การกลับมาดำเนินชีวิตตามปกติ หลังสถานการณ์โควิดคลี่คลาย กำลังซื้อนักท่องเที่ยวต่างชาติกลับมา ส่งผลให้ เศรษฐกิจเริ่มฟื้นตัว
นางประวีรัตน์ เทวอักษร ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท วิลล่า คุณาลัย จำกัด (มหาชน) หรือ “KUN” ประเมิน ว่า ภาพรวมอสังหาทรัพย์มีแนวโน้มที่ดีขึ้น จากเศรษฐกิจในประเทศไตรมาส 4 / 2565 ที่เห็นการฟื้นตัวอย่างชัดเจน ตัวเลขนักท่องเที่ยวจากต่างประเทศคาดว่าจะแตะที่ 8 – 10 ล้านคน ทำให้รายได้จากการท่องเที่ยวเพิ่มขึ้น ส่งผลให้อัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจปรับตัวเพิ่มขึ้นตามลำดับ
ขณะมาตรการผ่อนคลายเกณฑ์การกำกับการดูแลสินเชื่อที่อยู่อาศัย (LTV) และมาตรการลดค่าธรรมเนียมโอนและค่าจดจำนองที่จะหมดพร้อมกันในปลายปีนี้( ปี2565) รวมถึงแนวโน้มอัตราดอกเบี้ยที่คาดว่าจะปรับขึ้นไปจนถึงปีหน้า จะเป็นตัวเร่งการตัดสินใจซื้อบ้านของผู้บริโภคให้เร็วขึ้นและจากปัจจัยดังกล่าวมองว่าความต้องการที่อยู่อาศัยในไตรมาสสุดท้ายนี้จะมีมากขึ้น
"มาตรการผ่อนคลายเกณฑ์LTV และลดค่าธรรมเนียมโอน จดจำนอง กำลังจะสิ้นสุดลงในวันที่ 31 ธันวาคม 2565 จะเป็นการกระตุ้นให้กับผู้ที่วางแผนซื้อบ้านตัดสินใจเร็วขึ้น "
อย่างไรก็ตาม เพื่อให้ได้รับมาตรการต่าง ๆ ของภาครัฐที่กำลังจะสิ้นสุดในปีนี้ สำหรับเรื่องการอัตราดอกเบี้ยที่กำลังเป็นขาขึ้น จะส่งผลกระทบกับลูกค้าที่ยื่นขอสินเชื่อโดยจะมีภาระค่าผ่อนรายงวดที่เพิ่มขึ้น
การขึ้นดอกเบี้ยทุก 0.25% ต่อปี จะเพิ่มการผ่อนชำระค่างวดบ้านประมาณ 2% - 5% จากค่างวดเดิม ส่งผลให้ธนาคารจะเข้มงวดมากขึ้นในการพิจารณาความสามารถในการผ่อนชำระคืน แต่ทั้งนี้ผลกระทบดังกล่าวจะแตกต่างกันขึ้นอยู่กับนโยบายของแต่ละธนาคาร
นางประวีรัตน์กล่าวว่า เพื่อเป็นการกระตุ้นการตัดสินใจซื้อของผู้บริโภคในช่วงโค้งสุดท้ายของปีนี้ บริษัทฯ ได้จัดแคมเปญสำหรับลูกค้าโครงการของ KUN มอบโชค 5 ชั้น ได้แก่ โชคชั้นที่ 1
ส่วนลดราคาทุกหลังหรือฟรีสร้อยคอทองคำหนัก 1 บาท , โชคชั้นที่ 2 ฟรีค่าโอน, โชคชั้นที่ 3 ฟรีค่าจดจำนอง, โชคชั้นที่ 4 ฟรีแอร์ และโชคชั้นที่ 5 ฟรีเครื่องใช้ไฟฟ้า โดยแคมเปญนี้จะให้สำหรับลูกค้าที่ซื้อบ้านในโครงการของ KUN และโอนบ้านภายในสิ้น
จากสถานการณ์ตลาดบ้านแนวราบที่ได้รับความนิยมอย่างต่อเนื่อง และภาพรวมธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ที่ได้กลับเข้าสู่ภาวะปกติเหมือนก่อนหน้าที่จะเกิดโควิด-19 รวมถึงภาพรวมเศรษฐกิจของประเทศได้ทยอยฟื้นตัว ล่าสุดบริษัทฯ สามารถทำยอดขาย(พรีเซล) ในช่วง 9 เดือน (มกราคม-กันยายน 2565) จำนวนทั้งสิ้น 1,100 ล้านบาท
เพิ่มขึ้น 5.8% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ที่ทำได้ 1,040 ล้าน โดยยอดพรีเซล ดังกล่าวมาจาก 7 โครงการ ประกอบด้วย 1.) คุณาลัย คอร์ทยาร์ด , 2.) คุณาลัย บีกินส์ 2 , 3.) คุณาลัย พรีม , 4.) คุณาลัย จอย ออน 314 , 5.) คุณาลัย พาร์โก้ , 6.) คุณาลัย เดซี่ และ 7.) คุณาลัย นาวาร่า
ส่งผลให้ ณ สิ้นไตรมาส 3/2565 บริษัทฯ มียอดขายรอการรับรู้เป็นรายได้ (Backlog) มูลค่า 260 ล้านบาท โดยคาดว่าจะทยอยรับรู้รายได้ในช่วงที่เหลือของปี 2565
"ยอดขายที่เพิ่มขึ้นส่งผลให้ ณ สิ้นไตรมาส 3 คิดเป็น 65% ของเป้าหมายยอดขายทั้งปี 2565 ที่วางไว้ 1,700 ล้านบาท โดยจากข้อมูลของบริษัทฯ ย้อนหลัง 5 ปี จะมียอดขายและยอดโอนในไตรมาส 4 ของทุกปี สูงกว่าทุกไตรมาส จึงมั่นใจว่าจะสามารถทำยอดขายได้ตามเป้าหมายที่วางไว้อย่างแน่นอน"
โดยโครงการคุณาลัย เดซี่ เริ่มเปิดขายในไตรมาส 2 ที่ผ่านมา ได้รับการตอบรับที่ดี ณ สิ้นไตรมาส 3 มียอดขายคิดเป็นมูลค่า 130 ล้านบาท ขณะที่โครงการคุณาลัย นาวาร่า เมื่อเดือนกันยายนที่ผ่านมา มีการเปิดขายอย่างไม่เป็นทางการ แต่ได้กระแสตอบรับเกิดคาด
เห็นได้จากยอดจองซื้อที่แตะระดับมูลค่า 40 ล้านบาท จากมูลค่าโครงการรวม 3.5 พันล้านบาท ซึ่งปัจจุบันอยู่ระหว่างเร่งงานก่อสร้างเพื่อให้โครงการมีความพร้อมในการเปิดขายอย่างเป็นทางการ ภายในไตรมาสที่2/2566