บริษัท แอสเซทไวส์ จำกัด (มหาชน) หรือ ASW เดินหน้าขยายธุรกิจสู่เขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (EEC) ด้วยการเปิดตัวโครงการ “อควารัส จอมเทียน พัทยา” (Aquarous Jomtien Pattaya) คอนโดมิเนียมหรูมูลค่า 5,000 ล้านบาท ตอกย้ำความสำเร็จจากกลยุทธ์ The New Frontiers ที่กระจายการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ทั้งในกรุงเทพฯ ปริมณฑล และหัวเมืองท่องเที่ยวสำคัญ
นายกรมเชษฐ์ วิพันธ์พงษ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ASW เปิดเผยว่า ในปี 2567 บริษัททำยอดขายสะสมสูงถึง 17,874 ล้านบาท เกินกว่าเป้าหมายทั้งปีที่ตั้งไว้ 17,800 ล้านบาท โดยความสำเร็จมาจากกลยุทธ์ The New Frontiers ในด้าน Expand ซึ่งกระจายสินค้าครอบคลุมทุกเซ็กเมนต์ ทั้งคอนโดมิเนียมและบ้านแนวราบในทำเลศักยภาพ
อย่างในภูเก็ต ที่ ASW เข้าถือหุ้นในบริษัท ร่มโพธิ์ พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) (TITLE) และพัฒนาโครงการ Leisure Residences ซึ่งสร้างยอดขายรวมกว่า 7,000 ล้านบาท โดยจะทยอยรับรู้รายได้จนถึงปี 2569 พร้อมทั้งยังวางแผนเปิดตัวโครงการใหม่ในภูเก็ตอีก 4 โครงการ มูลค่ารวม 15,500 ล้านบาท
และล่าสุดแอสเซทไวส์ได้นำกลยุทธ์ดังกล่าวขยายพอร์ตโฟลิโอเข้ามาพัฒนาโครงการคอนโดมิเนียมบนทำเลศักยภาพเขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก หรือ EEC ซึ่งนับเป็นโครงการที่ 5 คือ “อควารัส จอมเทียน พัทยา”
โดยความพิเศษของชลบุรีเป็นจังหวัดที่มีความเฉพาะตัวในการผสมผสานทั้งภาคอุตสาหกรรมและการท่องเที่ยวในจังหวัด และมีนักท่องเที่ยวเป็นอันดับสองรองจากกรุงเทพฯ ใช้เวลาเดินทางเพียง 1 ชั่วโมงครึ่งจากกทม. ทำให้ทั้งชาวต่างชาติและชาวไทยซึ่งสามารถเดินทางมาได้สะดวก
รวมถึง ได้เล็งเห็นถึงศักยภาพในฐานะศูนย์กลางเศรษฐกิจของประเทศบนพื้นที่ EEC ด้วยโครงสร้างพื้นฐาน เช่น แผนรถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบิน แผนพัฒนาสนามบินอู่ตะเภาและเมืองการบินภาคตะวันออก, การขยายท่าเรือแหลมฉบังเฟส 3 โครงการเมืองใหม่อัจฉริยะ
นอกจากนี้ยังมีอีก 2 เมกะโปรเจ็กต์ ได้แก่ โครงการนิคมอุตสาหกรรมสีเขียว (กรีนกินดัสทรี) และโครงการสปอร์ต คอมเพล็กซ์ซึ่งมีสนามกีฬาขนาดใหญ่ ความจุประมาณ 80,000 ที่นั่ง
และจากข้อมูลของคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) ยังพบว่า ในช่วง 9 เดือนแรกของปี 2567 ที่ผ่านมา ในพื้นที่มีการยื่นขอรับการส่งเสริมการลงทุนมากที่สุดในประเทศจำนวน 1,004 โครงการ รวมมูลค่า 408,737 ล้านบาท จึงคาดการณ์ว่าในปี 2580 จะมีประชากรเพิ่มขึ้นอีกราว 1.2 - 1.5 ล้านคน
อีกทั้งยังเล็งเห็นปัจจัยอื่นๆ เช่นสถานการณ์การเมืองในสหรัฐอเมริกา ซึ่งจะส่งแรงกดดันถึงจีนให้มีการย้ายฐานการผลิตออกนอกประเทศมากขึ้น และคาดว่าไทยจะเป็นหนึ่งในฐานการผลิต รวมถึงแผนพัฒนาเอนเตอเทนเมนท์คอมเพลกซ์ ที่คาดว่าจะเกิดขึ้นในรัฐบาลนี้จะมีส่วนช่วยให้ดึงดูดทั้งการลงทุนและนักท่องเที่ยวเช่นเดียวกัน
นางสาวพชร ประพันธ์วัฒนะ กรรมการผู้จัดการอาวุโส กลุ่มธุรกิจอสังหาริมทรัพย์คอนโดมิเนียม ระบุว่า ASW เคยประสบความสำเร็จกับโครงการในพื้นที่แล้ว 4 โครงการในก่อนหน้า ได้แก่ โครงการแอทโมซ ซีรีน ศรีราชา, โครงการเคฟ ยูนิเวิร์ส บางแสน, โครงการเคฟ โคโค่ บางแสน และโครงการแอทโมซ แคนวาส ระยอง รวมมูลค่าโครงการกว่า 4,770 ล้านบาท
ซึ่งได้รับการตอบรับที่ดีเยี่ยมจากกลุ่มลูกค้า จึงได้ต่อยอดโครงการใหม่ อควารัส จอมเทียน พัทยา (Aquarous Jomtien Pattaya) มูลค่า 5,000 ล้านบาท บนทำเลใกล้หาดจอมเทียนเพียง 500 เมตร โครงการนี้ออกแบบในคอนเซ็ปต์ “The Impression of Blue” พร้อมวิวทะเลกว่า 85% ของห้องพัก
โดยพัทยายังเป็นทำเลศักยภาพที่นอกจากจะเป็นเมืองท่องเที่ยวที่ได้รับความนิยมจากคนไทยแล้ว ยังเป็นที่ของนักท่องเที่ยวทั่วโลก เช่น จีน ยุโรป รัสเซีย เพราะมีความหลากหลายทั้งแหล่งธรรมชาติ แหล่งช้อปปิ้ง ห้างสรรพสินค้า ร้านค้า ร้านอาหาร คาเฟ่
และกิจกรรมที่หลากหลายตลอดทั้งกลางวันและกลางคืน ซึ่งสามารถตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์ รวมถึงยังเป็นเมืองที่นิยมจัดเทศกาลดนตรีอีกมากมาย ด้วยปัจจัยต่างๆ นี้ทำให้พัทยานั้นเป็นหนึ่งใน World Destination อย่างชัดเจน
นางสาววาสนา เลิศพงศ์โสภณ กรรมการผู้จัดการ กลุ่มธุรกิจอสังหาริมทรัพย์คอนโดมิเนียม 3 กล่าวเสริมว่า ไฮไลท์ของโครงการอควารัส จอมเทียน พัทยา (Aquarous Jomtien Pattaya) คือห้องพักวิวทะเลกว่า 85% คิดเป็น 515 ยูนิตจากห้องพักทั้งหมด 606 ยูนิต และพื้นที่ร้านค้า 5 ยูนิต
โครงการประกอบด้วย 2 อาคาร สูง 44 และ 47 ชั้น ที่มี Sky Facilities กว่า 1,200 ตร.ม. เชื่อมทั้งสองอาคารไว้ด้วยกัน โดยห้องพักมีทั้งรูปแบบ 1 Bedroom ขนาด 34.70 - 76.40 ตร.ม., ห้อง 2 Bedrooms ขนาด 79.75 - 141.30 ตร.ม., ห้อง 3 Bedrooms ขนาด 130.10 - 173.80 ตร.ม. และ Penthouse ขนาด 315.90 ตร.ม. อีก 3 ยูนิต ราคาเริ่มต้นตั้งแต่ 4.21-80 ล้านบาท
รวมถึงมีฟังก์ชันห้องรูปแบบ Fully furnished ที่ออกแบบโดย Olivia Living พื้นที่ส่วนกลาง Double Cloud Facilities เช่น Sky Lounge, Sky Fitness, และ Sky Pool รวมถึงสระว่ายน้ำขนาดใหญ่ 4 สระ
ทั้งยังได้รับรางวัล Best Condo Architectural Design (Eastern Seaboard) จาก Property Guru Thailand Property Awards 2024 ทั้งนี้ โครงการได้รับการประเมิณผลกระทบสิ่งแวดล้อม (EIA) และพร้อมเริ่มดำเนินการก่อสร้างแล้ว โดยมีกำหนดการสร้างแล้วเสร็จในเดือนพฤศจิกายน ปี 2570