบาท เป็นสัดส่วนสูงที่สุดในประเทศที่ 42% จาก 69,949 ล้านบาท
อีกทั้ง โครงการอู่ตะเภา -ไฮสปีดเทรน มูลค่า 2.24 แสนล้านบาท คืบหน้าตามลำดับ รวมไปถึง ท่าเรืออุตสาหกรรมมาบตาพุด ระยะ 3 พื้นที่ 1,000 ไร่ มูลค่า 55,400 ล้านบาท กำลังเขย่าให้เกิดแหล่งงานขนาดใหญ่ในพื้นที่ ย่อมดึงดูดความต้องการ ด้านที่อยู่อาศัยอย่างมหาศาล
ไม่นับรวม แผน โครงการศูนย์ธุรกิจอีอีซี และเมืองน่าอยู่อัจฉริยะระดับโลก มูลค่า 1.34 ล้านล้านบาท ที่จะปลุกปั้น ที่ดิน ส.ป.ก ขนาด 14,619 ไร่ บริเวณ ตำบลห้วยใหญ่ บางละมุง จ.ชลบุรี ยิ่งเพิ่มความเนื้อหอมของทำเลยิ่งขึ้นไปอีก
อีอีซี ทำเลทอง10 ปี ที่อยู่ทะลัก1.3แสนล้าน
เจาะแนวโน้มตลาดที่อยู่อาศัย นายภัทรชัย ทวีวงศ์ ผู้อำนวยการ ฝ่ายวิจัยและการสื่อสาร คอลลิเออร์ส ประเทศไทย บริษัทที่ปรึกษาอสังหาริมทรัพย์ เผย 'ฐานเศรษฐกิจ' ว่า ภาพรวมภาคอสังหาฯ EEC ปัจจุบัน ยังคงเป็นทำเลทอง สำหรับผู้พัฒนารายใหญ่ของประเทศหลายราย เพราะพบยังต่างพากันสะสมแลนด์แบงก์ไว้เพื่อพัฒนาโครงการที่อยู่อาศัยกันเป็นจำนวนมาก เช่น บมจ. พฤกษา เรียลเอสเตท ,บมจ. ศุภาลัย, บมจ. ลลิล พร็อพเพอร์ตี้ , บมจ. เสนา ดีเวลลอปเมนท์ ,บมจ.เอสซี แอสเสท , บมจ. ควอลิตี้ เฮ้าส์, บมจ. ศุภาลัย และ บมจ. ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ เป็นต้น
โดยพบว่าในช่วง 10 ปีที่ผ่าน มีผู้พัฒนาฯเข้าไปเปิดโครงการที่อยู่อาศัยสะสมแล้วกว่า 50,621 หน่วย มูลค่าการลงทุนสูงกว่า 134,380 ล้านบาท สัดส่วนแนวราบสูงสุด 63.5% จำนวน 32,145 หน่วย มูลค่าประมาณ 79,207 ล้านบาท ส่วนคอนโดมิเนียม อีก 36.5% ที่ จำนวน 18,476 หน่วย มูลค่า 55,173 ล้านบาท
ทำเลเนื้อหอม ราคาที่ดินเพิ่ม7.6%
ขณะในช่วงครึ่งแรกปี 2565 ที่ผ่านมา นายภัทรชัย เผยว่า พบ ความเคลื่อนไหว ผู้พัฒนา ยังให้ความสนใจเปิดตัวโครงการใหม่ในพื้นที่ EEC อย่างคึกคัก โดยเฉพาะตลาดแนวราบ ทั้งนี้ ทำเลที่โดดเด่นและน่าจับตามอง คือ ในพื้นที่จังหวัดฉะเชิงเทรา
" ช่วงครึ่งหลังของปีนี้ อาจได้เห็นภาพ การเข้าไปพัฒนาโครงการใหม่ จากรายใหญ่ในตลาดหลักทรัพย์ ทั้งการเข้าไปเป็นครั้งแรก ครอบคลุมแนวราบและคอนโดฯ รวมถึงผู้พัฒนารายใหญ่ที่แข็งแกร่งในพื้นที่ด้วย "
สอดคล้อง ความเคลื่อนไหวของราคาที่ดิน ซึ่ง บจก.เอเจนซี่ ฟอร์ เรียลเอสเตท แอฟแฟร์ส เผยว่า ที่อยู่อาศัยและที่ดินในอีอีซี 29 จุดสำคัญ หรือ ถนน 29 เส้นทาง มีการเปลี่ยนแปลงของราคาอย่างน่าสนใจ มีราคาเฉลี่ยเพิ่มขึ้น 7.6% จากปี 2564 อย่างไรก็ดี ทั้ง 3 จังหวัด มีหน่วยรอขายที่มากเป็นอันดับต้นๆของประเทศเช่นกัน ผู้พัฒนาฯ จึงควรระมัดระวังการลงทุนในบางทำเล
โครงการรัฐ-เอกชน หนุนวัสดุก่อสร้าง
พื้นที่ยุทธศาสตร์ อีอีซี ยังเป็นทำเลที่กลุ่มผู้ผลิตและจำหน่ายวัสดุก่อสร้างรายใหญ่ ใช้เป็นโอกาสฟื้นผลประกอบการ และขยายสาขา เพิ่มยอดขายใหม่อีกด้วย
โดยนายรังสี ทีปกรสุขเกษม กรรมการผู้จัดการ บริษัท สมาร์ทคอนกรีต จำกัด (มหาชน) เผยว่า นอกจาก พบ นโยบายการเปิดประเทศ กระตุ้นให้ธุรกิจภาคบริการ การท่องเที่ยว เร่งปรับปรุง ต่อเติม อาทิ โรงแรม รีสอร์ท ร้านอาหาร ร้านกาแฟ ห้างสรรพสินค้า มากขึ้น ลูกค้า งานโครงการแนวราบ และแนวสูง ในพื้นที่ EEC ที่มีการก่อสร้างโรงงานอุตสาหกรรม และอาคารที่พักอาศัยเพิ่มมากขึ้น และมีความต้องการใช้งานอิฐมวลเบา-อิฐมวลเบาตกแต่งอย่างต่อเนื่อง ประกอบกับ งานลงทุนขนาดใหญ่ของภาครัฐ กลายเป็นโอกาสในการสร้างการเติบโตของผลประกอบการครึ่งปีหลัง
"พบ EEC ทั้งรัฐ และเอกชน มีการเร่งลงทุนเพื่อให้การก่อสร้างเสร็จตามแผน เช่น นิคมอุตสาหกรรม โรงงานอุตสาหกรรม อาคารสำนักงาน อาคารที่พักอาศัย รวมถึงงานสร้างบรรยากาศและภูมิทัศน์ ทำให้ความต้องการ อิฐมวลเบาฟื้นตัวดีมาก "
ไทวัสดุ ขยายสาขาใหม่ 'บางแสน'
ความคึกคักของตลาดที่อยู่อาศัย และ งานก่อสร้าง ใน EEC ยังดึงดูดให้ กลุ่มเซ็นทรัล รีเทล เพิ่งทุ่มงบลงทุนกว่า 300 ล้านบาท เข้ามายึดหัวหาด จังหวัดชลบุรี ผ่านการส่งบริษัท ซีอาร์ซี ไทวัสดุ จำกัดเปิดสาขา ไทวัสดุ x บีเอ็นบีโฮม บางแสน ขนาด 20,000 ตารางเมตร บนถนนสุขุมวิท เขย่าวงการค้าปลีกวัสดุก่อสร้าง และสินค้าตกแต่งบ้านในจังหวัดชลบุรีอีกด้วย
ทั้งนี้ ผู้บริหารไทวัสดุ นายสุทธิสาร จิราธิวัฒน์ ระบุ การเปิดสาขาแห่งที่ 6 ในอีอีซี หลังจาก ปักหมุด ศรีราชา พัทยา อมตะฯ ก่อนหน้า เพื่อหวังรองรับการเติบโตของระเบียงเศรษฐกิจ EEC และการขยายตัวของภาคอุตสาหกรรมจังหวัดชลบุรี และ จังหวัดใกล้เคียง
' อีอีซี เป็นเมืองอุตสาหกรรมขนาดใหญ่ ศักยภาพการเติบโตของเศรษฐกิจค่อนข้างสูง พบมีการขยายตัวของเมืองและที่อยู่อาศัยอย่างต่อเนื่อง'
เอกชนพร้อมลงทุนเมืองใหม่ห้วยใหญ่
ทั้งนี้ สำหรับโครงการเมืองใหม่ อีอีซี “ห้วยใหญ่บางละมุง”โดยรัฐประกาศ แผนปั้นที่ดิน ส.ป.ก. กว่า 1.4 หมื่นไร่ ในจังหวัดชลบุรี เพื่อผลักดัน เป็น ศูนย์กลางธุรกิจ และเมืองน่าอยู่ระดับโลกนั้น ในมุมของเอกชน อย่าง นายปิติ จารุกำจร ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ออริจิ้น อีอีซี ผู้พัฒนาโครงการอสังหาฯเบอร์ใหญ่ใน อีอีซี ระบุว่า โครงการดังกล่าวมีความน่าสนใจไม่น้อย โดยที่ผ่านมา บริษัทมีการหารือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับการส่งเสริมการลงทุนของรัฐอยู่บ้าง
อย่างไรก็ตาม สิ่งที่เอกชนจะพิจารณาสูงสุดก่อนเข้าไปลงทุนทั้งในเชิงพาณิชย์ และ โครงการที่อยู่อาศัย คือ แผนงานที่เป็นรูปธรรม และมีไทม์ไลน์การพัฒนาอย่างชัดเจน รวมถึง การเข้ามานำร่อง โดยบิ๊กเพเยอร์ หรือ เจ้าภาพสำคัญๆในหลายๆด้าน เพื่อให้เกิดความมั่นใจ เรียกความเชื่อมั่น เนื่องจากเมืองดังกล่าวมีขนาดใหญ่มาก เป็นโอกาสทั้งในเชิงพาณิชย์ เรสซิเดนท์ และ ภาคโรงแรม-บริการ
ซึ่งหากโครงสร้างพื้นฐานภายในมีความพร้อม การเวนคืนที่ดินที่มักเป็นอุปสรรคต่อแผนพัฒนาอีอีซี ไร้อุปสรรค เอกชนแทบทุกรายก็พร้อมเข้าไปลงทุนทันที เพราะวันนี้ อีอีซี ยังมีโอกาสอีกมาก หลังจากภายใต้วิกฤติโควิด ตลาดที่อยู่อาศัย อีอีซี ได้รับผลกระทบน้อยที่สุด สะท้อนภาพทำเลยังดึงดูดนักลงทุน และคนในพื้นที่มีดีมานด์ให้ตอบรับสูง