ตลาดอสังหาริมทรัพย์ ช่วงโค้งสุดท้ายของปี2567 ยังคงซบเซาอย่างต่อเนื่อง ผู้ประกอบการต่างจัดกิจกรรมโปรโมชันส่งเสริมการตลาดอย่างต่อเนื่อง รับอานิสงส์ ธนาคารลดดอกเบี้ย รวมถึงมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจผ่านภาคอสังหาริมทรัพย์ของรัฐบาล
โดยเฉพาะ มาตรการลดหย่อยค่าธรรมเนียมการโอนและจดจำนอง สำหรับที่อยู่อาศัยราคาไม่เกิน7ล้านบาท ที่ช่วยจูงใจ คนมีกำลังซื้อ กลุ่มนักลงทุนซื้อบ้านและคอนโดมิเนียมมากขึ้น ขณะเดียวกัน มาตรการดังกล่าวกำลังจะหมดอายุลง (31 ธันวาคม2567) ซึ่ง3 สมาคมอสังหาริมทรัพย์ คาดว่า รัฐบาลแพทองธาร โดยกระทรวงการคลัง เร่งรัดผลักดัน ต่ออายุ มาตรการลดหย่อยค่าโอนและจดจำนองที่อยู่อาศัยออกไป
ขณะเดียวกัน ยังมีแพ็กเกจกระตุ้นตลาดอสังหาริมทรัพย์ ล็อตใหญ่อีกหลายรายการที่กระทรวงการคลังทยอยออกมาเพื่อนำเข้าสู่การพิจารณาของคณะรัฐมนตรี(ครม.) วันอังคารที่5พฤศจิกายนนี้
อย่างมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจผ่าน ภาคอสังหาริมทรัพย์ ของรัฐบาลประสบความสำเร็จ และได้รับผลตอบรับจากประชาชน ล่าสุดเตรียมเสนอ ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ออกมาตรการ “ซื้อ-แต่ง-ซ่อม-สร้าง” กระตุ้นภาคอสังหาริมทรัพย์วงเงิน 55,000 ล้านบาท
โดยแยกออกเป็น 2โครงการ ได้ แก่ 1.สินเชื่อซื้อ-สร้าง วงเงิน50,000ล้านบาท ดอกเบี้ยพิเศษ 5 ปี วงเงินกู้ไม่เกิน 3 ล้านบาท เพื่อซื้อที่ดินพร้อมอาคาร หรือคอนโดมิเนียม ปลูกสร้างบ้าน หรือซื้อที่ดินพร้อมปลูกบ้าน และสิ่งอำนวยความสะดวกเพื่อใช้ในการอยู่อาศัย 2. ซ่อม -แต่ง วงเงิน 5,000 ล้านบาท สินเชื่อ ดอกเบี้ยพิเศษ 3 ปี วงเงินกู้ไม่เกิน 1 แสนบาท เป็นสินเชื่อเพิ่มเพื่อต่อเติมหรือซ่อมแซมบ้าน หรือสิ่งอำนวยความสะดวกที่เกี่ยวข้องกับที่อยู่อาศัย
นายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวว่า นอกจาก สินเชื่อ“ซื้อ-แต่ง-ซ่อม-สร้าง”แล้ว อนาคตยังมีโครงการใหญ่ที่จะนำมาพัฒนากระตุ้นอสังหาริมทรัพย์ ชุด ใหญ่ขณะรายละเอียดยังรอสรุปอีกครั้ง
ส่วนโครงการสินเชื่อบ้านสำหรับกลุ่มแรงงานจำนวนหลายสิบล้านคนกำหนดอัตราดอกเบี้ยต่ำโดยร่วมมือกับกระทรวงแรงงาน วงเงิน10000ล้านทาท รวมถึงมาตรการต่ออายุ ลดค่าโอน และจดจำนอง เหลือรายการละ 0.01% การพูดคุยรอหารือร่วมกัน คาดว่า วันอังคารที่ 5 พฤศจิกายนนี้
ส่วน การผ่อนปรนมาตรการLTV (Loan to Value Ratio ) หรือ อัตราส่วนที่ธนาคารสามารถให้สินเชื่อได้ เมื่อเทียบกับราคาบ้านที่ซื้อ ที่ภาคเอกชนเสนอ และการผ่อนปรนการปล่อยสอนเชื่อ
ซึ่ง นายพิชัย รับข้อเสนอไปและรับปากจะนำไปพูดคุยกันอีกครั้ง
นายพรนริศ ชวนไชยสิทธิ์ นายกสมาคมอสังหาริมทรัพย์สะท้อนว่า ท่ามกลางตลอดอสังหาริมทรัพย์ยังไม่ฟื้นตัว ต้องการให้ ธนาคารแห่งประเทศไทย ลดดอกเบี้ยลงอีกครั้งรวมถึง การอัดฉีดมาตรการกระตุ้นธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ชุดใหญ่แบบจีน ซึ่งมีการปลดล็อกมาตรการLTV และลดดอกเบี้ย ปล่อยสินเชื่อสำหรับกลุ่มที่มีกำลังซื้อจริงเป็นต้น