ASW  ลุยเปิด6 โครงการ11,760 ล้าน  หลังคว้ากำไร ครึ่งแรกปี67  849 ล้าน โต93% 

18 ส.ค. 2567 | 05:39 น.
อัปเดตล่าสุด :18 ส.ค. 2567 | 05:49 น.

ASW  เดินหน้าครึ่งปีหลัง ประกาศปักหมุด6โครงการ 11,760 ล้าน มองหาโอกาสทางธุรกิจ “Health & Wellness “เจาะกลุ่มคนรักสุขภาพหลัง ครึ่งแรกปี67 คว้ากำไร New High  849 ล้าน เติบโต 93%

 

ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ประกาศแผนลงทุนโครงการใหม่ต่อเนื่อง ในช่วงครึ่งปีหลัง2567 แต่เป็นไปอย่างระมัดระวังท่ามกลางกำลังซื้อหดตัวจากหนี้ครัวเรือนที่พุ่งสูง

มีเป้าหมายสร้างรายได้ ผลกำไรเติบโตอย่างแข็งแกร่งโดยใช้กลยุทธ์ทางการตลาดและน่านน้ำใหม่ตอบโจทย์ความต้องการผู้บริโภค เช่นเดียวกับ บริษัท แอสเซทไวส์ จำกัด (มหาชน) หรือ ASW เปิดแผนในช่วงครึ่งปีหลังของปี 2567 สร้างการเติบโตอย่างต่อเนื่อง

เปิด6โครงการครึ่งปีหลัง

 

นายกรมเชษฐ์ วิพันธ์พงษ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร  ASW   แอสเซทไวส์ยังคงเดินหน้าตามแผน The New Frontiers มุ่งสร้างการเติบโตอย่างยั่งยืนและมั่นคงในทุกมิติ ด้วยการเปิดตัวโครงการคอนโดมิเนียมและแนวราบใหม่ ในกรุงเทพมหานคร เขตเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก หรือ  EEC และภูเก็ตจำนวน 6 โครงการ มูลค่ารวม 11,760 ล้านบาท

โดยในไตรมาส 3/2567 ได้เปิดการขายโครงการแนวราบ 2 โครงการ ได้แก่ โครงการดิ อาเบอร์ รามอินทรา-วัชรพล มูลค่าโครงการ 1,500 ล้านบาท บ้านเดี่ยวแนวคิดใหม่สไตล์ครีเอทีฟโมเดิร์นท่ามกลางบรรย ใกล้ทางด่วนฉลองรัช (รามอินทรา-อาจณรงค์) เริ่มต้น 8.99 ล้านบาท และโครงการฌาน เดอะ ริเวอร์ไซด์ บรมราชชนนี มูลค่าโครงการ 1,800 ล้านบาท

 

 

โครงการบ้านเดี่ยวทำเลริมแม่น้ำท่าจีน ราคาเริ่มต้น 15-30 ล้านบาท ซึ่งได้รับกระแสตอบรับเป็นอย่างดีจากลูกค้า รวมถึงเตรียมเปิดตัวโครงการเรือธง อย่างโครงการอควารัส จอมเทียน พัทยา โครงการคอนโดมิเนียมหรู ใกล้หาดจอมเทียน มูลค่ากว่า 4,500 ล้านบาท ในช่วงไตรมาสสุดท้ายของปี

ขณะเดียวกันยังแสวงหาโอกาสใหม่ทางธุรกิจเพื่อสร้างรายได้ต่อเนื่อง ด้วยการขยายธุรกิจใหม่ที่มีศักยภาพ คือ ธุรกิจ Health & Wellness เจาะกลุ่มคนรักสุขภาพ ตั้งเป้าหมายเปิด “ร็อคเก็ตฟิตเนส”  ฟิตเนส

ทางเลือกใหม่ในทำเลเข้าถึงง่ายและ“ไวทาลา”คลินิกกายภาพบำบัดและฟื้นฟูร่างกาย รวม 4 แห่งภายในสิ้นปีนี้ โดยจะเปิดให้บริการในคอมมูนิตี้มอลล์“มิงเกิ้ล”และโครงการของบริษัทเพื่อให้เติบโตไปพร้อมกับธุรกิจรีเทลและคอมมูนิตี้มอลล์

สำหรับ ผลการดำเนินงานไตรมาส 2/2566 (เมษายน - มิถุนายน 2567) บริษัทสามารถทำรายได้รวม 2,884 ล้านบาท และกำไรสุทธิ 593 ล้านบาท เติบโตขึ้นจากไตรมาสที่ผ่านมา (QoQ) ถึง 64% และ 131% ตามลำดับ

ส่งผลให้ผลการดำเนินงานครึ่งแรกปี 2567 (ม.ค.-มิ.ย. 2567) บริษัทสามารถสร้างสถิติใหม่ มีรายได้รวมทั้งสิ้น 4,642 ล้านบาท เติบโตขึ้น 54% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน (YoY) และมีกำไรสุทธิสำหรับงวด 6 เดือนอยู่ที่ 849 ล้านบาท เติบโตจากช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา 93% ถือเป็นรายได้และกำไรสุทธิงวดครึ่งแรกของปีที่สูงที่สุดนับตั้งแต่ก่อตั้งบริษัท (New High)

เนื่องจากในช่วง 6 เดือนแรก บริษัทสามารถโอนโครงการสร้างเสร็จใหม่ได้ตามแผนที่ตั้งไว้ และรับรู้รายได้ผ่านโครงการสร้างเสร็จใหม่ได้อย่างต่อเนื่อง โดยโครงการที่เป็นไฮไลท์ของการโอนในช่วงที่ผ่านมาได้แก่ โครงการเคฟ ทาวน์ ไอส์แลนด์

โครงการแคมปัสคอนโด ใกล้ ม.กรุงเทพ จำนวน 1,770 ยูนิต มูลค่า 3,500 ล้านบาท ซึ่งปัจจุบันทำยอดขายได้แล้วถึง 99% และโครงการเดอะ ไทเทิล ฮาโล 1 โครงการ Leisure Condominium ใกล้สนามบินภูเก็ต จำนวน 329 ยูนิต มูลค่า 1,537 ล้านบาท

มียอดขายแล้วกว่า 93% โดยทั้ง 2 โครงการจะทยอยโอนกรรมสิทธิ์ต่อเนื่อง และเป็นแรงหนุนสำคัญในไตรมาส 3/2567 เช่นกัน ทั้งนี้ในส่วนของยอดขายพรีเซล บริษัทยังสามารถกวาดยอดขายในครึ่งปีแรกไปได้ถึง 10,730 ล้านบาท เติบโต 35% เมื่อเทียบกับช่วงครึ่งแรกของปี 2566 โดยมีปัจจัยสนับสนุนหลักจากการเปิดตัวโครงการ Leisure Condominium ในทำเลภูเก็ต

ภายใต้การพัฒนาของบริษัท ร่มโพธิ์ พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) หรือ TITLE บริษัทย่อยในเครือแอสเซทไวส์ จำนวน 2 โครงการ มูลค่ารวม 10,000 ล้านบาท คือ โครงการเดอะ ไทเทิล เฮอริเทจ บางเทา  จำนวน 789 ยูนิต และโครงการเดอะ ไทเทิล เซเรนิตี้ ในยาง  จำนวน 814 ยูนิต ที่ได้รับกระแสตอบรับดีและมียอดขายเป็นที่น่าพึงพอใจ

ขณะ ทริสเรทติ้งได้ปรับแนวโน้มอันดับเครดิตอันดับความน่าเชื่อถือของแอสเซทไวส์จาก “BBB-” แนวโน้ม “คงที่” (Stable) ขึ้นมาอยู่ที่ระดับ “BBB-” แนวโน้ม “เป็นบวก” (Positive) จากภาพรวมที่แข็งแกร่งของบริษัท และผลการดำเนินงานที่รักษาระดับการเติบโตได้อย่างมั่นคง ทั้งยอดขาย รายได้ และกำไรสุทธิ โดย ณ สิ้นไตรมาส 2/2567 บริษัทมียอดขายรอรับรู้รายได้ (Backlog) ทั้งสิ้นประมาณ 23,678 ล้านบาท ซึ่งจะสามารถรับรู้ไปได้ถึงปี 2569

 

าพบำบัดและฟื้นฟูร่างกาย รวม 4 แห่งภายในสิ้นปีนี้ โดยจะเปิดให้บริการในคอมมูนิตี้มอลล์ “มิงเกิ้ล” (Mingle) และโครงการของบริษัทเพื่อใ