มวยปล้ำ นับเป็นอีกหนึ่งกีฬายอดฮิต แรกเริ่มเดิมที มวยปล้ำอาชีพ เริ่มเป็นที่นิยมในทวีปยุโรปช่วงคริสต์ศตวรรษที่ 19 ภายหลัง ได้รับการเผยแพร่เข้ามาในแถบทวีปอเมริกาทั้งหมด ไปจนถึงหมู่เกาะบริเวณมหาสมุทรแปซิฟิก ทวีปออสเตรเลีย และทวีปเอเชีย
โดยปัจจุบัน มวยปล้ำอาชีพยังคงได้รับความนิยมจากผู้ชมทั่วโลก โดยมีกลุ่มผู้ชมมากที่สุดตั้งแต่ช่วงปลายคริสต์ศตววรษที่ 20 เป็นต้นมา แม้จะมีการยืนยันว่ามวยปล้ำอาชีพในยุคสมัยใหม่นั้น เป็นเพียงการแสดงเพื่อความบันเทิงของผู้รับชมแล้วก็ตาม
ส่วนในประเทศไทย มวยปล้ำอาชีพ ได้เข้ามาแพร่ภาพในประเทศไทย ทางโทรทัศน์ ตั้งแต่ช่วงต้นปี 2530 ทางเคเบิลทีวี และผลิตเป็นม้วนวิดีโอ โและได้รับความนิยมอย่างยิ่งในช่วงต้นปี 2540 โดยส่วนหนึ่งมาจากการบรรยายของ สุวัฒน์ กลิ่นเกษร หรือที่รู้จักกันในนาม "น้าติง"
สำหรับสมาคมมวยปล้ำอาชีพในไทยนั้น เคยมีชาวต่างชาติจัดตั้งค่ายมวยปล้ำอาชีพเกิดขึ้นในไทยช่วงปี 2533 ในชื่อค่าย "ไทย เรสต์ลิง เฟดเดอเรชั่น (Thai Wrestling Federation - TWF) โดยจัดการปล้ำในพัทยา แต่ก็เป็นแค่ในระยะสั้นๆ
จนในปี 2555 เอมิ ซากุระ (Emi Sakura) นักมวยปล้ำอาชีพหญิงชาวญี่ปุ่น ได้ก่อตั้งสมาคมมวยปล้ำอาชีพ นามว่า "กาโตห์ มูฟ โปรเรสต์ลิง" (Gatoh Move Pro Wrestling) ในประเทศไทย พร้อมทั้งฝึกสอนนักมวยปล้ำชาวไทย และจัดการแสดงมวยปล้ำเป็นระยะ
แต่ในท้ายที่สุด เมื่อปี 2562 กาโตห์ มูฟ โปรเรสต์ลิง ได้ยุติการดำเนินงานในประเทศไทย หลังจากนั้นก็ได้เกิดสมาคมมวยปล้ำที่แยกตัวออกมาหลังจากการยุติกิจการของกาโตห์ มูฟ ประเทศไทย 2 สมาคม หนึ่งในนั้นคือ ท๊อป โดโจ - ไทยแลนด์ ออริจินัล โปรเรสต์ลิง (TOP Dojo - Thailand Origin Pro Wrestling)
ดำเนินงานโดยแท็กทีม "แบด คอมปานี" (Bad Company) อันประกอบด้วย "พี-นัทซ์" (P-Nutz) และ "โกเล็ม ไทย" (Golem Thai) อดีตแชมป์ Southeast Asia Tag Team ของสมาคม SPW ประเทศสิงคโปร์ มีรูปแบบเป็น "มวยปล้ำบนเบาะ" ที่มีความมันไม่ได้ต่างจากการปล้ำบนสังเวียน
สำหรับความพิเศษของมวยปล้ำบนเบาะ รูปแบบนี้เหมาะสำหรับค่ายเล็ก ๆ โดยทำการแข่งขันในสถานที่ที่จำกัดเรื่องพื้นที่ แทนการตั้งเวทีขนาดใหญ่ ที่มีความเฉพาะ และเพิ่มรายละเอียดบางส่วนเข้าไป เพื่อความปลอดภัย และความลื่นไหลของการแข่งขัน
ความโดดเด่นของมวยปล้ำบนเบาะ ทำให้บรรยากาศการแข่งขันมีความเป็นกันเองอย่างมาก ผู้ชมทุกคนจะได้เห็นนักมวยปล้ำและการต่อสู้อย่างใกล้ชิด ตั้งแต่วินาทีที่นักมวยปล้ำเปิดตัวไปจนถึงตอนจบการแข่งขัน
นอกจากนี้ผู้ชมสามารถมีปฏิสัมพันธ์อย่างใกล้ชิด เช่น การใช้พื้นที่นอกเบาะแทนการจับเชือกเพื่อหยุดการจับล็อค การให้ผู้ชมแถวแรกช่วยผลักแทนเชือกเพื่อเพิ่มพลังโจมตี การกระโดดจากที่นั่งผู้ชมของนักมวยปล้ำเหินเวหา หรือการที่นักมวยปล้ำไม่สามารถหนีออกจากเบาะได้เพราะโดนผู้ชมจับตัวไว้
ล่าสุด TOP Dojo เตรียมจัดการแข่งขันมวยปล้ำบนเบาะ มีรายละเอียด ดังนี้
การแข่งขันมีรายละเอียด ดังนี้
Single Match กำหนด 1 ยก 15 นาที
Single Match กำหนด 1 ยก 15 นาที
Main Event : Submission Match กำหนด 1 ยก 20 นาที
KUMA TOP dojo หนึ่งในนักมวยปล้ำที่ลงแข่งขันในครั้งนี้ บอกว่า ความฝันของตัวเองในฐานะของนักมวยปล้ำอาชีพ อยากทำให้คนรู้จักว่าในไทยก็มีมวยปล้ำอาชีพอยู่ ทำให้คนสนใจมากขึ้น และอยากผลักดัน ให้มวยปล้ำอาชีพนี้สามารถสร้างรายได้ให้กับตัวนักมวยปล้ำอาชีพได้ในอนาคต
ทั้งนี้ผู้ที่สนใจสามารถติดตามการรายละเอียดได้ดังนี้