"มหาเศรษฐี"อังกฤษเตรียมอพยพหนีภาษีใหม่ ตลาดอสังหาฯ หรูลอนดอนส่อวูบ

21 ก.ย. 2567 | 23:19 น.
อัพเดตล่าสุด :21 ก.ย. 2567 | 23:26 น.

ความเคลื่อนไหวล่าสุดของพรรคแรงงานอังกฤษในการยกเลิกระบบภาษี "non-dom" อาจส่งผลให้เกิดการอพยพครั้งใหญ่ของมหาเศรษฐีออกจากสหราชอาณาจักร ส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจและตลาดอสังหาริมทรัพย์ระดับหรูของประเทศ

ซีเอ็นบีซี รายงานว่าจากผลการศึกษาล่าสุดของ Oxford Economics ร่วมกับกลุ่ม Foreign Investors for Britain พบว่าเกือบ 2 ใน 3 หรือ 63% ของนักลงทุนที่มั่งคั่งวางแผนที่จะออกจากสหราชอาณาจักรภายในสองปีหรือในเร็วๆ นี้ หากมีการยกเลิกสถานะ non-dom

ขณะที่ 67% ระบุว่าพวกเขาจะไม่เลือกย้ายเข้ามาในอังกฤษตั้งแต่แรกหากไม่มีสิทธิประโยชน์ทางภาษีนี้

ระบบภาษี non-dom ที่มีมาตั้งแต่ยุคอาณานิคม อนุญาตให้ผู้ที่อาศัยในสหราชอาณาจักรแต่มีภูมิลำเนาอยู่ที่อื่นสามารถหลีกเลี่ยงการจ่ายภาษีจากรายได้และผลกำไรจากทุนในต่างประเทศได้นานถึง 15 ปี โดยปัจจุบันมีผู้ได้รับสิทธินี้ราว 74,000 คน เพิ่มขึ้นจาก 68,900 คนในปีก่อนหน้า

Rachel Reeves รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังเงาของพรรคแรงงาน คาดการณ์ว่าการยกเลิกโครงการนี้จะสร้างรายได้ให้รัฐถึง 2.6 พันล้านปอนด์ (ราว 116,000 ล้านบาท) ตลอดช่วงรัฐบาลถัดไป

\"มหาเศรษฐี\"อังกฤษเตรียมอพยพหนีภาษีใหม่ ตลาดอสังหาฯ หรูลอนดอนส่อวูบ

อย่างไรก็ตาม ผลการศึกษาของ Oxford Economics กลับชี้ว่าการเปลี่ยนแปลงนี้อาจทำให้รัฐสูญเสียรายได้ถึง 1 พันล้านปอนด์ (ราว 44,600 ล้านบาท) ภายในปี 2029/30

Leslie Macleod-Miller ซีอีโอของ Foreign Investors for Britain แสดงความกังวลว่า "นี่เป็นช่วงเวลาที่อันตราย หากรัฐบาลไม่รับฟัง พวกเขาจะเสี่ยงต่อการสูญเสียรายได้สำหรับคนรุ่นต่อไป"

ขณะเดียวกัน หลายประเทศกำลังฉวยโอกาสนี้ในการดึงดูดนักลงทุนที่มั่งคั่ง โดยสวิตเซอร์แลนด์ โมนาโก อิตาลี กรีซ มอลตา ดูไบ และหมู่เกาะบาฮามาส กำลังเป็นจุดหมายปลายทางยอดนิยมสำหรับการย้ายถิ่นฐานของมหาเศรษฐีชาวอังกฤษ

\"มหาเศรษฐี\"อังกฤษเตรียมอพยพหนีภาษีใหม่ ตลาดอสังหาฯ หรูลอนดอนส่อวูบ

Helena Moyas de Forton จาก Christie's International Real Estate กล่าวว่า "นักลงทุนที่มั่งคั่งมีตัวเลือกมากมายตอนนี้ และมีหลายประเทศที่กำลังแย่งชิงพวกเขา" เธอมองว่าแผนของพรรคแรงงานเป็นเพียงหนึ่งในปัจจัยล่าสุดที่สั่นคลอนชื่อเสียงของสหราชอาณาจักรในฐานะแหล่งลงทุนที่ปลอดภัย

ผลกระทบเริ่มส่งถึงตลาดอสังหาริมทรัพย์ระดับหรูของลอนดอนแล้ว โดย Knight Frank รายงานว่าธุรกรรมในตลาดที่อยู่อาศัยระดับซูเปอร์ไพรม์ (มูลค่า 10 ล้านปอนด์ขึ้นไป) ลดลง 22% ในช่วงปีที่ผ่านมา โดยเฉพาะอสังหาริมทรัพย์ที่มีมูลค่าสูงกว่า 30 ล้านปอนด์ ซึ่งมีการขายเพียง 10 รายการ เทียบกับ 38 รายการในปีก่อนหน้า

James Myers จาก Oliver James บริษัทอสังหาริมทรัพย์หรูในลอนดอน เผยว่าลูกค้าประมาณ 30-40% กำลังลดราคาขายเพื่อเร่งระบายทรัพย์สิน โดยหลายรายเริ่มวางแผนย้ายไปยังโมนาโก ดูไบ และล่าสุดคืออิตาลี

อย่างไรก็ตาม Stuart Bailey จาก Knight Frank มองว่าสถานการณ์นี้อาจสร้างโอกาสให้กับนักลงทุนบางกลุ่ม โดยเฉพาะชาวอเมริกันที่อยู่ภายใต้ระบบภาษีทรัพย์สินทั่วโลกอยู่แล้ว และกลุ่มนักลงทุนที่พำนักในอังกฤษไม่เกิน 90 วันต่อปี ซึ่งอาจได้ประโยชน์จากการแข่งขันที่ลดลงในตลาด

ท่ามกลางความไม่แน่นอนนี้ ทั้งนักลงทุนและผู้เชี่ยวชาญต่างจับตาดูการเคลื่อนไหวของรัฐบาลอังกฤษอย่างใกล้ชิด โดยคาดว่าจะมีความชัดเจนมากขึ้นหลังการประชุมประจำปีของพรรคแรงงานและการแถลงงบประมาณฤดูใบไม้ร่วงในเดือนตุลาคมนี้

ที่มา: CNBC