แสนสิริ อัปเกรดแบรนด์! พร้อมเปิด “สราญสิริ แกรนเด” บ้านเดี่ยวพรีเมียม

บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) ได้ประกาศยกระดับแบรนด์ "สราญสิริ" หนึ่งในแบรนด์บ้านเดี่ยวที่ได้รับความนิยม และมีส่วนขับเคลื่อนรายได้ที่อยู่อาศัยแนวราบของแสนสิริ ซึ่งปัจจุบันมี 32 โครงการ ครอบคลุม 16 ทำเลศักยภาพทั่วประเทศ มูลค่ารวมกว่า 45,000 ล้านบาท

นับเป็นแบรนด์บ้านเดี่ยวพรีเมียมที่แสนสิริพัฒนาขึ้นเพื่อตอบสนองการอยู่อาศัยของครอบครัว โดยผสานฟังก์ชันการใช้งานและดีไซน์ที่ลงตัวอย่างต่อเนื่อง เพื่อสร้างสรรค์สภาพแวดล้อมการอยู่อาศัยที่มีคุณภาพ

นางสาวภัคพริ้ง การุญ ผู้ช่วยผู้อำนวยการฝ่ายการตลาดโครงการแนวราบ บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า โครงการ “สราญสิริ แกรนเด พุทธมณฑล สาย 3” ได้รับการพัฒนาภายใต้แนวคิด “Where The Love Expands: เพิ่มพื้นที่ความรัก…เพื่อทุกคน” 

ที่เน้นการออกแบบพื้นที่และฟังก์ชันให้สอดคล้องกับการใช้ชีวิตในครอบครัว พร้อมรองรับความต้องการของทุกเจเนอเรชัน ด้วยการออกแบบที่เรียบง่าย อบอุ่น และทันสมัย ตอบโจทย์ความต้องการของกลุ่มลูกค้าครอบครัวขนาดใหญ่

โครงการประกอบด้วยบ้านเดี่ยว 2 รูปแบบใหม่ ได้แก่ แบบบ้าน River บนพื้นที่ 290 ตร.ม. ฟังก์ชัน 4 ห้องนอน, 5 ห้องน้ำ, ห้องนั่งเล่น, Family Area, ห้องอเนกประสงค์ และจอดรถได้สูงสุด 6 คัน

และแบบบ้าน Luna ขนาด 264 ตร.ม. ฟังก์ชัน 4 ห้องนอน, 4 ห้องน้ำ, ห้องนั่งเล่น, Family Area และจอดรถได้ 3 คัน โดยแต่ละหลังมาพร้อมกับดีไซน์โมเดิร์นฟาร์มเฮาส์ เน้นพื้นที่กว้างขวางรองรับการใช้งานทุกวัน

จุดเด่นของ สราญสิริ แกรนเด พุทธมณฑล สาย 3

• Superior Design โดีไซน์แบบ Modern Farmhouse Extra Series ในสไตล์บ้านหน้ากว้างที่ให้ความอบอุ่นและทันสมัย
• Luxury Function พื้นที่ใช้สอยขนาดใหญ่ ที่สามารถรองรับสมาชิกทุกคนในครอบครัว ตั้งแต่ Double Volume Living จนถึง Master Bedroom ที่สะดวกต่อการใช้งาน
• Green Landscape & Facilities พื้นที่ส่วนกลางรวมกว่า 2 ไร่ และคลับเฮาส์ขนาดใหญ่ให้ความเป็นส่วนตัว พร้อมวิวทะเลสาบ
• Intelligent Security ระบบรักษาความปลอดภัย LIV-24 ที่เชื่อมต่อศูนย์ควบคุมแบบเรียลไทม์ และการบริการหลังการขายจาก Plus Property

สำหรับทำเลที่ตั้งบริเวณพุทธมณฑลสาย 3 ถือเป็นทำเลที่มีศักยภาพสูง สามารถเชื่อมต่อไปยังถนนบรมราชชนนีและเส้นทางหลักต่างๆ ภายในเวลาอันรวดเร็ว อีกทั้งยังมีสิ่งอำนวยความสะดวกครบครันในละแวกใกล้เคียง

อาทิ ห้างสรรพสินค้า โรงเรียน โรงพยาบาล และสถานที่สำคัญต่างๆ ทำให้โครงการนี้เป็นอีกหนึ่งทำเลที่เหมาะสำหรับการอยู่อาศัยและการใช้ชีวิตครอบครัวในสภาพแวดล้อมที่สมบูรณ์แบบ

ด้านภาพรวมในช่วงโค้งสุดท้ายของแสนสิริ สามารถทำยอดขายได้ 24,000 ล้านบาท ซึ่งนับเป็น 77% ของเป้าหมายในปี 2567 ที่ตั้งเป้าไว้ 31,000 ล้านบาท และอีก 2 เดือนที่เหลือยังมีโครงการใหม่อีก 2 โครงการ จ่อเปิดตัวภายใต้แบรนด์ เศรษฐสิริ สำหรับเป้าหมายในปีหน้า แสนสิริยังคงโฟกัสที่บ้านแนวราบ ในระดับลักชัวรีเป็นส่วนใหญ่

นางสาวภัคพริ้ง กล่าวเพิ่มเติมว่า ภาพรวมตลาดบ้านแนวราบในช่วงปลายปีนี้มีการแข่งขันที่เข้มข้น หลายบริษัทออกโปรโมชั่นดึงดูดลูกค้ากันอย่างเต็มที่ เช่นเดียวกับแสนสิริเองก็ได้เปิดตัวแคมเปญอย่างต่อเนื่อง

รวมถึงพยายามสนับสนุนผู้บริโภคด้านดอกเบี้ย และเพิ่มความคล่องตัวในการเลือกซื้อบ้าน โดยได้ร่วมมือกับธนาคารในการเสนอสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำพิเศษ เช่น ดอกเบี้ย 0% เป็นเวลา 3 ปี หรือสามารถเลือกเป็นส่วนลด ซึ่งใช้ได้กับเกือบทุกโครงการของแสนสิริ

เพื่อให้มีความยืดหยุ่นให้ลูกค้าสามารถปรับเปลี่ยนโปรโมชันได้ตามความต้องการเฉพาะบุคคล เพื่อให้ตอบสนองกับแผนการเงินของลูกค้า โดยเฉพาะในช่วงปลายปีที่ผู้บริโภคมีการวางแผนการเงินอย่างจริงจัง

ไม่ว่าจะเป็นการตัดสินใจซื้อบ้านใหม่หรือการเตรียมงบประมาณสำหรับการใช้จ่ายอื่นๆ ทำให้แสนสิริมุ่งเน้นวิธีการที่จะช่วยลดความกังวลด้านการเงินให้กับผู้บริโภคให้มากที่สุด