AI พลิกเกมอสังหาฯ! พัฒนาโครงการ-บริการหลังการขาย ครอบคลุมทุกขั้นตอน

เทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ หรือ AI กำลังมีบทบาทสำคัญในอุตสาหกรรมอสังหาริมทรัพย์อย่างมีนัยยะสำคัญ ซึ่งจะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพและความแม่นยำในทุกกระบวนการตั้งแต่การพัฒนา การส่งมอบโครงการ จนถึงบริการลูกบ้านหลังการขาย

นายสุนทร สถาพร นายกสมาคมธุรกิจบ้านจัดสรร กล่าวว่า AI เป็นตัวเปลี่ยนเกมของวงการอสังหาริมทรัพย์ ยกตัวอย่างเช่น เมื่อก่อนสิ่งที่เข้ามาแทรกและเปลี่ยนแปลงสื่อหลักของอสังหาฯ คือการที่มีโซเชียลมีเดีย แต่ขณะนี้เทคโนโลยีได้พัฒนาไปมากกว่านั้น

คือการที่สามารถทำให้โซเชียลมีเดียเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้แม่นยำมากขึ้น และสามารถลดต้นทุนในการทำการตลาด เพราะสามารถทำได้อย่างเฉพาะเจาะจงและเรียนรู้พฤติกรรมของกลุ่มเป้าหมาย

ดังนั้น เรื่องของ AI นอกจากจะครอบคลุมการตลาดแล้ว ยังรวมไปถึงกระบวนการผลิตตั้งแต่เริ่มต้นพัฒนาโครงการ จนถึงการบริการหลังการขาย เช่น การเลือกขนาดที่เหมาะสม การตรวจสอบประวัติที่ดิน

ซึ่งระบบฐานข้อมูลที่ดีเหล่านี้ก็จะสามารถช่วยผู้พัฒนาอสังหาฯ ให้ตัดสินใจได้ดียิ่งขึ้น โดย AI จะเข้ามาช่วยประมวลผลข้อมูล และจะวิเคราะห์ให้มากยิ่งกว่าวิธีการการตรวจสอบข้อมูลเบื้องต้นที่เคยใช้กันมา และยังช่วยให้เข้าถึงลูกค้ากลุ่มเป้าหมาย และตอบโต้กันได้ดียิ่งขึ้นกว่าในอดีต

ทางสมาคมธุรกิจบ้านจัดสรรจึงอยากที่จะผลักดันเรื่องนี้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเรื่องของเทคโนโลยีการทำมาร์เก็ตติ้ง ซึ่งจะครอบคลุมและก้าวหน้ายิ่งกว่าการใช้เครื่องมือค้นหา (Search Engine) แบบเดิม จึงเป็นสิ่งที่ทางสมาคมฯ อยากเผยแพร่ให้กับผู้ประกอบ ทั้งรายใหญ่หรือรายย่อย และได้มีส่วนในการพัฒนาศักยภาพของวงการอสังหาริมทรัพย์

นายวรรณเทพ หรูวิจิตร CEO บริษัท ไอคอน เฟรมเวิร์ค จำกัด ได้กล่าวถึงการนำ AI มาใช้ในทั้งกระบวนการพัฒนาธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ก้าวหน้ามากขึ้น ในกระบวนการพัฒนาและการทำการตลาด เทคโนโลยี AI ถูกนำมาใช้ตั้งแต่ขั้นตอนการจอง การทำสัญญา ไปจนถึงการจัดการชำระเงินและการตรวจสอบโครงการ

โดย AI Generative Analytics Dashboard จะช่วยวิเคราะห์พฤติกรรมและความต้องการของลูกค้าเพื่อปรับปรุงประสบการณ์การซื้อ และยังสามารถเก็บข้อมูลของลูกค้าในด้านอื่นๆ เพื่อนำไปวิเคราะห์ข้อมูลจับคู่ลูกค้าแต่ละรายกับแบงก์ที่เหมาะสม เพื่อลดปัญหาการปฏิเสธสินเชื่อ

นายวรรณเทพยังกล่าวอีกว่า AI ยังสามารถเก็บข้อมูลโครงการอื่นๆ ที่ลูกค้าอาจจะสนใจเพื่อนำมาวิเคราะห์ข้อมูลคู่แข่งได้ อีกทั้ง สามารถทำการตลาดที่เฉพาะเจาะจงให้กับคนที่มีสนใจความสนใจต่างกัน เช่น ลูกค้าสนใจเรื่องครัว เครื่องครัว และสามารถยิง Ads ที่เหมาะสมกับความสนใจของคนๆ นั้นได้

ขณะเดียวกัน AI Chatbot สามารถติดต่อและแก้ไขปัญหาให้กับลูกค้าได้เร็วขึ้น พร้อมการทัวร์โครงการเสมือนจริง (Virtual Reality) ที่ทำให้ผู้ซื้อสามารถเข้าถึงโครงการได้จากที่ใดก็ได้

ด้านนายสิทธิ เทียมเมฆา ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายพัฒนาผลิตภัณฑ์และเทคโนโลยี บริษัท เอเมทเวิร์คส์ จำกัด ยังเปิดเผยถึงการบริการลูกบ้านหลังการส่งมอบ ซึ่งเป็นจุดสำคัญที่ AI กำลังเปลี่ยนแปลงอย่างชัดเจน

โดยระบบ AI Chat Platform ที่ใช้ในการสื่อสารกับลูกบ้านช่วยให้การบริการเป็นไปอย่างราบรื่น ลูกบ้านสามารถติดต่อทีมงานได้ทันทีทุกช่วงเวลาผ่านแชทบอทที่เชื่อมต่อกับฐานข้อมูลส่วนตัว

รวมถึงยังเป็นการรวมข้อความของผู้ที่ติดต่อเข้ามาจากหลากหลายช่องทางของโซเชียลมีเดียไว้ในแพตฟอร์มเดียวกัน เพื่อความสะดวกสำหรับแอดมินในการตรวจสอบ และการตอบกลับ

ระบบยังสามารถแจ้งเตือนเรื่องสำคัญ เช่น การชำระค่าบำรุงรักษาหรือการส่งพัสดุ ทั้งยังสามารถจัดการโปรไฟล์ลูกบ้านและข้อเสนอพิเศษได้อย่างตรงจุด ซึ่งช่วยเพิ่มความพึงพอใจและการรักษาลูกบ้านในระยะยาวได้อย่างมีประสิทธิภาพ

AI จึงไม่เพียงช่วยลดต้นทุนและเวลาในกระบวนการต่างๆ ของธุรกิจอสังหาริมทรัพย์เท่านั้น แต่ยังสามารถสร้างประสบการณ์ที่ดีให้กับผู้บริโภคในทุกขั้นตอน ตั้งแต่การพัฒนาโครงการไปจนถึงการบริการหลังการขาย ทำให้สามารถสร้างประสบการณ์ใหม่ๆ และยกระดับธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ให้พัฒนาอย่างมีประสิทธิภาพต่อไปในอนาคต