ทส. ผนึกกำลัง บีโอไอ -ภาคเอกชน จัดการป่าลดปัญหาฝุ่นละออง PM2.5 อย่างยั่งยืน

30 มี.ค. 2567 | 02:28 น.
อัปเดตล่าสุด :30 มี.ค. 2567 | 02:35 น.

ทส. ผนึกกำลัง บีโอไอ -ภาคเอกชน จัดการป่าลดปัญหาฝุ่นละออง PM2.5 อย่างยั่งยืน ต้องทำงานร่วมกับทุกภาคส่วน ทั้งกระทรวง กรมต่าง ๆ ในส่วนกลาง ลงไปถึงระดับพื้นที่ ร่วมกับผู้ว่าราชการจังหวัด องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น เพื่อเชื่อมโยงไปหาประชาชน

 

กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม(ทส.) โดย นายจตุพร บุรุษพัฒน์ ปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ร่วมกับ นายสุทธิเกตติ์ ทัดพิทักษ์กุล รองเลขาธิการคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) เป็นประธานจัดการประชุมชี้แจงแนวทางให้การสนับสนุนและการมีส่วนร่วมดำเนินโครงการจัดการป่าเพื่อลดปัญหาฝุ่นละออง PM2.5 อย่างยั่งยืน ให้กับผู้ประกอบการภาคเอกชน เพื่อเชิญชวนเข้าร่วมโครงการ

นายจตุพร กล่าวว่า  รัฐบาลโดยนายกรัฐมนตรี นายเศรษฐา ทวีสิน ให้ความสำคัญอย่างยิ่งกับการป้องกันและแก้ไขปัญหาไฟป่า หมอกควัน และฝุ่นละออง PM2.5 ซึ่งพลตำรวจเอก พัชรวาท วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ได้ให้นโยบายและสั่งการการแก้ไขปัญหา โดยต้องทำงานร่วมกับทุกภาคส่วน ทั้งกระทรวง กรมต่าง ๆ ในส่วนกลาง

ลงไปถึงระดับพื้นที่ ร่วมกับผู้ว่าราชการจังหวัด องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น เพื่อเชื่อมโยงไปหาประชาชน ทั้งที่เป็นต้นทางการเกิดฝุ่นและการดูแลประชาชนผู้ได้รับผลกระทบ เพื่อให้การดำเนินงานเกิดประสิทธิภาพ

ทส. จึงสร้างกลไกให้ภาคเอกชนเข้ามาร่วมสนับสนุนในการแก้ไขปัญหาไฟในป่า โดยหารือร่วมกับสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) เพื่อริเริ่มการขับเคลื่อนให้ผู้ประกอบการภาคเอกชนมีส่วนร่วมสนับสนุนการแก้ไขปัญหา เพื่อลดข้อจำกัดด้านงบประมาณภาครัฐ จนมีการออกประกาศคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน ที่ 1/2567 เรื่อง มาตรการส่งเสริมการลงทุนเพื่อพัฒนาชุมชนและสังคม

เพื่อยกระดับสิ่งแวดล้อมโดยการจัดการป่าและการลดปัญหาฝุ่นละออง PM2.5 อย่างยั่งยืน ครอบคลุมพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติ ป่าอนุรักษ์ และป่าชุมชน ผ่านการสนับสนุนเครื่องมือและอุปกรณ์ดับไฟป่า การฝึกอบรมเพื่อถ่ายทอดองค์ความรู้ด้านการป้องกันและควบคุมไฟป่า การก่อสร้างจุดเฝ้าระวังไฟป่า การแปรรูปวัสดุเชื้อเพลิงจากป่าและพื้นที่เกษตรในเขตป่าเพื่อสร้างมูลค่าเพิ่ม รวมถึงการส่งเสริมการผลิตของป่าให้มาอยู่ในภาคครัวเรือนเพื่อการค้าเพื่อลดการเข้าไปจุดไฟในป่า ซึ่งสิ่งที่ภาคเอกชนได้ลงทุนให้กับภาครัฐ ท้ายที่สุดจะถูกส่งต่อให้กับองค์กรชุมชนและประชาชนในพื้นที่ จึงเป็นการเพิ่มประสิทธิภาพการป้องกันและควบคุมไฟป่า

ร่วมลงนาม

โดยผู้ประกอบการที่เข้าร่วมโครงการจะได้รับสิทธิและประโยชน์ในการยกเว้นภาษีเงินได้นิติบุคคลเป็นการตอบแทน กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม มุ่งมั่นที่จะขับเคลื่อนการแก้ไขปัญหาไฟป่า หมอกควัน และฝุ่นละออง PM2.5 ให้เกิดผลอย่างเป็นรูปธรรม โดยร่วมกับบีโอไอขอเชิญชวนผู้ประกอบการภาคเอกชน ร่วมกันสนับสนุนโครงการจัดการป่าเพื่อลดปัญหาฝุ่นละออง PM2.5 เพื่อร่วมกันสร้างให้ประเทศไทยอากาศสะอาดสดใส - ไร้ฝุ่นควันอย่างยั่งยืนต่อไป นายจตุพร กล่าว