LSS เสริมแกร่งธุรกิจรักษาความปลอดภัย ชูเทรนด์ Smart Security ลดต้นทุนแรงงาน

04 ธ.ค. 2567 | 23:06 น.

LSS เครือ LPP ชูการบริการรักษาความปลอดภัยด้วยเทคโนโลยี Smart Security อัปเกรดระบบแบบ Real-Time พร้อมศูนย์บริหารจัดการเหตุฉุกเฉิน EOC 24 ชั่วโมง ตอบรับการเติบโตของธุรกิจและความต้องการที่เพิ่มขึ้น คาดรายได้ปี 2567 สูงถึง 345 ล้านบาท เติบโต 23%

บริษัท รักษาความปลอดภัย แอลเอสเอส โซลูชั่นส์ จำกัด หรือ LSS ในเครือ บริษัท แอล พี พี พรอพเพอร์ตี้ มาเนจเมนท์ จำกัด หรือ LPP เดินหน้าเติบโตตามแนวโน้มการขยายตัวของธุรกิจรักษาความปลอดภัยและการใช้เทคโนโลยี AI ในการเสริมความปลอดภัย

โดยใช้เทคโนโลยีต่าง ๆ เช่น Next Gen CCTV, AI, IoT เพื่อเสริมการตรวจจับความผิดปกติและแจ้งเตือนเหตุฉุกเฉินแบบทันที ผ่านศูนย์บริหารจัดการเหตุฉุกเฉิน EOC ที่ให้บริการตลอด 24 ชั่วโมง

ศูนย์บริหารจัดการเหตุฉุกเฉิน EOC

ทั้งยังพัฒนาระบบแจ้งเตือนที่สามารถรายงานผลแบบ Real-Time ด้วย NFC Device และระบบ IoT ที่เชื่อมโยงการทำงานผ่าน Dashboard ที่รองรับการจัดการเหตุฉุกเฉินได้ทันทีทุกระดับความสำคัญ โดยในปี 2567 คาดว่า LSS จะมีรายได้ถึง 345 ล้านบาท เติบโตขึ้น 23% จากปีที่แล้วและคาดการณ์รายได้ปี 2568 เพิ่มขึ้นอีกประมาณ 10%

นายสรวุฒิ สุขเจริญสิน ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท แอล พี พี พรอพเพอร์ตี้ มาเนจเมนท์ จำกัด กล่าวว่า ปัจจุบัน หลังจากวิกฤติโควิดคลี่คลาย การท่องเที่ยวมีการเติบโตมากขึ้น การบริการจัดการพื้นที่ต่างๆ เริ่มเป็นที่ต้องการในหลายธุรกิจไม่ว่าจะเป็นที่อยู่อาศัย ห้างสรรพสินค้า โรงพยาบาล

สรวุฒิ สุขเจริญสิน

บุคลากรก็เป็นที่ต้องการและหายากมากขึ้น จึงทำให้มีการแข่งขันที่สูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง และงานรปภ. แบบดั้งเดิมคนอยากมาทำน้อยลงเรื่อยๆ ด้วยเหตุนี้จึงทำให้บริษัทที่อยู่ในธุรกิจนี้ต้องนำเทคโนโลยีเข้ามาใช้กันมากขึ้น กลายเป็นเทรนด์ของ Smart Security จึงเป็นแนวทางที่ LSS พยายามดำเนินธุรกิจไปในทิศทางนี้

นายธำรงค์พล แดงบุปผา กรรมการผู้จัดการ บริษัท รักษาความปลอดภัย แอลเอสเอส โซลูชั่นส์ จำกัด กล่าวว่า ในธุรกิจการให้บริการต่างๆในอสังหาริมทรัพย์ เช่น รักษาความปลอดภัย ทำความสะอาด ค่าแรงเป็นต้นทุนที่สำคัญจากการเติบโตของธุรกิจ และความต้องการของแรงงงานที่มีมากขึ้น โดย LSS มีต้นทุนค่าแรงถึง 85%

อย่างไรก็ตาม เราจึงได้นำเทคโนโลยีเข้ามาผสานและทำงานร่วมกันกับบุคลากร เพื่อช่วยลดต้นทุนค่าบริการได้ โดยสามารถลดต้นทุนได้ราว 50% และมองว่าในอนาคตเทคโนโลยีเหล่านี้จะถูกลง และมีประสิทธิภาพมากขึ้น

ธำรงค์พล แดงบุปผา

ดังนั้นการนำเทคโนยีมาใช้จะช่วยให้ประหยัด และสามารถเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานไปพร้อมๆ กัน เช่นติดกล้องในจุดที่เป็นมุมอับ และไม่จำเป็นต้องเดินตรวจ โดยมอนิเตอร์ที่ศูนย์กลาง

นอกจากนี้ LSS ยังพัฒนาระบบ IoT Detect ที่มีบทบาทสำคัญในการป้องกันเหตุเพลิงไหม้และภัยพิบัติอื่น ๆ เช่น การป้องกันนํ้าท่วมในระบบเก็บนํ้าบนดาดฟ้า โดยการใช้เทคโนโลยีช่วยลดการสูญเสียและความเสียหายจากเหตุการณ์ต่างๆ

รวมถึงการพัฒนาระบบ Cleaning Management System (CMS) ที่เชื่อมโยงกับโรงพยาบาลเพื่อการทำความสะอาดห้องผู้ป่วยและฟื้นฟูสถานที่ได้อย่างรวดเร็ว LSS จึงมั่นใจว่าเทคโนโลยีและการอบรมบุคลากรจะช่วยเสริมสร้างความปลอดภัยในโครงการอสังหาริมทรัพย์ต่างๆ อย่างมีประสิทธิภาพและครอบคลุมหลายรูปแบบ

 

หน้า 20 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ฉบับที่ 4,050 วันที่ 5 - 7 ธันวาคม พ.ศ. 2567