14 พ.ย.2565 - นายไชยฤทธิ์ ชัยสิทธิโรจน์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท อาเมทัส ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด เปิดเผยถึงการเปิดตัวโครงการใหม่ในครั้งนี้ว่า “จากความสำเร็จในการเปิดตัวโครงการ “แอสเทียร์” ที่ผ่านมา ซึ่งสามารถปิดการขายได้ ในระยะเวลาเพียง 3 เดือน ทั้งที่ช่วงเวลาดังกล่าวเป็นช่วงการระบาดของโควิด-19
ทั้งนี้ นับเป็นผลมาจากการที่บริษัทฯ ให้ความสำคัญตั้งแต่การเลือกทำเลที่ตั้ง และการวางคอนเซปต์ที่มีคาแรคเตอร์โดดเด่นเป็นเอกลักษณ์ ซึ่งการออกแบบ “บ้าน” เสมือนการสร้างสรรค์งานศิลปะให้เป็นสมบัติที่ทรงคุณค่าเพียงชิ้นเดียวในโลก ทั้งความพิถีพิถันในการเลือกใช้วัสดุ ความละเมียดละไมในการตกแต่ง การจัดการทุกพื้นที่บนที่ดินหนึ่งผืนให้สวยงามและมีมิติน่าอยู่เหนือกาลเวลา นับเป็นจุดแข็งที่ทำให้ได้รับการตอบรับที่ดีจากผู้บริโภค
ด้วยเหตุนี้ บริษัทฯ จึงเดินหน้าเปิดตัวอีกหนึ่งโครงการใหม่ “อสงไขย” พูลวิลล่าระดับอัลตร้าลักชัวรี่ จำนวน 1 ยูนิตเท่านั้น! บนหาดดงตาล พัทยา ภายใต้แนวคิด “Timeless ความสมดุลที่อยู่เหนือกาลเวลาเพื่อความสุขอันไม่มีวันสิ้นสุด” มูลค่า 385 ล้านบาท”
“โครงการอสงไขย ตั้งอยู่บนหาดดงตาล นับเป็นที่ดินผืนสุดท้ายและเปรียบเสมือนเป็น Billionaire Street ของพัทยา โดยเหตุผลสำคัญที่เลือกทำเลดังกล่าวเนื่องจากมองเห็นถึงศักยภาพของที่ดินซึ่งค่อนข้างหาได้ยาก เป็นอย่างมากในปัจจุบัน ตรงตามConcept Limited Collection อีกทั้งเรายังมองว่าดีมานด์ตลาดที่พักอาศัยใน เมืองพัทยายังคงเติบโตขึ้นเรื่อยๆ เรียกว่าเป็นตลาดที่ค่อนข้างมีกำลังซื้อหลากหลายรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นการซื้อเพื่ออยู่อาศัยหรือซื้อเพื่อลงทุน ทั้งจากกลุ่มลูกค้าที่เป็นคนไทยและชาวต่างประเทศ
โดยเราวางกลุ่มเป้าหมาย Niche Market อาทิ กลุ่มเจ้าของกิจการและกลุ่ม Young Successor ที่ต้องการที่อยู่อาศัยที่มีดีไซน์เหนือระดับ สามารถสะท้อนตัวตนได้อย่างชัดเจนและไม่ซ้ำใคร และหากมองในเรื่องของความคุ้มค่านั้น ด้วยแนวคิด “Timeless ความสมดุลที่อยู่เหนือกาลเวลาเพื่อความสุขอันไม่มีวันสิ้นสุด” อันนอกจากเรื่องดีไซน์ที่อยู่เหนือกาลเวลาแล้ว ก็ถือว่าคุ้มค่าเป็นอย่างมาก เพราะหากเปรียบเทียบราคาเฉลี่ยของโครงการคอนโดฯ ในคุณภาพเพนท์เฮ้าส์ของพัทยา บริเวณ Beachfront จะอยู่ที่ประมาณ 200,000 – 250,000 บาท/ตร.ม.
แต่สำหรับ “อสงไขย” ราคาเฉลี่ยอยู่ที่ประมาณ 132,000 บาท/ตร.ม. เท่านั้น และในอนาคตคาดว่าอัตราเฉลี่ยจะต้องมีแนวโน้มที่สูงขึ้น อีกทั้งยังมีเพียงแค่หลังเดียว จึงเป็นอีกหนึ่งปัจจัยในการส่งเสริมเรื่องของ Capital Gain ในอนาคตได้อย่างแน่นอน”
ว่าที่ร้อยตรี วรฐ จินตนานุวัฒน์ กรรมการบริหาร บริษัท อาเมทัส ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด เผยว่า “แรงบันดาลใจในการพัฒนาโครงการ “อสงไขย” เป็นเรื่องที่ต่อยอดมาจากแนวคิดของกลุ่มเป้าหมายที่ต้องการบ้านที่สามารถใช้เป็นที่อยู่อาศัยจริงและเป็นบ้านหลังที่สองในการใช้ชีวิตอย่างมีความสุข ซึ่งเราเลือกที่จะถ่ายทอดออกมาในรูปแบบที่เป็นสัญลักษณ์ “Infinity” ภายใต้คอนเซปต์ “Timeless” ในที่นี้หมายถึง ด้านมิติของเวลาและไม่มีที่สิ้นสุด รวมถึงในเรื่องของเชื้อชาติและวัฒนธรรม ไม่ว่าคุณจะมาจากที่ไหนของโลก แต่เมื่อได้เดินก้าวเข้ามาที่ “อสงไขย” แล้ว คุณจะสามารถพักผ่อนได้อย่างมีความสุขแบบไร้ขีดจำกัด
นอกจากนี้ ในอีกมุมหนึ่งเครื่องหมายInfinite ก็คือเลข 8 ซึ่งเป็นเลขมงคลของจีนและญี่ปุ่นที่แสดงถึงความเจริญรุ่งเรือง ความเจริญก้าวหน้า จะเห็นได้ว่าเราเลือกหยิบสัญลักษณ์ที่มีความเป็นมงคลจากทางตะวันตกและทางตะวันออกมาเป็นแกนหลักในการออกแบบ ซึ่งตรงกับคอนเซปต์ของโครงการฯ รวมถึงความพิถีพิถันทุกขั้นตอนในการเลือกวัสดุ การดีไซน์ทั้งภายนอก-ภายในและแลนด์สเคปต่างๆ โดยเน้นที่ความโดดเด่นธรรมชาติของท้องทะเลมาเล่นกับแสงและเงาบนส่วนเว้าส่วนโค้งของตัวบ้าน สะท้อนให้เกิดมิติที่สวยงาม เพิ่มความหรูหราแบบโมเดิร์นลักชัวรี่อีกระดับ ในส่วนของ Facilities ก็ไม่ลืมที่จะใส่ฟังก์ชั่นเพื่อรองรับการใช้งานของผู้อยู่อาศัยแบบเหนือระดับ จับต้องได้จริง ดังนั้นโครงการ “อสงไขย” จะเป็นผลงาน Master Piece อีกหนึ่งชิ้นที่เราจะสามารถสื่อสารไปในระดับโลกได้อย่างภูมิใจ”
ด้าน นายนิวัติ ลมุนพันธ์ ที่ปรึกษาโครงการฯ กล่าวเสริมว่า “ในกลุ่ม Southeast Asia ประเทศไทยต่างได้รับการยอมรับว่าเป็นประเทศที่น่าอยู่อาศัยที่สุด โดยเฉพาะพัทยาซึ่งเป็นเมืองที่มีชื่อเสียงระดับนานาชาติ เรียกว่าเป็นเมืองที่ไม่มีวันตาย เพราะมีการเจริญเติบโตอย่างไม่สิ้นสุดตามนโยบายโครงการพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจพิเศษ ภาคตะวันออกหรือ EEC(Eastern Economic Corridor)
อีกทั้งยังเป็นเมืองที่มีความสมบูรณ์ในทุกด้าน ไม่ว่าจะเป็นที่พักผ่อนและพักอาศัยในลักษณะรีสอร์ท ความสวยงามของท้องทะเล ความสมบูรณ์ของสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ ในการใช้ชีวิต ในด้านอาหารการกิน สถานที่ท่องเที่ยว รวมถึงความสนุกสนานของ Night Life อีกทั้งในอนาคตทรัพย์สินยังมีมูลค่าเพิ่มขึ้นอย่างเห็นได้ชัดเจน ประกอบกับศักยภาพทำเลที่ตั้งที่เป็น Rare Item จึงเป็นเหตุผลในการปักหมุดเลือกทำเลพื้นที่นี้อย่างไม่ลังเล”
นายนิติทัศน์ ลมุนพันธ์ Co-Design Team โครงการฯ กล่าวเพิ่มเติมว่า “จะเห็นได้ว่ากลุ่มเป้าหมายที่เป็น New Gen Millionaire เป็นกลุ่มที่ประสบความสำเร็จตั้งแต่อายุยังน้อย และเติบโตมากับ Lifestyle ที่เต็มไปด้วยเรื่องราวในสังคมมากมาย การเลือกบ้านหลังที่สองจึงเป็นเหมือนรางวัลชีวิต ดังนั้นเราจึงพิถีพิถันในด้านดีไซน์ การออกแบบพื้นที่ในมุมต่างๆ ให้รองรับกับพฤติกรรมและความต้องการให้ได้มากที่สุด ไม่ว่าจะเป็น ห้องจัดปาร์ตี้หรือจัดงานสังสรรค์ การจัดองค์ประกอบของแสงต่างๆ ในบ้านให้มีความสวยงาม อย่างเช่นมุม Reflection Pool ในชั้นล่าง การสร้างพื้นที่ให้มีที่โชว์รถในตัวบ้าน เหมาะสำหรับผู้ที่ชื่นชอบสะสมรถหรูซึ่งเป็นสิ่งที่ต้องมี หรือจะปรับเป็นห้องตามไลฟ์สไตล์ความชอบของเจ้าของก็สามารถทำได้อย่างไม่มีลิมิต ฯลฯ นับเป็นอีกหนึ่ง Insight ที่มาเติมเต็มความสุขและเพิ่มสีสันให้กับชีวิตได้”
“สำหรับแผนการตลาด เนื่องจากโปรดักส์ของเรามีเพียงหลังเดียวเท่านั้น เราจึงเลือกใช้วิธี Direct Sale เพื่อให้เข้าถึงลูกค้า VVIP ที่มีกำลังซื้อโดยตรง ดังเช่นการจัดงานเปิดตัวโครงการ “อสงไขย” (ASONGKHAI) ที่ Sales Gallery โครงการฯ เมื่อวันศุกร์ที่ 11 พฤศจิกายน 2565 ที่ผ่านมา โดยเชิญแขกผู้มีเกียรติ VVIP, Sale Agent มาร่วมงาน เพื่อให้ทุกคนได้สัมผัสตัวโครงการฯ บนที่ดินจริง และเป็นการสร้างการรับรู้ไปยังกลุ่มเป้าหมายโดยตรง นับเป็นอีกหนึ่งผลงานที่ “อาเมทัส” มีความภูมิใจเป็นอย่างมาก ซึ่งคาดว่าจะได้รับการตอบรับที่ดีดังเช่นโครงการที่ผ่านมา และสามารถปิดการขายได้เร็วๆ นี้” ว่าที่ร้อยตรี วรฐ กล่าวปิดท้าย
อสงไขย (ASONGKHAI) พูลวิลล่าหรูริมทะเล (Oceanfront Pool Villa) ระดับ Ultra-Luxurious มูลค่า 385 ล้านบาท ภายใต้แนวคิด “Timeless ความสมดุลที่อยู่เหนือกาลเวลาเพื่อความสุขอันไม่มีวันสิ้นสุด” โดดเด่นด้วย Signature Design หลังเดียวบนหาดดงตาล พัทยา จ.ชลบุรี ขนาดที่ดิน 1 ไร่ 49 ตารางวา พื้นที่ใช้สอย รวมกว่า 2,900 ตารางเมตร พร้อมสิ่งอำนวยความสะดวกที่เติมเต็มความสุขได้อย่างครบครัน ไม่ว่าจะเป็น Infinity Garage, Swimming Pools Infinity Edge (Private Pool), Exclusive Bar, Private Home theatre, Pool View Gym และ Panoramic Sea view living area
ภาพรวมภายนอกของโครงการฯ เป็นอาคาร Modern Style สีขาว ตัดกับสระว่ายน้ำสีฟ้าอ่อน ที่ผสมผสานกลมกลืนกับทะเล เป็นรูปทรงสัญลักษณ์ “Infinity“ ซึ่งตีความหมายมาจากชื่อของโครงการฯ ที่แปลว่า ไม่มีที่สิ้นสุด เส้นโค้งแสดงถึงการเคลื่อนไหวจากภายนอกสู่ภายใน ตั้งแต่ชั้นล่างจนถึงชั้นหลังคา เส้นโค้งนอนสีขาว ที่เป็นตัวแบ่งพื้นที่การใช้งานของแต่ละชั้นของบ้าน โดยทั้งหมดถูกเชื่อมต่อเข้าด้วย Infinity Stair ซึ่งเป็นบันไดหลักของตัวบ้านตลอด 3 ชั้น ซึ่ง 95% ของโครงการฯ ด้านทะเล ออกแบบให้มีช่องแสงหรือกระจกขนาดใหญ่ สูงไม่ต่ำกว่า 3 เมตร เพื่อให้เห็นวิวทะเลได้อย่างเต็มที่ในทุกๆ ส่วนของตัวบ้าน
ด้านสถาปัตยกรรมตกแต่งภายใน เป็นการนำองค์ประกอบของชายทะเล ด้วยการเลือกโทนสีและผิวสัมผัสของวัสดุภายในอิงสีทะเลและท้องฟ้า ดึงเอาจุดเด่นของสีธรรมชาติจากแสงสะท้อนในน้ำทะเล ประกอบกับเส้นสาย ความโค้งมนอันเป็นรูปทรงที่ได้แรงบันดาลใจจากเส้นขอบชายหาดของทะเลพัทยา มาผสมผสานสีธรรมชาติของวัสดุจริง ไม่ว่าจะเป็น ไม้ หินอ่อนและผ้าลินิน ที่ให้ผิวสัมผัสนุ่มนวล หลอมรวมเป็นงานออกแบบภายใน พร้อมฟังก์ชันภายในบ้านที่มีความเป็นส่วนตัว แต่ยังมี Space เพิ่มความโปร่ง โล่ง หรูหรา ด้วยเฟอร์นิเจอร์และครบครันด้วยเทคโนโลยีที่รองรับการใช้ชีวิตภายในบ้านได้อย่างสะดวกสบาย แม้กระทั่งรูปทรงของห้องต่างๆ โถงบันได และเส้นทางเดิน ก็ถูกจัดวางอย่างประณีตลงตัว แฝงไปด้วยเรื่องราวต่างๆ ดั่งงานศิลปะในทุกๆ ห้อง
พื้นที่ใช้สอย แบ่งออกเป็น 4 ชั้น ได้แก่ ชั้น 1 ประกอบด้วย ห้องดูหนัง / ห้องคาราโอเกะ ที่จอดรถหรูภายในบ้าน (Infinity Garage) ซึ่งออกแบบมาให้เป็นพื้นที่โชว์รถ เชื่อมต่อเข้ากับส่วนต้อนรับ หรือ Pool Lounge ที่สามารถมองเห็นทั้งในส่วนของพื้นที่จอดรถ วิวสระและสวน สระว่ายน้ำแบบ Infinity Edge ที่มีรูปทรงโค้งรับกับทะเล สะท้อนตัวอาคาร เพิ่มมิติในแนวตั้งให้อาคารดูโดดเด่นมากยิ่งขึ้น ชั้น 2 ประกอบด้วย พื้นที่นั่งเล่นหรือชั้นรับแขกคนสำคัญ ที่เชื่อมต่อกับสระว่ายน้ำ(Private Pool) ที่สามารถเห็นวิวทะเล ถูกแบ่งพื้นที่ด้วยประตูกระจกบานใหญ่ แต่ยังรู้สึกเหมือนเป็นส่วนเดียวกัน, ห้องรับประทานอาหาร Pantry และห้องนอน 2 ห้อง ชั้น 3 ประกอบด้วย ห้องนอน Great Master และห้องนอน Master อีก 2 ห้อง พร้อมระเบียงโค้งขนาดใหญ่ และชั้นหลังคา เป็นพื้นที่สีเขียวและพื้นที่สำหรับพักผ่อนที่สามารถมองเห็นวิวทะเลได้มากกว่า 180 องศา
ในส่วนของ Landscape เป็นแนวคิดการออกแบบ “อสงไขย” คือ "วัฏจักรที่ไม่มีวันสิ้นสุด" ทำให้เกิดแรงบันดาลใจ ในการออกแบบให้ผู้อยู่อาศัยได้ประโยชน์จากภูมิทัศน์ที่จัดขึ้นในพื้นที่โครงการฯ และวิวทะเล โดยใช้เรื่องของปรากฏการณ์ของแสงในแต่ละช่วงเวลาของวันและฤดูกาลที่ต่างกัน ทำให้แสงและบรรยากาศมีความเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา ทำให้การรับรู้และซึมซับธรรมชาติได้มากขึ้นและเป็นหนึ่งเดียวกับธรรมชาติ อาทิ การวางตำแหน่งอาคารเพื่อรับมุมมองของทะเลให้มากที่สุด มุมมองของการใช้งานภายในบ้านที่ชั้น 1 ออกแบบให้เป็นพื้นที่อาคารเชื่อมต่อกับ Water Feature ให้ความรู้สึกเย็นสบาย การบิดมุมมองของห้องต่างๆ เพิ่มพื้นที่ใช้สอยในการใช้งานได้มากขึ้น รวมถึงการออกแบบพื้นที่สวนแต่ละชั้น เพื่อเปิดมุมมองไม่บังวิวทะเล ชั้นสระว่ายน้ำระดับของน้ำจะดูต่อเนื่องกับ Skyline ที่ให้ความรู้สึกถึงการเชื่อมต่อของน้ำในสระกับทะเลได้อย่างลงตัว