บริษัท พรีโม เซอร์วิส โซลูชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ PRI เผยวิสัยทัศน์ปี 2568 มุ่งเน้นการเติบโตที่ยั่งยืนภายใต้แนวคิด "Focus On Core" พร้อมตั้งเป้าหมายรายได้รวม 1,850 ล้านบาท โดยใช้ 3 กลยุทธ์หลักเพื่อยกระดับการดำเนินงานและสร้างความมั่นคงในระยะยาว ทั้งนี้ยังเน้นการขยายตลาดไปยังพื้นที่ใหม่ๆ เช่น ขอนแก่น พัทยา และภูเก็ต โดยมุ่งมั่นให้บริการครบวงจรที่ตอบโจทย์ทุกกลุ่มลูกค้าและสร้างรายได้จาก Recurring Income หรือรายได้ประจำต่อเนื่อง
สุรินทร์ สหชาติโภคานันท์
นายสุรินทร์ สหชาติโภคานันท์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของพรีโม กล่าวว่า บริษัทจะมุ่งมั่นพัฒนาคุณภาพการบริการ โดยเริ่มจากการปรับโครงสร้างองค์กรใหม่เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน ซึ่งจะช่วยให้การส่งมอบบริการมีความรวดเร็วและมีคุณภาพสูงขึ้น รวมถึงการเสริมสร้างทักษะของบุคลากรผ่านความร่วมมือกับ 13 สถาบันการศึกษา เพื่อพัฒนาความรู้และทักษะเฉพาะด้านให้ตรงกับความต้องการของตลาด และสร้างประสบการณ์ที่ดีให้แก่ลูกค้าเพื่อเพิ่มความภักดีในระยะยาว
กลยุทธ์ที่สองคือการสร้างสมดุลและขยายฐานลูกค้าในกลุ่มธุรกิจต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นอสังหาริมทรัพย์ โครงการที่อยู่อาศัย โรงแรม หรือหน่วยงานภาครัฐ และรัฐวิสาหกิจ นอกจากนี้ ยังขยายการดำเนินงานไปยังเมืองสำคัญที่มีศักยภาพในการเติบโต เช่น ขอนแก่น พัทยา และภูเก็ต เพื่อรองรับความต้องการบริการที่หลากหลายและมีคุณภาพสูง
สำหรับกลยุทธ์ที่สาม พรีโมจะใช้จุดแข็งในด้านความครบวงจรในการให้บริการ ทั้งในด้านการออกแบบ การก่อสร้าง และการบริหารจัดการอสังหาริมทรัพย์ เพื่อนำเสนอบริการที่ไร้รอยต่อในทุกขั้นตอน และการพัฒนาเทคโนโลยีดิจิทัล เช่น การใช้หุ่นยนต์และแอปพลิเคชัน Primo Plus เพื่อยกระดับประสิทธิภาพในการดำเนินงานและสร้างประสบการณ์ที่ดียิ่งขึ้นให้กับลูกค้า
นายสุรินทร์ยังกล่าวเพิ่มเติมว่า กลยุทธ์เหล่านี้จะช่วยให้พรีโมสามารถสร้างความยั่งยืนทั้งในด้านการเติบโตของรายได้และการรักษาฐานลูกค้าอย่างมั่นคง โดยบริษัทตั้งเป้าหมายรายได้รวมในปี 2568 ไว้ที่ 1,850 ล้านบาท รองรับด้วย Backlog ที่แข็งแกร่งและโอกาสในการขยายธุรกิจจากกลุ่มลูกค้าใหม่ ซึ่งเมื่อสิ้นปี 2567 พรีโมมี Backlog อยู่ที่ประมาณ 1,183 ล้านบาท และตั้งเป้าหมายเพิ่มรายได้จากธุรกิจใหม่ๆ พร้อมขยายฐานลูกค้าในทุกกลุ่ม ทั้งต้นน้ำ กลางน้ำ และปลายน้ำ
ในด้านการพัฒนาอย่างยั่งยืน พรีโมยังคงมุ่งเน้นการดำเนินงานภายใต้โครงการ ESG (Environmental, Social, and Governance) ซึ่งรวมถึงการบริหารจัดการทรัพยากรอย่างมีประสิทธิภาพ การปลูกต้นไม้เพิ่มพื้นที่สีเขียว และการส่งเสริมการใช้ชีวิตที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ด้วยแนวคิด "เข้าใจ ห่วงใย ใส่ใจ และทำออกมาจากใจ" เพื่อส่งเสริมความสุขและยั่งยืนให้แก่ทุกคนในสังคม