นายวรเดช รุกขพันธุ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท วี บียอนด์ ดีเวลอปเม้นท์ จำกัด ธุรกิจที่ปรึกษาและให้บริการด้านอสังหาริมทรัพย์แบบครบวงจร ซึ่งมีโมเดล ธุรกิจรูปแบบใหม่ สร้าง“แพลตฟอร์ม” เพื่อการซื้อ-ขาย-ลงทุน ที่สะดวกสบายบนโลกออนไลน์แค่เพียงปลายนิ้วสัมผัส ปัจจุบันประสบความสำเร็จอย่างสูง สะท้อนจากการได้ร่วมงานกับบริษัทอสังหาริมทรัพย์แบรนด์ชั้นนำที่ให้ความไว้วางใจเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง
ล่าสุด นายวรเดช ระบุว่า ได้ ร่วมมือทางธุรกิจกับ บริษัท เอพีเอส บิซ ทาวน์ จำกัด ให้เป็นผู้บริหารงานขาย โครงการ Alive Sukhumvit 76 แบบ Exclusive โดยมีมูลค่าโครงการกว่า 1,150 ล้านบาท ซึ่งเป็นคอนโดใหม่ Low-Rise 8 ชั้น 2 อาคาร
จุดเด่น ใกล้รถไฟฟ้าสายสุขุมวิท (แบริ่ง-สำโรง) ใกล้ทางด่วนกาญจนาภิเษก และทางด่วนบูรพาวิถี ใกล้ศูนย์การค้าและย่านธุรกิจ พร้อมจัดเต็มทุกฟังก์ชันและดีไซน์ ตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์ของคนรุ่นใหม่ Facility ครบครัน ทั้งสระว่ายน้ำ ฟิตเนส และสวนดาดฟ้า ในราคาเริ่มต้นเพียงล้านกว่าบาท ซึ่งเราคาดการณ์ว่าจะเกิดยอดขายรวมจากโครงการนี้ไม่ต่ำกว่า 700 ล้านบาท
นอกจากนี้วีบียอนด์ยังเตรียมขยายความร่วมมือในการบริหารงานขายโครงการอื่นๆ ของ บริษัท เอพีเอส บิซ ทาวน์ จำกัด อีกมากมาย เพราะมีสินค้าที่หลากหลาย ทั้งทาวน์โฮม บ้านเดี่ยว บ้านแฝด และคอนโดมิเนียม ที่มีทำเลที่ตั้งในเขตชุมชนเมือง ใกล้ศูนย์การค้า ย่านธุรกิจ สามารถเดินทางได้สะดวก และเน้นแบบบ้านที่ตรงกับความต้องการของผู้บริโภคในแต่ละกลุ่ม ผมเชื่อว่าจากความร่วมมือทางธุรกิจในครั้งนี้และในโปรเจ็กต์ต่อๆ ไปในอนาคตจะสร้างรายได้ให้วีบียอนด์อีกหลายหมื่นล้านบาทอย่างแน่นอน
ที่ผ่านมา วีบียอนด์ ได้รับความร่วมมือทางธุรกิจร่วมกับ บริษัท ชาญอิสสระ ดีเวล็อปเมนท์ จำกัด (มหาชน) นักพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ชั้นแนวหน้าของไทย และบริษัท ไอเอฟซีจี จำกัด นายหน้าอสังหาริมทรัพย์เพื่อการลงทุน สร้างปรากฎการณ์ครั้งใหม่ให้กับวงการอสังหาริมทรัพย์ พร้อมโอกาสในการขยายฐานธุรกิจเพื่อการเติบโตร่วมกันอย่างยั่งยืน เมื่อวันจันทร์ที่ 29 พฤษภาคม 2566 ที่ผ่านมา ณ ห้องประชุมสาทร ชั้น M อาคารเอ็มไพร์ทาวเวอร์ สาทร
ภายในงานได้รับเกียรติจากแขกผู้มีเกียรติหลากหลายวงการ อาทิ ดีเวลลอปเปอร์ชั้นนำระดับประเทศ, นักลงทุน, พันธมิตรทางธุรกิจ และสื่อมวลชนแขนงต่างๆ ทั้งนี้ยังได้รับเกียรติจากนายชเยนทร์ คำนวณ ประธานกรรมการ บริษัท วี บียอนด์ ดีเวลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) และนายชัชวาลย์ เจียรวนนท์ ประธานกรรมการบริษัทไอเอฟซีจี จำกัด ร่วมเป็นสักขีพยานในงานนี้ด้วย โดย CEO ทั้ง 3 บริษัทได้ร่วมเสวนาในหัวข้อโอกาสทางธุรกิจและประโยชน์ต่อผู้บริโภคจากความร่วมมือในครั้งนี้ จากนั้นได้มีพิธีลงนาม (MOU) ลำดับแรกระหว่าง บริษัท วี บียอนด์
มีธุรกิจหลักคือการเป็นโบรกเกอร์อสังหาริมทรัพย์แบบครบวงจร ซึ่งตอนนี้เรามีพันธมิตรทางธุรกิจที่เป็น Developer ชั้นนำมากกว่า 50 แบรนด์ มีสินค้าอสังหาฯในสต็อคให้ลูกค้าเลือกซื้อมากกว่า 300 โครงการ และมีแผนขยายธุรกิจสู่บ้านมือสองเพื่อรองรับตลาดทุก Segment พร้อมตั้งเป้าสร้าง Market share ให้ได้ 5% จากมูลค่าตลาดรวมกว่า 9 แสนล้านบาท
นอกจากนี้ วีบียอนด์ ยังมีแผนจะขยายธุรกิจสู่กลุ่ม Tech Company อย่างเต็มรูปแบบ ชูจุดเด่นด้วยระบบ AI อัจฉริยะสุดล้ำ ทั้งแพลตฟอร์ม Property mall ที่ตอบโจทย์ทุกความต้องการเรื่องอสังหาริมทรัพย์ ทั้งซื้อ ขาย เช่า ซ่อม สร้าง ตกแต่ง และลงทุน พร้อมนำเสนอสินค้าและบริการที่ตรงใจผู้บริโภคด้วยระบบค้นหาตัวตนอัจฉริยะ ซึ่งกำลังจะมีงานแถลงข่าวเปิดตัวอย่างเป็นทางการเร็วๆนี้ และกลุ่มธุรกิจ Health Tech
วีบียอนด์ ได้เล็งเห็นโอกาสทางธุรกิจด้านนี้ที่เป็นเทรนด์ในอนาคต และคาดว่าจะสร้างรายได้อย่างมหาศาล จึงได้มีการศึกษาและวิจัยการลงทุนพร้อมรุกตลาดโดยเร็วเพื่อช่วงชิงโอกาสทางธุรกิจ โดยคณะกรรมการบริษัทได้มีมติอนุมัติการลงทุนในโครงการต่างๆ เป็นที่เรียบร้อย และคาดการณ์ว่าอีก 5 ปี ข้างหน้า กลุ่มบริษัทวีบียอนด์จะมีอัตราการเติบโตแบบก้าวกระโดด และมีรายได้ทยานแตะ10,000 ล้านบาท อย่างแน่นอน