thansettakij
เปิด3มุมมองทิศทางก่อสร้างไทย ความท้าทายกับโอกาสใหม่ปี68

เปิด3มุมมองทิศทางก่อสร้างไทย ความท้าทายกับโอกาสใหม่ปี68

27 มี.ค. 2568 | 23:47 น.
อัปเดตล่าสุด :27 มี.ค. 2568 | 23:57 น.

เปิด3มุมมอง ผู้บริหาร รับเหมา วัสดุตกแต่ง รับสร้างบ้าน กับทิศทางก่อสร้างไทย ปี2568 ความท้าทาย และโอกาสใหม่ การลงทุนโครงสร้างพื้นฐานรัฐ การขยายฐานเจาะตลาดอาเชียน มุ่งสร้างความเชื่อมั่นลูกค้า

 

ปี 2568 ถือเป็นปีแห่งความท้าทายของการดำเนินงานในทุกอุตสาหกรรม “ภาคก่อสร้าง” เป็นอีกหนึ่งธุรกิจที่ต้องปรับกลยุทธ์อย่างมาก เพื่อรองรับการแข่งขันที่รุนแรงมากขึ้น ความต้องการงานก่อสร้างที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมสอดรับกับเทรนด์ ESG และการขยายตัวของภาคก่อสร้างในประเทศที่อยู่ในระดับค่อนข้างตํ่า 

ทั้งนี้ผู้รับเหมาก่อสร้างกลุ่มที่มีศักยภาพในการแข่งขัน จะเป็นกลุ่มที่มีความร่วมมือกับพันธมิตร มีความยืดหยุ่นในการปรับกลยุทธ์ให้สามารถรับงานโครงการก่อสร้างภาครัฐและเอกชน ได้สอดคล้องกับสถานการณ์ที่เปลี่ยนแปลง เข้าประมูลงานได้อย่างหลากหลาย

อีกทั้งปรับกลยุทธ์การก่อสร้างที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ลงทุนด้านเทคโนโลยีเพื่อลดมลภาวะ ตลอดจนยกระดับความสามารถในการดำเนินโครงการก่อสร้างที่ตอบโจทย์ด้านความยั่งยืน

ข้อมูลจากศูนย์วิจัยเศรษฐกิจและธุรกิจ ธนาคารไทยพาณิชย์ (SCBEIC) คาดการณ์ว่าในปี 2568 มูลค่าการก่อสร้างภาครัฐจะขยายตัวประมาณ 3% เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า โดยได้รับอานิสงส์จากการเบิกจ่ายงบลงทุนที่เร่งตัว หลังจากการประกาศใช้งบประมาณในเดือนพฤษภาคม 2567

อีกทั้งหน่วยงานต่างๆ ยังมีแผนเปิดประมูลโครงการเมกะโปรเจกต์เพื่อเร่งพัฒนาประเทศ อาทิ ด้านการคมนาคม ซึ่งถือเป็นโอกาสสำหรับผู้รับเหมาก่อสร้างรายใหญ่ รวมถึงจะส่งผลดีต่อเนื่องกับผู้รับเหมาก่อสร้างรายกลาง และรายเล็กในฐานะผู้รับเหมาช่วง ทำให้มีโอกาสในการสร้างรายได้รวมถึงการเพิ่มสภาพคล่องที่ดีขึ้น

สำหรับการก่อสร้างภาคเอกชนในปี 2568 คาดว่าจะมีการขยายตัวประมาณ 1% โดยการก่อสร้างโครงการที่อยู่อาศัยยังคงเผชิญแรงกดดันจากการฟื้นตัวที่มีความล่าช้าของตลาดที่อยู่อาศัย โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับโครงการระดับราคาปานกลางลงมา

ชวลิต ถนอมถิ่น ชวลิต ถนอมถิ่น

จากสภาพคล่องการใช้จ่ายของประชาชนที่ชะลอตัว ซึ่งมีความเกี่ยวข้องกับภาวะเศรษฐกิจ ซึ่งสวนทางกับโครงการระดับราคาปานกลางจนถึงระดับบน ทั้งนี้ การเติบโตของภาคก่อสร้างทั้งภาครัฐและเอกชนยังคงต้องพึ่งพาการดำเนินนโยบายและการเบิกจ่ายงบประมาณที่มีประสิทธิภาพ เพื่อเป็นการสนับสนุนการฟื้นตัวของอุตสาหกรรมก่อสร้างในภาพรวม

ลุยเจาะโครงการใหญ่ภาครัฐ

              นายชวลิต ถนอมถิ่น ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ไร้ท์ทันเน็ลลิ่ง จำกัด (มหาชน) หรือ RT มองภาพรวมอุตสาหกรรมก่อสร้างยังมีแนวโน้มการเติบโตอย่างต่อเนื่อง ถึงแม้ว่าในช่วงปีที่ผ่านมาจะได้รับผลกระทบจากความล่าช้าในการอนุมัติงบประมาณไปบ้าง แต่ปัจจุบันได้มีการเปิดประมูลงานภาครัฐในโครงการต่าง ๆ เป็นปกติแล้ว ซึ่งบริษัทมองว่าจะเป็นโอกาสให้กับบริษัทในการเข้าร่วมการประมูลและรับงานโครงการ รวมถึงสร้างรายได้ให้บริษัทอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะงานโครงการก่อสร้างในระดับภูมิภาคที่มุ่งเน้นการปรับปรุงโครงสร้างเดิมให้มีความแข็งแกร่งยิ่งขึ้น เพื่อรองรับการสัญจรของประชาชนในพื้นที่ รวมถึงการท่องเที่ยวในฤดูกาลต่าง ๆ

นอกจากกลยุทธ์ของบริษัทในปี 2568 ที่มุ่งเน้นการเข้ารับงานเฉพาะทางในโครงสร้างพื้นฐานขนาดใหญ่ รวมถึงระดับภูมิภาคที่สามารถเสริมสภาพคล่องในการรับรู้รายได้ให้บริษัทแล้ว ขณะเดียวกันบริษัทมีการบริหารจัดการค่าใช้จ่ายจากการบริหารงาน ควบคู่กับการปรับกลยุทธ์จัดการต้นทุนก่อสร้าง

โดยการติดตามสถานการณ์และประเมินแผนการใช้วัสดุก่อสร้างเป็นระยะ รวมถึงการเจรจากับพันธมิตรทางธุรกิจเพื่อวางแผนจัดซื้อวัสดุก่อสร้างล่วงหน้า ซึ่งส่งผลให้บริษัทสามารถควบคุมต้นทุนการก่อสร้างได้ดีขึ้น

สาธิต สุดบรรทัด สาธิต สุดบรรทัด

บุก4ช่องทางหลักแนวโน้มขยายตัว

              นายสาธิต สุดบรรทัด ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ผลิตภัณฑ์ตราเพชร จำกัด (มหาชน) หรือ DRT มองว่า ภาพรวมตลาดวัสดุก่อสร้างและตกแต่งในปี 2568 จะฟื้นตัวอย่างค่อยเป็นค่อยไป หลังจากที่หดตัวมากกว่า 10% ในปีก่อน เนื่องจากภาวะเศรษฐกิจชะลอตัว โดยปัจจัยสำคัญที่สนับสนุนการฟื้นตัวนี้มาจากสนับสนุนจากการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานของภาครัฐ การพัฒนาโครงการที่อยู่อาศัยของผู้ประกอบการอสังหา ริมทรัพย์ และความต้องการปรับปรุงซ่อมแซมบ้านที่เพิ่มขึ้นก็เป็นปัจจัยที่ช่วยกระตุ้นตลาดวัสดุก่อสร้าง

              ในส่วนของ DRT บริษัทฯ มองว่าช่องทางการขายหลักทั้ง 4 ช่องทางมีแนวโน้มขยายตัวจากปีก่อน ได้แก่ ตลาดส่งออกในกลุ่มประเทศอาเซียน เช่น กัมพูชา เวียดนาม

เมียนมา และ ฟิลิปปินส์ ที่มีศักยภาพเติบโตจากสินค้ากลุ่มหลังคา บอร์ด และไม้สังเคราะห์ นอกจากนี้ ห้างค้าปลีกวัสดุก่อสร้างสมัยใหม่ยังมีแผนขยายสาขาอย่างต่อเนื่องใน

ปีนี้ เพื่อเข้าถึงผู้บริโภคในระดับอำเภอ บริษัทฯ ยังวางแผนเพิ่มจำนวนร้านค้าตัวแทนจำหน่ายให้ครอบคลุมทั่วทุกพื้นที่ยิ่งขึ้น และร่วมมือกับบริษัทผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ที่มีแผนพัฒนาโครงการเพิ่มขึ้น เพื่อรองรับความต้องการที่อยู่อาศัยที่เพิ่มขึ้น

อนันต์กร อมรวาที อนันต์กร อมรวาที

มุ่งสร้างความเชื่อมั่นผู้บริโภค

              นายอนันต์กร อมรวาที นายกสมาคมธุรกิจรับสร้างบ้าน (HBA : Home Builder Association)  มีมุมมองภาพรวมตลาดอสังหาริมทรัพย์ในปี 2568 ว่ายังคงเผชิญความท้าทายจากภาวะเศรษฐกิจและกำลังซื้อที่ฟื้นตัวช้ากว่าที่คาดจากภาระหนี้ครัวเรือนที่สูงขึ้น ซึ่งอาจทำให้กำลังซื้อลดลงในตลาดบ้านช่วงราคากลาง หรือ 5-10 ล้านบาท  และสถาบันการเงินมีความเข้มงวดในการปล่อยสินเชื่อ ส่งผลให้กำลังซื้อยังไม่ฟื้นตัวเต็มที่  อีกทั้งกลุ่มกำลังซื้อสูงในระดับ10-20 ล้านบาทชะลอตัวลงเล็กน้อย ในทางกลับกันตลาดบ้านในระดับ 20 ล้านขึ้นไปยังคงมีความต้องการสูง

              อย่างไรก็ตาม ตลาดบ้านสร้างเองยังมีแนวโน้มเติบโตได้ดี เนื่องจากผู้บริโภคมีความต้องการที่อยู่อาศัยที่ตอบโจทย์รูปแบบการใช้ชีวิตมากขึ้น ขณะเดียวกันผู้ประกอบการก็ต้องเร่งปรับตัวเพื่อให้ทันต่อความต้องการใหม่ ๆ ทั้งด้านนวัตกรรมและการออกแบบที่ตอบโจทย์ครอบครัวรุ่นใหม่และกลุ่มคนวัยทำงานที่ต้องการบ้านที่มีพื้นที่ใช้สอยคุ้มค่า

              สำหรับการดำเนินงานของสมาคมธุรกิจรับสร้างบ้าน (HBA)

ในปี 2568 มุ่งเน้นสร้างความมั่นใจให้ผู้บริโภคด้วยการผลักดันมาตรฐานคุณภาพงานสร้างบ้านให้สูงขึ้น พร้อมทั้งสนับสนุนให้สมาชิกใช้เทคโนโลยีดิจิทัลและวัสดุก่อสร้างที่เป็นมิตร

ต่อสิ่งแวดล้อมมากขึ้น นอกจากนี้ยังมีแผนการจัดงานประจำปีและการอบรม ต่อเนื่อง เพื่อเป็นการเปิดโอกาสให้ผู้บริโภคได้เข้าถึงข้อมูลและผู้ประกอบการได้พบปะกลุ่มลูกค้าเป้าหมายโดยตรง รวมถึงการส่งเสริมการอบรมและพัฒนาผู้ประกอบการรายย่อยให้มีศักยภาพแข่งขันในตลาดที่เปลี่ยนแปลงรวดเร็วได้อย่างมั่นคง

 

หน้า 20 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 45 ฉบับที่ 4,083 วันที่ 30 มีนาคม - 2 เมษายน พ.ศ. 2568