ในยุคที่โครงการอสังหาริมทรัพย์ให้ความนิยมการพัฒนารูปโครงการพัฒนาเชิงพาณิชย์รูปแบบผสม หรือมิกซ์ยูสที่รวบรวมสิ่งอำนวยความสะดวกไว้รองรับความต้องการหลากหลายไลฟ์สไตล์อย่างครบครันในที่เดียว บิ๊กดีเวลอปเปอร์หลายรายต่างเปิดตัวโครงการในรูปแบบดังกล่าวอย่างดุเดือด
หนึ่งในนั้นคือ บริษัท เซ็นทรัลพัฒนา จำกัด (มหาชน) หรือ CPN ยักษ์ใหญ่วงการค้าปลีกและบริษัทพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ รูปแบบมิกซ์ยูส ที่ประกาศแผนยุทธศาสตร์ 5-10 ปี เมื่อช่วงไตรมาส 2 ของปี 2567 ที่ผ่านมา ตอกยํ้าการพัฒนาโครงการขนาดใหญ่ จำนวน 5 โครงการ วงเงิน 1.21 แสนล้านบาท มีพื้นที่รวมกันมากถึง 2.2 ล้านตารางเมตร
โดยมีโครงการเรือธงที่อยู่ระหว่างก่อสร้างได้แก่ โครงการดุสิตเซ็นทรัลพาร์ค, เซ็นทรัลพหลโยธิน, เซ็นทรัลสยามสแควร์เป็นต้น และยังคงเดินหน้าขยายโครงการมิกซ์ยูสอย่างต่อเนื่อง
โดยมีหมุดหมายเจาะทำเลยุทธศาสตร์สำคัญ สร้างแลนด์มาร์กใหม่ทั้งในเขตกรุงเทพมหานครจังหวัดหัวเมืองใหญ่ เมืองท่องเที่ยวเช่น ภูเก็ต กระบี่ และเชียงใหม่ ยังไม่รวมการขยายคอมมูนิตี้มอลล์ ในทำเลศักยภาพ เนื่องจากที่ดินมีราคาสูงและนับวันจะหายากยิ่ง
อย่างไรก็ตามหนึ่งในโครงการมิกซ์ยูสที่สำคัญที่สุดของเซ็นทรัลพัฒนา คือ "เซ็นทรัลเวิลด์" แหล่งช้อปปิ้ง ใจกลางเมือง เป็นที่รู้จักทั้งในกลุ่มชาวไทยและชาวต่างชาติ บนทำเลสี่แยกราชประสงค์ใจกลางกรุงเทพมหานคร บนพื้นที่กว่า 830,000 ตารางเมตร
สถานที่แห่งนี้ไม่เพียงแต่เป็นแหล่งช้อปปิ้ง แต่ยังเป็นมิกซ์ยูสที่รวบรวมพื้นที่หลากหลายประเภท เช่น พื้นที่ช้อปปิ้ง, สำนักงาน เซ็นทรัลเวิลด์ออฟฟิศเศส, โรงแรม เซ็นทารา แกรนด์, โรงภาพยนตร์, และสถานที่จัดกิจกรรมต่างๆ ไว้ในบริเวณเดียวกัน เพื่อตอบสนองไลฟ์สไตล์ของทุกคน ทั้งชาวไทยและนักท่องเที่ยวจากทั่วโลก
อีกหนึ่งในโครงการที่น่าจับตามอง นั่นคือ เมกะโปรเจ็กต์มิกซ์ยูสของ เซ็นทรัลพัฒนา อย่าง “ดุสิต เซ็นทรัล พาร์ค” ที่ร่วมพัฒนากับกลุ่มโรงแรมดุสิตธานี เป็นโครงการแรกตั้งอยู่ใจกลางย่านหัวมุมสีลม-พระราม 4 เนื้อที่ 23 ไร่ บนที่ดินสำนักงานทรัพย์สินทรัพย์พระมหากษัตริย์
โดยเพิ่งเปิดตัวเฟสแรก โรงแรมดุสิตธานี เมื่อเดือนกันยายนที่ผ่านมา โครงการนี้เน้นการผสมผสานพื้นที่ค้าปลีก โรงแรม ที่พักอาศัย และออฟฟิศเข้าไว้ด้วยกันบนพื้นที่ 440,000 ตารางเมตร มีมูลค่าโครงการรวมทั้งหมด 46,000 ล้านบาท ทั้งนี้มีกำหนดการเปิดตัวส่วนศูนย์การค้าและสำนักงานในปี 2568
และที่กำลังเปลี่ยนแปลงแยกปทุมวัน ที่เป็นของสำนักงานจัดการทรัพย์สิน จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย บนเนื้อที่ 6 ไร่ จากโรงภาพยนตร์สกาลา เป็นโครงการมิกซ์ยูส "เซ็นทรัล สยามสแควร์" ที่มีทั้งศูนย์การค้า โรงแรม อาคารสำนักงาน กำหนดเปิดเฟสแรก ปี 2569
อีกโครงการใหญ่ที่อยู่ระหว่างก่อสร้างมูลค่ากว่า 20,000 ล้านบาท คือ “เซ็นทรัล พหลโยธิน” ที่หลายฝ่ายน่าจับตามองว่าจะมาแทนที่ "เซ็นทรัล ลาดพร้าว" ซึ่งกำลังจะหมดสัญญาเช่าที่ดินกับการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) ในปี 2571 และมีบิ๊กทุนรายใหญ่ต้องการเช่าที่ดินผืนนี้ต่อ
แต่ล่าสุดได้รับการยืนยันจากการรถไฟแห่งประเทศไทย ว่า ทางเซ็นทรัลพัฒนา ได้ติดต่อเจรจา ต่อสัญญาเช่าเนื่องจากเป็นขุมทรัพย์สำคัญมีคนเข้าใช้สอยในพื้นที่จำนวนมากและสร้างรายได้ผลตอบแทนสูงที่สุดในกลุ่ม
นอกจากนี้ เซ็นทรัลพัฒนา ยังได้ประกาศทุ่มงบกว่า 10,000 ล้านบาท เพื่อรีโนเวท ศูนย์การค้าที่อยู่ในยุทธศาสตร์ “Retail-Led Mixed-Use” บนทำเลศักยภาพอีก 4 แห่ง โดยแห่งแรกคือ "เซ็นทรัล บางนา" โครงการมิกซ์ยูสใหญ่ของย่าน บนพื้นที่ 55 ไร่ ก็กำลังอยู่ระหว่างการปรับโฉมครั้งใหญ่เพื่อตอบสนองกลุ่มลูกค้าที่มีกำลังซื้อสูง
โดยมุ่งเน้นการปรับปรุงภายใต้คอนเซปต์ “Urban Luxe & Lush Lifestyle” ให้เป็นแหล่งช็อปปิ้งและไลฟ์สไตล์ครบครัน พร้อมดึงแบรนด์ลักชัวรีหลายแบรนด์เข้ามา และเพิ่มพื้นที่สำหรับกิจกรรมในครอบครัว รวมถึงพื้นที่สำหรับงานศิลปะและนิทรรศการอีกด้วย
ต่อมาคือ "เซ็นทรัล ปิ่นเกล้า" แลนด์มาร์กสำคัญในย่านฝั่งธนบุรีที่มีฐานลูกค้ากลุ่มครอบครัวมีกำลังซื้อ "เซ็นทรัล แจ้งวัฒนะ" ที่รองรับการขยายเมือง เติบโตและเปลี่ยนผ่านจากย่านชานเมืองไปสู่ New CBD และ "เซ็นทรัล เชียงใหม่ แอร์พอร์ต" ที่ผสมผสานด้านวัฒนธรรมและไลฟ์สไตล์
นอกจากกรุงเทพฯ แล้ว เซ็นทรัลพัฒนายังมุ่งหน้าขยายมิกซ์ยูสในเมืองท่องเที่ยวอื่น เช่น "เซ็นทรัล กระบี่" ภายใต้คอนเซปต์ “New Haven of Life” บนพื้นที่ 114 ไร่ ด้วยมูลค่าการลงทุนกว่า 4,500 ล้านบาท
โครงการนี้จะประกอบไปด้วยศูนย์การค้า โรงแรม คอนโดมิเนียม และบ้านพักอาศัยระดับพรีเมียม ตั้งเป้าเป็นศูนย์กลางการท่องเที่ยวและไลฟ์สไตล์ในภาคใต้ โดยคาดว่าจะเปิดให้บริการในปี 2568
อย่างไรก็ตาม คาดว่าเซ็นทรัลพัฒนายังมีอีกหลายโปรเจ็กต์ที่ยังไม่ได้เปิดเผยอย่างเป็นการ แต่เป็นที่ทราบดีว่ายังมีที่ดินอีกหลายทำเลที่ยังอยู่ในช่วงศึกษาและพัฒนาโครงการใหม่ในมือของ เซ็นทรัลพัฒนา
อย่างที่ดินย่านพระราม 9 ที่เซ็นทรัลพัฒนา ถือหุ้นใหญ่ บริษัท แกรนด์ คาแนล แลนด์ จำกัด (มหาชน) หรือ “GLAND” โครงการ "เดอะ แกรนด์ พระราม 9" (The Grand Rama 9) พื้นที่ใจกลางเมืองบนพื้นที่ประมาณ 73 ไร่ ตั้งอยู่บนหัวมุมถนนพระราม 9 ตัดถนนรัชดาภิเษก ซึ่งเป็นทำเลศักยภาพสูงในย่านธุรกิจแห่งใหม่ของกรุงเทพมหานคร และแปลงที่ดินขนาดใหญ่ 761ไร่ ย่านรังสิต ปทุมธานี ที่มีแผนพัฒนาเป็นเมืองมิกซ์ยูส ในอนาคต เป็นต้น
ทั้งนี้ การขยายตัวของอาณาจักรมิกซ์ยูสในหลากหลายภูมิภาคสะท้อนถึงเทรนด์ในการพัฒนาอสังหาเริมทรัพย์ในยุคใหม่ที่สร้างขึ้นเพื่อรองรับการเติบโตของหลากหลายไลฟ์สไตล์ที่ให้ความสำคัญกับความสะดวกสบายสำหรับผู้บริโภค และมีบทบาทสำคัญในการพัฒนาเศรษฐกิจเมืองท่องเที่ยวและเพิ่มความหลากหลายให้กับตลาดอสังหาริมทรัพย์ไทย
หน้า 20 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ฉบับที่ 4,045 วันที่ 17 - 20 พฤศจิกายน พ.ศ. 2567