แม้บริษัท อนันดา ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) หรือ ANAN จะเจอมรสุมครั้งใหญ่ ศาลปกครองสูงสุดมีคำพิพากษายืนตามศาลปกครองกลางสั่งเพิกถอนใบอนุญาตก่อสร้าง “แอชตันอโศก” แต่เชื่อว่า ทุกอย่างจะผ่านพ้นไปได้จากแนวทางแก้ไขของ “อนันดา” และจากการร่วมมือของหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
ทันทีที่เกิดเหตุการณ์ “คีย์แมน” คนสำคัญ นายประเสริฐ แต่ดุลยสาธิต ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร สายงานธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ ANAN ได้ ออกแถลงการณ์ น้อมรับคำสั่งศาลฯและเร่งหาทางออกให้ลูกบ้านทันทีภายใน 14วัน หรือ ครบกำหนดวันที่23 สิงหาคม2566 ประกอบด้วย
1.ยื่นขอใบอนุญาตก่อสร้างใหม่ โดยการซื้อหรือหาที่ดินเพิ่มเติม
2.เสนอให้หน่วยงานภาครัฐแก้ไขกฎหมายที่เกี่ยวข้องผ่านสำนักการโยธา กทม.ไปยังกรมโยธาธิการและผังเมือง กระทรวงมหาดไทย เพื่อส่งต่อไปยังคณะรัฐมนตรี (ครม.)
3.เสนอให้หน่วยงานภาครัฐแก้ไขกฎหมายที่เกี่ยวข้องผ่าน รฟม. เสนอผ่านกระทรวงคมนาคม ไปยัง คณะรัฐมนตรี(ครม.)
4.ประสานเจ้าของเดิมให้ยื่นทบทวนสิทธิที่ดินทางเข้า-ออกจาก รฟม. ให้ทบทวนสิทธิที่ดินเดิมก่อนเวนคืน ควรให้สิทธิทางเข้า-ออกอย่างน้อย 12-13 เมตร เพื่อให้สามารถขึ้นอาคารสูงและขนาดใหญ่พิเศษได้
5.ยื่นคำร้องต่อศาลปกครองเพื่อขอให้พิจารณาพิพากษาคดีใหม่
พาองค์กรโตไปข้างหน้า
ขณะยุทธศาสตร์การนำอนันดาฯ เติบโตในตลาดอสังหาริมทรัพย์ยังคงเดินหน้าอย่างเข้มข้น ท่ามกลางความท้าทายรอบด้าน ทั้งเศรษฐกิจ การเมืองไม่เสถียร ยังตั้งรัฐบาลไม่ได้ ในการนี้ นายประเสริฐ ให้สัมภาษณ์พิเศษ “ฐานเศรษฐกิจ” โดยเล่าเรื่องราวเกี่ยวกับ ตลาดอสังหาริมทรัพย์ ให้ฟังอย่าน่าสนใจว่า มีสามปรากฏการณ์ ที่ส่งผลกระทบและสร้างโอกาส เริ่มจาก ปรากฎการณ์แรก
“Unseen Impact” การเมือง ที่ยังไม่สามารถจัดตั้งรัฐบาลได้ ส่งผล กระทบดีมานด์ไตรมาส3 ต่างรอดูสถานการณ์ว่าจะเกิดเหตการณ์รุนแรงหรือไม่ ลูกค้าต่างชาติรายใหญ่ๆ ที่จะโอนกรรมสิทธิ์ ชะลอออกไป ลูกค้าจีนยังไม่เปิดประเทศเต็ม100% ขณะไทยไม่มีรัฐบาลขับเคลื่อนทำให้ลูกค้าต่างชาติ “รอและก็รอ”
ซ้ำร้ายตลาดคนไทยยังมีความเปราะบางสถาบันการเงินปฏิเสธสินเชื่อ อัตราดอกเบี้ยที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว 4-5ครั้ง ทำให้มีต้นทุนทั้งฝั่งซัพพลายและดีมานด์ เกิดขึ้นโดยทุก 1% ดีมานด์จะลดลง8% อัตราการผ่อนถ้าดอกเบี้ยขึ้น1% อนุมัติวงเงิน 1 ล้านบาทจะเหลือเพียง 9.2แสนบาท ผู้ประกอบการได้รับผลกระทบต้นทุนโปรเจ็กต์ เพิ่มขึ้น 1-2%
ถ้าดอกเบี้ยขึ้น 1% มีผลกระทบต้นทุนโครงการประมาณ10% คอนโทรล มาจิ้น รวมแล้ว 12% จากดอกเบี้ยที่เพิ่ม 1% เพราะดอกเบี้ยขึ้นก็เป็นต้นทุนของผู้ประกอบการ และผู้ประกอบการ ต้องผลักให้ผู้บริโภคนี่คือเหตุปัจจัยที่คาดไม่ถึง หรือ “Unseen Impact” ในช่วง5เดือนแรก ของปีนี้มีผลต่อไตรมาส 3 ต่อไตรมาส 4
กรุงเทพฯ เมืองอสังหาฯของโลก
นายประเสริฐสะท้อนตัวเลข 5 เดือน (มกราคม-มิถุนายน2566) อย่างน่าสนใจว่า มีชาวต่างชาติโอนกรรมสิทธิ์กับกรมที่ดิน 13,900 ล้านบาท โต 33% เมื่อเทียบช่วงเดียวกันปี 65 ที่ 9,000ล้านมองว่า ในภาพรวมกลับโต 2% โดยไม่ติดลบเพราะ ได้กำลังซื้อต่างชาติพยุง หากการเมืองมีเสถียรภาพ รัฐบาลขับเคลื่อนเศรษฐกิจภายในปลายเดือนสิงหาคม กันยายนนี้
เชื่อว่า ไตรมาส 4 การกลับเข้ามาโอนกรรมสิทธิ์ของลูกค้าต่างชาติ การซื้อคอนโดมิเนียมของคนต่างชาติ ปรากฏการณ์ที่สอง “Bangkok In The Global Property” กรุงเทพฯเป็นเมืองอสังหาฯของโลกไปแล้ว ต่างชาติสนใจอยู่อาศัยและลงทุน ที่จะชดเชยตลาดคนไทยที่กำลังซื้อชะลอตัว
เมกะโปรเจ็กต์ พลิกโฉมกทม.
ปรากฏการณ์ที่สาม “ Big Change of the Bangkok” นายประเสริฐ มองว่ากรุงเทพฯ กำลังจะมีการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่จากเมกะโปรเจ็กต์ ของภาคเอกชนที่กำลังเกิดขึ้น 3 ปีข้างหน้า บนถนนพระราม 4 ไม่ว่าจะเป็นวันแบงค็อก ดุสิต เซ็นทรัล พาร์ค และอีกหลายโครงการขนาดใหญ่ของภาคเอกชน เกิดขึ้นในทำเลกลางใจเมือง
“จะมีหลายโปรเจ็กต์บนถนนพระราม4 โปรเจ็กต์ใหญ่ไม่ว่าจะเป็นหลังสวน ราชดำริ วิทยุ ด้วยตรงนี้จะเป็น พลิกโฉมให้กรุงเทพมีการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ในเวลาอีก 3 ปี ข้างหน้า จากการลงทุนนับหลายแสนล้านบาท”
จุดนี้ทำให้กรุงเทพฯเปลี่ยนนายประเสริฐ ตั้งข้อสังเกตว่าเหตุใด “วันแบงค็อก” มีการลงทุนโรงแรม 4-5อาคารในคลัสเตอร์ เดียวกัน จะเอาคนไทยที่ไหนไปพัก แน่นอนว่าต้องต่างชาติเท่านั้น และนี่คือสิ่งที่กรุงเทพฯจะเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ในอีก 3 ปีข้างหน้า
“ไม่เห็น-ไม่ครบ-ไม่ซื้อ”ดูดต่างชาติ
หลังจากครึ่งปีแรกประสบความสำเร็จจากแคมเปญ ต่างๆที่นำมาสร้างสรรค์กระตุ้นกำละงซื้อแล้ว เป้าหมายครึ่งปีหลัง ในไตรมาส 3 หลัง รอดูสถานการณ์ในระดับหนึ่ง ในไตรมาสเตรียมขยับเปิดตัวโครงการใหม่ เหตุผลไตรมาส 3 บริษัท มีแคมเปญ ที่ต่างชาติเข้ามา และมีความต้องการโอนกรรมสิทธิ์ เพิ่มขึ้นกว่า 30% แสดงว่าเขาต้องการซื้อและเข้าอยู่ได้เลย โดยเฉพาะตลาดจีนต้องการซื้อและหิ้วกระเป๋าเข้าอยู่ บริษัทจึงออกแคมเปญ “ไม่เห็น-ไม่ครบ-ไม่ซื้อ” เพื่อเข้ากับเทรนด์ต่างชาติ หลัง “ขี่คลื่น” ดีมานด์ต่างชาติครึ่งปีแรก 33% เห็นสัญญาณบวกที่ดีของกำลังซื้อต่างชาติ ในครึ่งปีหลังที่จะเข้ามาหลังการเมืองที่นิ่งอีกมาก
“ต่างชาติต้องการอยู่เลยไม่ต้องการรอ 2-3 ปีข้างหน้า สะท้อนจากยอดโอน ต่างชาติโตจาก 5 เดือนแรกของปีที่แล้วประมาณ 33% ตลาดจีนโตประมาณ 57% ยอดโอนที่กรมที่ดินสะท้อนออกมาก็จะใช้กระแสนี้ ขี่คลื่นเอาคอนโดมิเนียมมาสร้างความแตกต่าง เป็นคอนโดมิเนียมพร้อมเข้าอยู่ทุกโครงการ มั่นใจว่านับจากนี้ จะสามารถทำให้ตลาดต่างชาติโตได้อีกกว่า10%