กรมที่ดิน เข้ม กำหนดมาตรการป้องกันถือครองที่ดินแทนคนต่างด้าว

18 มี.ค. 2568 | 10:49 น.
อัปเดตล่าสุด :18 มี.ค. 2568 | 11:00 น.

กรมที่ดินเข้ม กำหนดมาตรการป้องกันการถือครองที่ดินแทนคนต่างด้าว ชี้สามารถได้มาซึ่งที่ดินในประเทศไทยได้โดยชอบด้วยกฎหมาย เพียง3

 

ปัจจุบันปรากฏข่าว คนต่างด้าวจดทะเบียนจัดตั้งบริษัท/นิติบุคคลไทยขึ้นเพื่อถือครองที่ดินแทนเป็นจำนวนมาก โดยอำนาจบริหารงานของบริษัท/นิติบุคคล ยังอยู่ภายใต้การควบคุมของคนต่างด้าว ซึ่งเป็นวิธีการหลีกเลี่ยงกฎหมายในเรื่องการถือครองที่ดินของคนต่างด้าวในประเทศไทย

มาตรการกรมที่ดิน

เนื่องจากคนต่างด้าวสามารถได้มาซึ่งที่ดินในประเทศไทยได้โดยชอบด้วยกฎหมาย เพียง3 กรณี เท่านั้น คือ การรับมรดกในฐานะทายาทโดยธรรมตามมาตรา 93แห่งประมวลกฎหมายที่ดิน การซื้อที่ดิน 1ไร่ เพื่อเป็นที่อยู่อาศัย โดยนำเงินมาลงทุน 40 ล้านบาท ตามมาตรา93 ทวิ แห่งประมวลกฎหมายที่ดิน และการรับโอนที่ดินตามกฎหมายอื่นซึ่งให้สิทธิคนต่างด้าวได้มาซึ่งที่ดิน

 

เพื่อเป็นการป้องกันปัญหาการจัดตั้งนิติบุคคลขึ้นเพื่อถือครองที่ดินแทนคนต่างด้าวดังกล่าว กระทรวงมหาดไทยและกรมที่ดินจึงได้วางแนวทางเพื่อให้พนักงานเจ้าหน้าที่ถือปฏิบัติ สรุปได้ดังนี้

1. การขอได้มาซึ่งที่ดินของบริษัท/นิติบุคคลที่มีวัตถุประสงค์เพื่อประกอบธุรกิจอสังหาริมทรัพย์
และมีคนต่างด้าวถือหุ้นหรือเป็นกรรมการ หรือการขอได้มาซึ่งที่ดินของบริษัท/นิติบุคคลที่มีเหตุอันควรเชื่อได้ว่า
ให้คนไทยเป็นผู้ถือหุ้นแทนคนต่างด้าว

เช่น มีคนต่างด้าวเป็นผู้มีอำนาจลงลายมือชื่อแทนบริษัท หรือผู้ถือหุ้นสัญชาติไทยรายใหญ่ ไม่ได้ประกอบอาชีพการลงทุนเกี่ยวกับธุรกิจโดยตรง เป็นทนายความ หรือนายหน้า เป็นต้น พนักงานเจ้าหน้าที่ต้องสอบสวนให้ปรากฏชัดเจนว่าผู้ถือหุ้นที่มีสัญชาติไทยมิได้ถือหุ้นแทนคนต่างด้าว โดยการสอบสวนรายได้ของผู้ถือหุ้นสัญชาติไทย และสอบสวนที่มาของเงินที่นำมาซื้อหุ้น

 

 

2. กรณีบริษัทซื้อที่ดินในราคาสูงกว่าทุนจดทะเบียน โดยไม่มีการจำนอง ต้องสอบสวนที่มาของเงิน
ซึ่งบริษัทนำมาซื้อที่ดิน

3. กรณีนิติบุคคลต่างด้าวเช่าที่ดินหรือถือสิทธิประเภทอื่นในระยะยาว พนักงานเจ้าหน้าที่ต้องสอบสวนว่า มีวัตถุประสงค์ในการเช่าที่ดินเพื่อนำไปประกอบกิจการใด เป็นการถือครองที่ดินแทนคนต่างด้าวหรือขัดต่อพระราชบัญญัติการประกอบธุรกิจของคนต่างด้าว พ.ศ. 2542 หรือไม่

นอกจากนี้ กรมที่ดินได้วางแนวทางและกำชับให้พนักงานเจ้าหน้าที่ถือปฏิบัติโดยเคร่งครัดเกี่ยวกับการตรวจสอบตามมาตรการป้องกันการถือครองที่ดินแทนคนต่างด้าว รวมทั้งให้ตรวจสอบว่า นิติบุคคลมีการเพิ่มทุนของคนต่างด้าวหรือเพิ่มจำนวนผู้ถือหุ้นที่เป็นคนต่างด้าวหรือไม่

โดยให้รายงานให้กรมที่ดินทราบทุกสามเดือน ภายในวันที่ 10 ของเดือนถัดไป (10 มกราคม /10 เมษายน /10 กรกฎาคม / 10 ตุลาคม ) เพื่อกรมที่ดินจะได้นำข้อมูลดังกล่าวดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องตามอำนาจหน้าที่ โดยการบังคับใช้มาตรการการลงโทษ
ทั้งการบังคับให้จำหน่ายที่ดิน และการพิจารณาดำเนินคดีกับผู้กระทำความผิดตามกฎหมาย

หากมีการตรวจสอบ บริษัท/นิติบุคคลใด ถือครองที่ดินแทนคนต่างด้าว บริษัท/นิติบุคคลนั้น ย่อมมีความผิดตามประมวลกฎหมายที่ดิน ฐานได้มาซึ่งที่ดินเป็นการฝ่าฝืนกฎหมาย ตามมาตรา 112ซึ่งมีโทษปรับและคนไทยผู้ใดซึ่งถือหุ้นหรือได้มาซึ่งที่ดินในฐานะเป็นตัวแทนของคนต่างด้าว

ย่อมมีความผิดตามมาตรา 113ซึ่งมีทั้งโทษปรับและโทษจำคุก รวมทั้งอาจมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา ฐานแจ้งข้อความอันเป็นเท็จต่อเจ้าพนักงาน ตามมาตรา 137 และฐานแจ้งให้เจ้าพนักงานจดข้อความอันเป็นเท็จลงในเอกสารมหาชนหรือเอกสารราชการ ตามมาตรา 267ซึ่งมีทั้งโทษปรับและโทษจำคุก