4 ม.ค.2566 - จากที่กรณีดราม่า การเปลี่ยนป้ายสถานีกลางบางซื่อ เป็นสถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์ ด้วยงบกว่า 33 ล้านบาทนั้น ซึ่งถูกสังคมตั้งคำถาม ถึงความจำเป็น คุ้มค่าเหมาะสมกับงบประมาณจำนวนมหาศาลหรือไม่ เพราะคำนวณแล้ว ราคาเปลี่ยนแปลงตัวอักษร ตกถึงตัวละ 6 แสนบาทเลยทีเดียว โดยแม้ภายหลัง รฟท.จะออกมาชี้แจง การขั้นตอนต่างๆ ผ่านการตั้งคณะกรรมการจัดทำร่างขอบเขตของงานและราคากลางมาอย่างเหมาะสมถูกต้องแล้วก็ตาม โดยได้คำนวณ เกี่ยวกับ ชนิด จำนวน ปริมาณ รายการพัสดุ วัสดุต่างๆ ค่าแรง และ รวมยอดเงินเผื่อจ่าย (Provisional Sum) ร่วมด้วย รวมถึงราคา 33 ล้านบาท กำหนดขอบเขตของงานที่หลากหลาย ไม่ได้มีเพียงแค่การเปลี่ยนป้ายชื่อเพียงเท่านั้น แต่ยังรวมถึงการจัดทำระบบไฟ งานรื้อถอน ที่มีความละเอียดอ่อนและต้องปรับปรุงอย่างระมัดระวัง รวมถึงมีการรับประกันความชำรุดบกพร่องแล้วก็ตาม
ล่าสุด นายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย ได้ออกมาเคลื่อนไหวต่อกรณีดังกล่าว พร้อมระบุว่า การชี้แจงของ รฟท. ต่อการเปลี่ยนป้ายสถานีกลางบางซื่อ ฟังไม่ขึ้น และยังไม่เคลียร์ในหลายประเด็น
โดยเฉพาะบทบาทของคณะกรรมการกำหนดราคากลาง ซึ่งมีข้อพิรุธหลายประการ และการกระทำทั้งปวงอาจไม่เป็นไปตามหลักเกณฑ์ตาม พรบ.การจัดซื้อจัดจ้างและการบริหารพัสดุภาครัฐ 2560 ประกอบ พรบ.ฮั้วประมูล 2542
ทั้งนี้ สมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทยจึงจะนำความไปร้อง สตง.ให้ตรวจสอบในประเด็นที่ รฟท.และสื่อยังไม่ได้นำเสนอ อันเป็นการชี้ถูกขี้ผิดได้ชัดเจนยิ่ง โดยจะไปร้อง สตง.ในวันพฤหัสบดี ที่ 5 ม.ค. 2566 เวลา 10.00 น. ณ สำนักงาน สตง. ซอยอารีย์ พญาไท