"ในหลวง"เสด็จฯวางศิลาฤกษ์แท่นฐานพระบรมราชานุสาวรีย์ร.9 วันที่ 5 ธ.ค.นี้
"ในหลวง"เสด็จฯทรงวางศิลาฤกษ์แท่นฐานพระบรมราชานุสาวรีย์ ร.9 อุทยานฯเฉลิมพระเกียรติฯ ร.9(สนามม้านางเลิ้งเดิม)วันที่ 5 ธ.ค.นี้ ผบ.ตร.ชวนประชาชนเฝ้าฯ รับเสด็จโดยอุทยานเฉลิมพระเกียรติฯมีเนื้อที่ 279 ไร่ ถือเป็นแหล่งเรียนรู้งานตามพระราชดำริ คาดแล้วเสร็จจะเปิดให้ประชาชนได้เข้าชมในปี 2567
พระบาทสมเด็จพระเจ้าพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัวจะเสด็จพระราชดำเนินฯทรงวางศิลาฤกษ์แท่นฐานพระบรมราชานุสาวรีย์ พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ณ อุทยานเฉลิมพระเกียรติร.9 (สนามม้านางเลิ้งเดิม)วันที่ 5 ธ.ค.นี้
พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) กล่าวภายหลังเป็นประธานประชุมเตรียมความพร้อมการรักษาความปลอดภัย อำนวยความสะดวกการจราจร และการบริการประชาชน พิธีวางศิลาฤกษ์แท่นฐานพระบรมราชานุสาวรีย์ พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ณ อุทยานเฉลิมพระเกียรติฯ ซึ่งมีผู้แทนจากหน่วยราชการที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมประชุมว่า เนื่องในวันคล้ายวันพระบรมราชสมภพ พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร วันที่ 5 ธันวาคม 2564 มีกิจกรรมประวัติศาสตร์คือ
“พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว จะเสด็จฯ ในพิธีวางศิลาฤกษ์แท่นฐานพระบรมราชานุสาวรีย์ฯ และจะทรงปลูกต้นไม้ เวลา 16.00 น. จึงขอเชิญชวนประชาชนแต่งกายชุดสุภาพมาเฝ้าฯ รับเสด็จ ขณะที่อุทยานเฉลิมพระเกียรติฯ ยังอยู่ระหว่างก่อสร้าง คาดว่าจะเปิดให้บริการได้ในปี 2567” พล.ต.อ.สุวัฒน์กล่าว
พล.ต.ท.ไกรบุญ ทรวดทรง ผู้ช่วย ผบ.ตร. กล่าวว่า หลายหน่วยงานได้ประชุมเตรียมความพร้อมการอำนวยความสะดวกให้ประชาชนที่จะเดินทางมาเฝ้ารับ-ส่งเสด็จฯในวันดังกล่าว
ทั้งนี้ทางขนส่งมวลชนกรุงเทพฯหรือ ขสมก.ได้จัดรถShuttle busไว้จำนวน 45 คัน ให้บริการฟรีใน 5 เส้นทาง คือ
- เส้นทางอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ – อุทยานเฉลิมพระเกียรติฯ
- เส้นทางวงเวียนใหญ่– อุทยานเฉลิมพระเกียรติฯ
- เส้นทางสนามศุภชลาศัย– อุทยานเฉลิมพระเกียรติฯ
- เส้นทางสนามหลวง– อุทยานเฉลิมพระเกียรติ
- เส้นทางสถานีรถไฟหัวลำโพง– อุทยานเฉลิมพระเกียรติฯ
รวมถึงจัดเดินรถโดยสาร Shuttle bus (จอดรับส่งเฉพาะต้นทางปลายทาง)จำนวน 2 เส้นทางคือ เส้นทางสนามศุภชลาศัย– กรมทางหลวงและ เส้นทางสนามศุภชลาศัย – ร.ร.ราชวินิตมัธยม การให้บริการ ต้นทางเที่ยวแรกตั้งแต่ เวลา 15.00 น.,ต้นทางเที่ยวสุดท้าย เวลา 17.00 น.,ปลายทางเที่ยวสุดท้าย เวลา 18.00 น. หรือจนกว่าผู้มาร่วมงานหมดพื้นที่ ความถี่ในการปล่อยรถ 20 นาที/คัน
ด้านกรมเจ้าท่า เรื่องการดูแลการเดินทางทางน้ำ การให้บริการเรือข้ามฟาก 3 ท่าเรือท่าช้าง – ท่าเรือวัดระฆัง-ท่าเรือวัดอรุณ ตั้งแต่เวลา 08.00-20.00น. เรือออกทุก 15นาที ด้านกรมเจ้าท่า ให้บริการเดินทางทางน้ำ การให้บริการเรือข้ามฟาก 3 ท่าเรือท่าช้าง – ท่าเรือวัดระฆัง-ท่าเรือวัดอรุณ ตั้งแต่เวลา 08.00-20.00น. เรือออกทุก 15นาที รวมทั้งเรือคลองแสนแสบจะให้บริการในวันดังกล่าว
สำหรับประชาชนที่นำรถมาเองสามารถนำไปจุดจุดจอดรถกระทรวง การพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ หรือ พม. (จำนวนที่จอดได้ 326 คัน),ลานจอดรถยนต์ อาคารใหม่กระทรวงพม.,ลานจอดรถยนต์ใต้ดิน กระทรวง พม.แล้วต่อรถ Shuttle busที่จัดไว้ให้บริการฟรี
ด้านมาตรการทางด้านสาธารณสุข จัดจุดตรวจ ATK บริเวณกรมทางหลวง ,ร.ร.ราชวินิตมัธยม โดยมีจุดคัดกรอง 2 จุด คือจุดกลับรถถนนศรีอยุธยาและจุดคัดกรองฝั่งตรงข้ามวัดเบญจมบพิตร โดยประชาชนที่จะเข้าร่วมเฝ้าเสด็จฯจะต้องผ่านการตรวจโควิด-19 ด้วย ATK ทุกคน ซึ่งได้จัดเตรียมไว้จำนวน 14,000ชุด และสำรองไว้เพียงพอกับจำนวนประชาชน
ทั้งนี้ขอเชิญชวนประชาชนที่สนใจร่วมเป็นส่วนหนึ่งในประวัติศาสตร์เข้าร่วมพิธีวางศิลาฤกษ์ฯสำหรับ อุทยานเฉลิมพระเกียรติฯ ร.9 แห่งนี้มีเนื้อที่ทั้งหมด 279 ไร่ ถือเป็นแหล่งเรียนรู้งานตามพระราชดำริ ภายใต้แนวคิด “สวนแห่งความสุข และความยั่งยืน”และเป็นสวนสาธารณะแก่ประชาชน เพื่อเทิดพระเกียรติพระบาทสมเด็จ พระบรมราชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดช มหาราช บรมนาถบพิตร หรือในหลวงรัชกาลที่ 9 ซึ่งจะเปิดให้ประชาชนได้เข้าชมในปี 2567
