กรมที่ดินสั่งตรวจเข้มนิติบุคคลนอมินี พร้อมลงโทษเด็ดขาด

ในช่วงที่ผ่านมา การที่คนไทยหรือนิติบุคคลถือครองที่ดินหรืออสังหาริมทรัพย์แทนคนต่างด้าว (Nominee) ยังเป็นประเด็นที่อยู่ท่ามกลางความสนใจ อาทิ กรณีทุนจีนกว้านซื้อที่ดินในพื้นที่ภาคตะวันออกเพื่อทำสวนทุเรียน และกว้านซื้อที่ดินในเขต EEC เพื่อตั้งโรงงานขนาดใหญ่ กรณีคนต่างชาติให้คนไทยถือครองที่ดินหรือห้องชุดเพื่ออยู่อาศัยแทนคนต่างด้าว

หรือจัดตั้งบริษัทขึ้นเพื่อถือครองที่ดินหรือห้องชุดแทนคนต่างด้าว โดยเฉพาะในพื้นที่ที่เป็นแหล่งท่องเที่ยว หรือในเขตเศรษฐกิจสำคัญ เช่น ภูเก็ต เชียงใหม่ ชลบุรี และกรุงเทพมหานคร ซึ่งกรณีเหล่านี้ส่งผลกระทบต่อความมั่นคงทางเศรษฐกิจและสังคมของประเทศ และอาจทำให้เกิดความไม่เป็นธรรมในการจัดสรรทรัพยากรที่ดินของชาติ

นายพรพจน์ เพ็ญพาส อธิบดีกรมที่ดิน กล่าวว่า กรมที่ดินได้รับทราบปัญหาดังกล่าวและได้มีการดำเนินการในหลายทางเพื่อจัดการปัญหา ซึ่งรวมถึงการขอความร่วมมือกับกรมพัฒนาธุรกิจการค้าในการตรวจสอบนิติบุคคลที่อาจมีพฤติกรรมเกี่ยวข้องกับการถือครองที่ดินแทนคนต่างด้าว ผ่านระบบข้อมูลสารสนเทศ โดยจะตรวจสอบการเพิ่มทุนหรือการเปลี่ยนแปลงผู้ถือหุ้นของบริษัท ซึ่งอาจทำให้บริษัทดังกล่าวกลายเป็นนิติบุคคลที่มีลักษณะของคนต่างด้าว

ซึ่งหากตรวจพบว่ามีการกระทำผิดในการถือครองที่ดินหรืออสังหาริมทรัพย์ในลักษณะนอมินี โดยคนไทยที่ถือหุ้นแทนคนต่างด้าว กรมที่ดินจะดำเนินการตามมาตรการทางกฎหมาย โดยการบังคับให้จำหน่ายที่ดินที่ถือครองผิดกฎหมาย และจะดำเนินคดีตามมาตราที่เกี่ยวข้อง เช่น มาตรา 111, 112 และ 113 ของประมวลกฎหมายที่ดิน รวมถึงมาตรา 137 และ 267 ของประมวลกฎหมายอาญา ซึ่งมีทั้งโทษปรับและโทษจำคุก

ในส่วนของการแก้ไขปัญหานี้ กรมที่ดินได้ส่งหนังสือถึงผู้ว่าราชการจังหวัดทุกจังหวัด เพื่อกำชับให้เจ้าหน้าที่ในสำนักงานที่ดินทุกจังหวัดร่วมกันตรวจสอบและให้ข้อมูลประชาชนเกี่ยวกับกรณีการถือครองที่ดินแทนคนต่างด้าว รวมถึงการให้ความรู้และสร้างความเข้าใจให้แก่ประชาชนเกี่ยวกับปัญหานี้อย่างเร่งด่วน

การร่วมมือระหว่างกรมที่ดินและกรมพัฒนาธุรกิจการค้าจะเป็นอีกหนึ่งแนวทางในการแก้ไขปัญหานี้อย่างจริงจัง และยืนยันว่าทางการจะดำเนินการอย่างเด็ดขาดเพื่อปกป้องสิทธิของคนไทยและรักษาความมั่นคงของทรัพยากรที่ดินของประเทศ