นายวิชาญ วิริยะภูษิต ประธานผู้บริหารสายงานการเงิน บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) หรือ SIRI เปิดเผยว่า ภายใต้กลยุทธ์การบริหารงานที่มีประสิทธิภาพ ประกอบกับการกระตุ้นเศรษฐกิจจากมาตรการภาครัฐ ส่งผลให้แสนสิริสามารถสร้างผลประกอบการ 9 เดือนแรกได้อย่างแข็งแกร่ง
โดยยอดขายรวม 37,000 ล้านบาท คิดเป็น 71% ของเป้าหมายยอดขายทั้งปีที่ 52,000 ล้านบาท ซึ่งเติบโตจากช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา 10% ยิ่งไปกว่านั้น ยอดโอนกรรมสิทธิ์จากสินค้ากลุ่มคอนโดมิเนียมและแนวราบ ทะลุ 31,000 ล้านบาท คิดเป็น 72% ของเป้าหมายโอนทั้งปีที่ 43,000 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 15% จากปีก่อน
การเติบโตในตลาดเมืองท่องเที่ยวถือเป็นอีกหนึ่งแรงขับเคลื่อนสำคัญ โดยเฉพาะในภูเก็ต เชียงใหม่ และพัทยา ซึ่งทำยอดขายพุ่งสูงอย่างต่อเนื่อง โครงการบ้านเดี่ยวและคอนโดมิเนียมในเมืองท่องเที่ยวเหล่านี้ เช่น "แคนวาส เชิงทะเล" ในภูเก็ต และ "เวย์ โพธิสาร" ในพัทยา
มียอดขายพุ่งสูงและได้รับการตอบรับที่ดีจากกลุ่มลูกค้าชาวต่างชาติ โดยเฉพาะชาวรัสเซียและยุโรป รวมถึงโครงการ “เศรษฐสิริ รวมโชค” และ “อณาสิริ พายัพ” ในเชียงใหม่ ซึ่ง Sold Out ทั้งสองเฟสไปอย่างรวดเร็วในช่วงพรีเซลล์
ในส่วนของการโอนกรรมสิทธิ์ แสนสิริสามารถโอนคอนโดมิเนียมได้ถึง 5 โครงการในไตรมาส 3 รวมถึงโครงการแบรนด์ "ดีคอนโด" ที่เจาะทำเลใกล้มหาวิทยาลัยและแหล่งงานสำคัญ อาทิ "ดีคอนโด เวล" ติด ม.เกษตรฯ ศรีราชา และ "ดีคอนโด แซนด์" ในหาดใหญ่
โดยแต่ละโครงการมีส่วนกลางครบครัน ตอบโจทย์กลุ่มนักลงทุนและผู้อยู่อาศัยด้วยราคาเริ่มต้นต่ำเพียง 1.49 ล้านบาท โครงการเหล่านี้ยังให้ผลตอบแทนสูงถึง 8-10% ต่อปี เหมาะกับนักลงทุนที่มองหาผลตอบแทนที่ดีในตลาดอสังหาฯ
ในไตรมาสสุดท้ายของปี 2567 แสนสิริมีแผนเปิดตัว 16 โครงการใหม่ มูลค่ารวมกว่า 15,500 ล้านบาท ซึ่งหนึ่งในไฮไลท์สำคัญคือโครงการลักซ์ชัวรีคอมมูนิตี้ "SANSIRI 10 EAST"
ซึ่งประกอบด้วยโครงการบ้านเดี่ยวระดับซูเปอร์ลักซ์ชัวรีจากแบรนด์ชั้นนำอย่าง บ้านแสนสิริ, สิริณสิริ, นาราสิริ และเศรษฐสิริ โดยโครงการนี้ตั้งอยู่บนพื้นที่กว่า 165 ไร่ มีมูลค่ารวมกว่า 18,000 ล้านบาท ถือเป็นแลนด์มาร์คใหม่ที่เตรียมเปิดตัวเร็วๆ นี้
ด้วยความเชี่ยวชาญและประสบการณ์ยาวนานกว่า 40 ปี แสนสิริยังคงรักษาคุณภาพและความน่าเชื่อถือ โดยล่าสุดได้รับรางวัล 11 สาขาจากเวที PropertyGuru Thailand Property Award 2024 ยืนยันความสำเร็จในการพัฒนาโครงการที่โดดเด่นและแตกต่าง นับตั้งแต่การสร้างโครงการที่พักอาศัยกว่า 500 โครงการทั่วประเทศกว่า 130,000 ยูนิต
แสนสิริยังมุ่งเน้นการพัฒนาอย่างยั่งยืน โดยให้ความสำคัญกับการบริหารงานด้าน ESG (Environmental, Social, Governance) พร้อมเดินหน้าพัฒนาโครงการใหม่ๆ อย่างต่อเนื่อง เพื่อตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้า และยืนยันความเป็นผู้นำอันดับหนึ่งในวงการอสังหาริมทรัพย์ไทย