เปลือยยุทธศาสตร์ VBeyond บริษัท Property Tech ที่โตเร็วที่สุดก่อนเข้า IPO

11 พ.ย. 2565 | 13:56 น.
อัปเดตล่าสุด :11 พ.ย. 2565 | 21:56 น.

เปิดกลยุทธิ์ VBeyond เจ้าของ Property Mall แพลตฟอร์ม AI ซื้อ ขาย เช่า ซ่อม สร้าง ตกแต่ง และลงทุนอสังหาริมทรัพย์ที่เติบโตเร็วที่สุด เล็งระดมทุน IPO สร้าง Market value หมื่นล้านบาท

แม้ว่าปี 2564 ที่ผ่านมาจะเป็นขาลงของอสังหาริมทรัพย์ด้วยอัตราโครงการเปิดตัวใหม่ต่ำที่สุดในรอบ 6 ปี และบ้าน-คอนโดเหลือขายมากกว่า 165,000 ยูนิต แต่ในปี 2565 นี้ศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ ธนาคารอาคารสงเคราะห์ประเมินว่าในช่วงครึ่งแรกปี 2565 อัตราการขยายตัวของหน่วยโครงการที่อยู่อาศัยเปิดขายใหม่จะเพิ่มขึ้นกว่าช่วงครึ่งปีแรกของปี 2564 ถึง 95.8%

ยุทธศาสตร์ VBeyond บริษัท Property Tech ที่โตเร็วที่สุดก่อนเข้า IPO

และคาดว่าจะขยายตัวเพิ่มขึ้นอีก 24.3% ในช่วงครึ่งหลังของปี 2565 ในขณะที่มูลค่าในครึ่งแรกของปี 2565 จะเพิ่มขึ้นประมาณ 100.3% และเริ่มชะลอการขยายตัวในช่วงครึ่งหลังปี 2565 แต่โดยรวมแล้วธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ปีนี้จะเติบโตดีกว่าปีที่ผ่านมาแน่นอน

สิ่งหนึ่งที่สะท้อนความมั่นใจของการเติบโตธุรกิจอสังหาริมทรัพย์คือ รายได้ของธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับอุตสาหกรรมอสังหาริมทรัย์ หนึ่งในนั้นคือ  VBeyond แพลตฟอร์มให้บริการด้านอสังหาริมทรัพย์แบบ “One-stop-service” ที่นับว่าเป็น Property Tech สัญชาติไทยรายแรกที่ให้บริการแบบครบวงจร และยังเป็นเจ้าของ Property Mall แพลตฟอร์ม AI อัจฉริยะที่ตอบโจทย์ทุกความต้องการด้านอสังหาริมทรัพย์ ภายใต้แนวคิด “One Click Pick Your Home” หรือ “แค่คลิก พลิกโลกอสังหาฯ ไว้ในมือคุณ” ที่สถานะทางการเงินนับว่ามีความแข็งแกร่งอย่างมาก

ยุทธศาสตร์ VBeyond บริษัท Property Tech ที่โตเร็วที่สุดก่อนเข้า IPO

หากย้อนผลประกอบการณ์ของ บริษัท วีบียอนด์ ดีเวลอปเม้นท์ จำกัด จะพบว่า ใน ปี 2563 สามารถทำรายได้เพียง 79 ล้านบาทมีกำไร 8 ล้านบาทเท่านั้น แต่ในปีถัดมา 2564 รายได้กลับเติบโตแตะ 278 ล้านบาท กำไร 40 ล้านบาท และ9 เดือนแรกของปีนี้(ปี 2565) VBeyond สามารถทำรายได้เป็นที่น่าพอใจ 164 ล้านบาท แต่กำไรสูงถึง 60 ล้านบาท

สาเหตุของการเติบโตทางด้านการเงินที่น่าสนใจนี้มาจากยอดขายที่เพิ่มขึ้น และจำนวนสต๊อคสินค้าที่หลากหลายสามารถตอบสนองความต้องการของลูกค้า บวกกับรายได้จากการเป็นนายหน้าก่อสร้างและนายหน้าที่ดิน ที่สำคัญหากมองให้ลึกจะพบว่า โมเดลธุรกิจของ VBeyond เป็นแพลตฟอร์มตัวกลางในการซื้อขายที่นอกจากความเสี่ยงต่ำแล้วยังไม่จำเป็นต้องกู้เงินเยอะและไม่มีต้นทุนดอกเบี้ยสูง

วรเดช รุกขพันธุ์

ทั้งนี้จุดเริ่มต้นความสำเร็จของ VBeyond  สามารถย้อนไปในปี 2557 บริษัท วีบียอนด์ ดีเวลอปเม้นท์ จำกัด หรือ VBeyond แจ้งเกิดขึ้นภายใต้การปลุกปั้นของ “วรเดช รุกขพันธุ์” นักธุรกิจเจนใหม่ที่ต้องการสร้างแพลตฟอร์มที่รวบรวมทุก ๆ บริการด้านอสังหาริมทรัพย์มาไว้ในที่เดียวกัน ภายใต้แนวคิด “ครบเครื่องเรื่องอสังหาฯ มองหาวีบียอนด์” ซึ่งผู้บริหารปักธงธุรกิจมุ่งสู่  Tech Company ผ่านการ สร้าง Property Mall แพลตฟอร์ม AI ที่ตอบโจทย์ทุกความต้องการด้านอสังหาริมทรัพย์ ตั้งแต่การซื้อ ขาย เช่า ซ่อม สร้าง ตกแต่ง และลงทุน โดยมีอสังหาริมทรัพย์หลากหลายประเภท ไม่ว่าจะเป็น ที่ดิน คอนโดฯ โฮมออฟฟิศ และบ้านเดี่ยว รวมไปถึงบริการเรียกช่างผู้รับเหมา ซื้อวัสดุก่อสร้าง ซื้อของใช้ภายในบ้าน ไปจนถึงการจัดพอร์ตลงทุนในอสังหาริมทรัพย์

 

แน่นอนว่าโมเดล  “One-stop-service” ทำให้ VBeyond กลายเป็นที่รู้จักอย่างรวดเร็ว และเป็นที่นิยมอย่างมากจากความโดดเด่น ของ Property Mall ไม่ว่าจะเป็น ระบบซื้อและเช่า ที่แนะนำอสังหาริมทรัพย์ที่ตรงไลฟ์สไตล์ของผู้ใช้จากการตอบคำถามไม่กี่ข้อ แถมยังมีการเปรียบเทียบราคา และมีรายละเอียดของแต่ละโครงการจากหลายดีเวลลอปเปอร์ดีลและโปรโมชันพิเศษรวมทั้งโปรแกรม Bidding ที่ผู้ซื้อและผู้ขายสามารถต่อรองราคาได้โดยตรง ,ระบบเช่าที่ผู้ใช้สามารถนำคอนโดฯ มาลงฝากเช่าแบบ Marketplace พร้อมกับโปรโมชันสะสมค่าเช่า เพื่อใช้เป็นเงินดาวน์คืนค่าเช่าในอนาคต 

 

ขณะที่ ระบบลงทุน จะมีการบอกผลตอบแทนโดยประมาณเป็นเปอร์เซ็นต์ต่อปี และอัตราค่าเช่าโดยเฉลี่ย เพียงพอให้ผู้เช่าสามารถประเมินด้วยตัวเองว่า เงินที่ลงทุนไปจะคืนคุ้มทุนภายในกี่ปี และคุ้มค่าที่จะลงทุนหรือไม่  ส่วน บริการก่อสร้างและตกแต่ง รองรับการบริการตั้งแต่งานเล็กเช่นตกแต่งภายในอาคาร การออกแบบอาคาร  ไปจนถึงงานใหญ่ เช่น รีโนเวต และก่อสร้างโดยมี ลิสต์ ผู้รับเหมามืออาชีพ รีวิวผลงานให้ลูกค้าประกอบการตัดสินใจ บริการให้คำปรึกษาฟรีทั้งค่าออกแบบ, ค่าขออนุญาต, ค่าขอน้ำไฟ ค่าขอบ้านเลขที่  ไปจนถึงปรึกษาสินเชื่อในการสร้างบ้าน สร้างอาคาร และโครงการบ้านจัดสรรจากผู้มีประสบการณ์

เจาะโปรไฟล์ VBeyond ก่อนเข้า IPO

อย่างไรก็ตาม VBeyond มีแผนสเกลอัพ Property Mall ในรูปแบบแอปพลิเคชั่นใช้งานผ่านโทรศัพท์มือถือ และเพิ่มบริการที่เกี่ยวเนื่องเพื่อทลายกำแพง แพลตฟอร์มอสังหาริมทรัพย์ และก้าวไปเป็น  “ไลฟ์สไตล์แพลตฟอร์ม” ที่ครบเครื่องเรื่องการพักอาศัยผ่านฟีเจอร์ที่น่าสนใจ ไม่ว่าจะเป็น บริการ Delivery ของใช้ในบ้านและบริการ Healthcare ผ่าน Telemedicine 

 

ไม่เพียงเท่านั้นในช่วงปลายปี 2565 นี้ VBeyond ยังมีแผนการลงทุนที่น่าสนใจ โดยเฉพาะการเปิดเซกเมนต์ใหม่ๆเพื่อขยายธุรกิจให้กว้างขึ้นกว่าเดิม โดยเปิดตัวบริษัทลูกในชื่อ “บริษัท บ้านอินโนเวชั่น จำกัด” ซึ่งเป็นโมเดลธุรกิจนำบ้านมือสองมารีโนเวตและปรับปรุงด้วยคอนเซปต์ “Smart home” ที่เน้นนวัตกรรมการประหยัดพลังงานและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมในราคาที่จับต้องได้ รวมทั้งแผนลงทุนในกลุ่ม Startup ที่เล็งเห็นว่ามีโอกาสเติบโตสูงรวมทั้งโปรเจกต์ใหม่ที่จะทยอยเปิดตัวในอนาคตอันใกล้เพื่อซัพพอร์ตการเติบโตของธุรกิจต่อไป และผลักดันรายได้แตะ 1,800 ล้านบาท และครองส่วนแบ่งตลาด 5% จากตลาดบ้านมือ 1 ที่มีมูลค่าตลาดรวม 8 แสนล้านบาท และตลาดบ้านมือ 2 ที่มีมูลค่ารวม 9 แสนล้านบาทและยังวางเป้าหมายทำกำไร 1,000 ล้านบาทจากธุรกิจโดยรวมภายในปี 2568 

 

และความเคลื่อนไหวที่กำลังจะเกิดขึ้นและอาจเปลี่ยนภาพบริษัทหลักร้อยล้านบาทให้สเกลอัพเป็นบริษัทหลักหมื่นล้านในอนาคต คือการตั้งเป้าเข้าระดมทุน IPO ในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ซึ่งนับว่าเป็นชาเลนจ์ที่สำคัญของ VBeyond