นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เปิดเผยว่า กระทรวงการท่องเที่ยวฯ เตรียมเสนอที่ประชุมคณะกรรมการบริหารกองทุนพัฒนาการกีฬาแห่งชาติ ที่มี พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธาน เรียกประชุมคณะกรรมการกองทุน เร่งด่วน ในสัปดาห์นี้ เพื่อขอใช้เงินกองทุนฯ จำนวน 600 ล้านบาท เป็นเงินสำรองจ่ายในการซื้อลิขสิทธิ์การถ่ายทอดสดฟุตบอลโลก 2022
โดยถือเป็นเงินสำรองอีกก้อนหนึ่ง นอกเหนือจากเงินกองทุนวิจัยและพัฒนากิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคม เพื่อประโยชน์สาธารณะ (กทปส.) ที่ทางคณะกรรมการ กสทช. ได้เห็นชอบการจัดสรรมาให้แล้ว จำนวน 600 ล้านบาท
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
“ตอนนี้มีเงินจาก กทปส. แล้ว 600 ล้านบาท ส่วนอีก 600 ล้านบาท ต้องหาเอกชนเข้ามาร่วมสนับสนุนค่าลิขสิทธิ์ด้วย แต่ในระหว่างนี้จะเสนอขอเงินกองทุนพัฒนาการกีฬาฯ เอามาสำรองไว้ก่อน 600 ล้านบาท และเมื่อได้เงินจากภาคเอกชนแล้วก็นำมาคืนให้กองทุน ทำให้มีเงินพอจ่ายค่าลิขสิทธิ์ ซึ่งตอนนี้การกีฬาแห่งประเทศไทย หรือ กกท. จะพยายามต่อรองค่าลิขสิทธิ์ให้เหลือวงเงินไม่เกิน 1,200 ล้านบาท”
กรณีของการดึงเงินจากกองทุนพัฒนาการกีฬาฯ มาใช้เป็นค่าลิขสิทธิ์การถ่ายทอดสดฟุตบอลโลก จะผิดวัตถุประสงค์ของกองทุนหรือไม่นั้น นายพิพัฒน์ ยอมรับว่า ไม่ผิดวัตถุประสงค์ของกองทุน เพราะถือเป็นการส่งเสริมการพัฒนากีฬา สร้างแรงบันดาลใจให้กับเยาวชน และการขอใช้เงินนั้นก็เป็นเพียงแค่การยืมเงินจากกองทุนเท่านั้น
นายพิพัฒน์ กล่าวว่า การดึงเอกชนมาร่วมสนับสนุนค่าลิขสิทธิ์การถ่ายทอดสดฟุตบอลโลก ล่าสุด หน่วยงานต่าง ๆ ของกระทรวงการท่องเที่ยวฯ ได้คุยกับเอกชนหลายรายแล้ว รวมวงเงินสนับสนุนใกล้เคียงกับกรอบที่ตั้งเอาไว้ 600 ล้านบาท ซึ่งเรื่องการถ่ายทอดสดฟุตบอลโลก รอบสุดท้ายครั้งนี้ กระทรวงการท่องเที่ยวฯ เชื่อว่าจะช่วยสร้างความสุขให้กับคนไทย ได้สามารถรับชมฟุตบอลโลกสด ๆ ผ่านฟรีทีวี ครบทุกนัด
สำหรับ การแข่งขันฟุตบอลโลก 2022 (FIFA World Cup Final) จะจัดขึ้นที่ประเทศกาตาร์ โยเตรียมฟาดแข้งกันกันตามโปรแกรม ระหว่างวันที่ 20 พฤศจิกายน -18 ธันวาคม 2565 ซึ่งประเทศไทยจะต้องซื้อลิขสิทธิ์ถ่ายทอดสดฟุตบอลโลก 2022 รวมภาษี มูลค่า 42 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ หรือคิดเป็นเงินไทยประมาณ 1,600 ล้านบาท แต่เบื้องต้นกระทรวงการท่องเที่ยวฯ ได้สั่งการ กกท. พยายามต่อรองลงมาให้ไม่เกินวงเงิน 1,200 ล้านบาท