เมื่อวันที่17ก.พ.66 นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ ปลัดกระทรวงมหาดไทย เป็นประธาน ในพิธีเปิดถนนโครงการจัดรูปที่ดินเพื่อพัฒนาพื้นที่บริเวณถนนตามผังเมืองสาย ข7 อำเภอพิบูลมังสาหาร จังหวัด อุบลราชธานีโดยระบุว่าโครงการจัดรูปที่ดินฯ เป็นช่องทางที่ทุกคนสามารถเข้ามามีส่วนช่วยในการขับเคลื่อนการพัฒนาท้องถิ่นพัฒนาเมือง และพัฒนาประเทศร่วมกันได้
ด้วยรูปแบบของ “หุ้นส่วนการพัฒนา” ที่ดินในเมืองที่สามารถออกแบบการพัฒนาพื้นที่ได้ตรงตามความต้องการของพี่น้องประชาชน เสริมสร้างศักยภาพของชุมชนให้ท้องถิ่นเติบโต และส่งผลถึงอนาคตเมืองที่ยั่งยืน
นายพงศ์รัตน์ ภิรมย์รัตน์ อธิบดีกรมโยธาธิการและผังเมือง กล่าวว่า สำนักงานโยธาธิการและผังเมืองจังหวัดอุบลราชธานีร่วมกับเทศบาลเมืองพิบูลมังสาหารและเทศบาลตำบลกุดชมภู ดำเนินโครงการจัดรูปที่ดิน
เพื่อพัฒนาพื้นที่ในเขตผังเมืองรวมเมืองพิบูลมังสาหาร บริเวณถนนตามผังเมืองสาย ข7 อำเภอพิบูลมังสาหาร บนพื้นที่โครงการ 96 - 2 - 87.90 ไร่ แปลงที่ดิน 16 แปลง เจ้าของที่ดิน 13 ราย
กรมโยธาธิการและผังเมืองจัดสรรงบประมาณ 24,742,000 บาท เพื่อก่อสร้างถนนตามผังเมืองสาย ข7 ทำหน้าที่เชื่อมโยงถนนสถิตย์นิมานกาล หรือทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 217 กับถนนเลี่ยงเมืองพิบูลมังสาหาร ขนาดเขตทาง 15 เมตร ระยะทาง 670 เมตร พร้อมระบบระบายน้ำ ขยายเขตไฟฟ้า ประปา ก่อสร้างสะพานข้ามลำห้วยซัน 1 แห่ง
เจ้าของที่ดินได้จัดหางบประมาณจากการจำหน่ายที่ดินจัดหาประโยชน์ มาสนับสนุนการก่อสร้างถนนสายรอง เขตทาง 6 เมตร ระยะทาง 315 เมตร และท่อลอดเหลี่ยมข้ามห้วยซัน 1 แห่ง พร้อมระบบระบายน้ำ 1,672,676 บาท
เมื่อโครงการแล้วเสร็จนอกจากที่ดินในโครงการจะมีถนน ไฟฟ้า ประปา เข้าถึงทุกแปลงแล้ว ยังช่วยให้พี่น้องประชาชนในพื้นที่ตำบลกุดชมภูและตำบลพิบูลเดินทางไปมาหาสู่กันได้ การเดินทางสะดวกและปลอดภัย ถนนสาธารณะมีไฟฟ้าส่องสว่าง มูลค่าที่ดินเพิ่มสูงขึ้น แม้ที่ดินจะมีขนาดเนื้อที่น้อยกว่าเดิมเล็กน้อย
โดยราคาที่ดินก่อนดำเนินการไร่ละ 3.2 ล้านบาท หลังดำเนินการราคาเพิ่มขึ้นเป็นไร่ละ 6.4 ล้านบาท และจังหวัดอุบลราชธานียังได้พื้นที่สาธารณะเพิ่มขึ้นจากที่เจ้าของที่ดินสละให้สร้างถนนจำนวน 5 - 3 - 86.26 ไร่ ช่วยรัฐประหยัดงบประมาณเวนคืนที่ดินกว่า 19.09 ล้านบาท
ชาวเมืองพิบูลมังสาหารได้ใช้ประโยชน์ร่วมกันกว่า 1.3 แสนราย ไม่รวมนักท่องเที่ยวที่ได้ใช้ถนนเป็นทางสัญจรเข้าถึงของดีเมืองพิบูลมังสาหาร ช่วยให้เม็ดเงินจากนักท่องเที่ยวกระจายลงพื้นที่มากขึ้น