เว็บไซต์ uefa.com เปิดเผย “Where to watch UEFA EURO 2024: TV broadcast partners, live streams” เมื่อวันที่ 21 พ.ค. 2567 ซึ่งเป็นการประกาศรายชื่อประเทศทั้งในกลุ่มอียู(ยุโรป) และนอกยุโรป ที่บรรลุข้อตกลงในการซื้อลิขสิทธิ์การถ่ายทอดสดบอลยูโร 2024 หรือ ฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรป 2024( EURO 2024) ที่มีประเทศเยอรมนี เป็นเจ้าภาพระหว่างเดือนวันที่ 14 มิถุนายน – 14 กรกฎาคม ค.ศ. 2024
ซึ่งฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรป 2024 หรือ ยูโร 2024 เป็นการแข่งขันฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรปครั้งที่ 17 จัดขึ้นโดยยูฟ่า จัดขึ้นที่ประเทศเยอรมนี นับเป็นครั้งที่ 3 ที่เยอรมนีเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขัน โดยครั้งแรก ฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรป 1988 ขณะเป็นเยอรมนีตะวันตก และครั้งที่สอง ฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรป 2020 (ซึ่งแข่งขันในปี 2021) แข่งขัน 4 นัด ที่สนามอัลลีอันทซ์อาเรนา เมืองมิวนิก ซึ่งนับว่าเป็นการแข่งขันครั้งแรกในเยอรมันตะวันออกในอดีต
สำหรับรายชื่อประเทศที่ซื้อลิขสิทธิ์ถ่ายทอดสดฟุตบอลยูโร 2024 ข้อมูลล่าสุด พบว่ายูฟ่าได้แบ่ง ลิสต์รายชื่อประเทศเป็น 2 กลุ่ม คือ
ฐานเศรษฐกิจ เจาะรายละเอียดข้อมูลพบว่าจุดที่น่าสนใจคือ ข้อมูลจาก uefa.com ระบุถึงประเทศในอาเซียนที่ปรากฏชื่อแล้ว 5 ประเทศ ดังนี้
ก่อนหน้านี้ เมื่อวันที่ 9 พ.ค. 2567 ดร.ก้องศักด ยอดมณี ผู้ว่าการการกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.) เปิดเผยถึงความคืบหน้าเรื่องลิขสิทธิ์ถ่ายทอดสดฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรป หรือ ยูโร 2024 ที่ประเทศเยอรมนี จะเป็นเจ้าภาพระหว่างวันที่ 14 มิ.ย.-14 ก.ค.67 ว่าจะมีการคุยเพื่อหาข้อสรุปที่ชัดเจนในเร็วๆ นี้
ดร.ก้องศักด เผยว่า "ก่อนหน้านี้ได้มีการหารือเรื่องการให้สิทธิ์กับทางภาคเอกชน ที่มีความตั้งใจจะเข้ามาเพื่อซื้อลิขสิทธิ์ฟุตบอลยูโร 2024 แล้ว ซึ่งจะเป็นการร่วมมือกับทางภาครัฐ ซึ่งทาง ดร.ก้องศักด มีความเชื่อมั่นในความตั้งใจของรัฐบาล แต่จะต้องขอเวลาประชาชนประมาณ 1 สัปดาห์ จะมีความชัดเจนที่มากขึ้น"
"ฟุตบอลยูโร 2024 น่าจะได้ข้อสรุปที่ชัดเจน ยังมีความเชื่อมั่นด้วยความตั้งใจของรัฐบาล วันนี้ก็ได้หารือกันว่าภาคเอกชน ซึ่งมีหลายเจ้าที่แสดงความจำนงค์ที่จะซื้อสิทธิ์ และทำกิจกรรมร่วมกันกับทางภาครัฐ ก็มีแนวโน้มที่ดี แต่เดี๋ยวขอเวลาอีกสักหนึ่งอาทิตย์ ก็คงจะชัดเจนแต่ในแง่ของภาครัฐ" บิ๊กก้อง กล่าว
สำหรับตัวเลขการซื้อลิขสิทธิ์ฟุตบอลยูโร 2024 นั้น ดร.ก้องศักด ระบุว่า "พอจะมีตัวเลขคร่าวๆแล้ว แต่อยากให้ผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องได้มีการออกมาประกาศด้วยตัวเอง เพราะการซื้อลิขสิทธิ์ฟุตบอลยูโรในครั้งนี้ ไม่ได้มีการใช้งบประมาณจากรัฐบาล หรือ กกท. แต่จะเป็นในส่วนของภาคเอกชน เข้ามาช่วยกันในการซื้อลิขสิทธิ์ ภาครัฐจะมีหน้าที่ในการเรียกกระแสผ่านกิจกรรมต่างๆ ทั้งในส่วนกลางและระดับภูมิภาค เพื่อเป็นการสร้างกระแสตื่นตัวในการเชียร์ฟุตบอลเพียงเท่านั้น"
ที่มาข้อมูล : uefa.com