การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ(Climate Change)ของไทย ที่นับวันจะทวีความรุนแรงขึ้น ส่งผลหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง รวมถึงภาคประชาชนร่วมมือ หาแนวทางแก้ไข เพื่อนำไปสู่ การรับมือ ได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น
นายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (รมว.ทส.) เป็นประธานในพิธีเปิดการประชุมเครือข่ายองค์กรเอกชนด้านการคุ้มครองสิ่งแวดล้อมและอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและภาคีความร่วมมือ
โดยมี นายจตุพร บุรุษพัฒน์ ปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม นายสมศักดิ์ สรรพโกศลกุล อธิบดีกรมส่งเสริมคุณภาพสิ่งแวดล้อม พร้อมด้วยผู้บริหารระดับสูง และเครือข่ายภาคประชาชนด้านสิ่งแวดล้อม เข้าร่วม ณ ห้องประชุมอารีย์สัมพันธ์ กรมส่งเสริมคุณภาพสิ่งแวดล้อมเมื่อวันที่ 16 ธันวาคม 2565 ที่ผ่านมา
ภายหลังรับข้อเสนอแนวทางการแก้ไขปัญหาการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศจากเครือข่ายภาคประชาชน นายวราวุธ สะท้อนว่า ข้อเสนอนี้นับว่ามีคุณค่ามาก เพราะแสดงให้เห็นถึงความเข้าใจและความตระหนักรู้ของพี่น้องเครือข่ายภาคประชาชน ถึงความรุนแรงของปัญหาการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ
ที่สำคัญคือ เห็นว่าเป็นภาระของทุกหน่วยงาน ไม่ใช่เพียงแค่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเพียงหน่วยงานเดียว ซึ่งเป็นการแสดงถึงความเข้าใจในทุกมิติของการแก้ไขปัญหาภาวะโลกร้อน ว่าต้องมีการบูรณาการความร่วมมือจากทุกภาคส่วนเข้าด้วยกัน จึงเป็นหน้าที่ของพี่น้องเครือข่ายและเราทุกคนต่อจากนี้ที่จะทำให้คนรอบข้างเข้าใจเช่นเดียวกันนี้ด้วย
นายวราวุธ ยังได้กล่าวต่อว่า ที่ผ่านมากระทรวงฯ ได้พัฒนากลไกของภาคพลเมือง และการสนับสนุนจากกองทุนต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับปัญหาโลกร้อน โดยปัจจุบันกองทุนสิ่งแวดล้อมของไทยเรา ได้มีการสนับสนุนงบกว่า 88 ล้านบาท ให้ทุกจังหวัดได้คิดค้นแนวทางการแก้ไขปัญหาการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศในพื้นที่ของตนเอง
ตามบริบทของแต่ละพื้นที่ที่แตกต่างกัน การสร้างความเท่าเทียมในการแก้ไขปัญหาอย่างทั่วถึง โดยเฉพาะในกลุ่มที่เปราะบาง เช่น ผู้หญิงและเด็ก และกลุ่มชายขอบ เป็นต้น เพราะมิติของการแก้ไขปัญหาการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ เราต้องเดินไปด้วย โดยไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง การปรับโครงสร้างของกระทรวงฯ
โดยจะมีกรมการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและสิ่งแวดล้อมขึ้น จึงจะเป็นการปรับเปลี่ยนเพื่อให้เกิดการขับเคลื่อนการทำงานในทุกมิติร่วมกันได้อย่างมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น